เคาะแล้วภาษีบุหรี่ใหม่ ดันราคาขายพุ่งซองละ 8 บาท เริ่มใช้ 1 ต.ค.นี้


เพิ่มเพื่อน    

 

28 ก.ย. 2564 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2564 เห็นชอบการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 2564 เป็นต้นไป ส่วนจะเป็นอัตราใดนั้น ขอให้รอประกาศไม่เกิน 1-2 วันนี้

ทั้งนี้ ในวันที่ 30 ก.ย.กรมสรรพสามิตจะทำการลงพื้นที่ เพื่อเช็คสต๊อกคงเหลือของบุหรี่ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกักตุน หรือ ฉวยโอกาสในการใช้อัตราภาษีเดิม ซึ่งบุหรี่ในสต๊อกคงเหลือทั้งหมดจะต้องใช้อัตราภาษีใหม่ที่จะบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป

รายงานข่าวกระทรวงการคลัง ระบุว่า โครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ มีการปรับทั้งหมด ในส่วนการจัดเก็บตามตามปริมาณจาก 1.20 บาทต่อมวน เป็น 1.25 บาทต่อมวน ขณะที่การเก็บภาษีตามมูลค่ายังเป็น 2 อัตรา จากที่เก็บ 20% ของราคาขายปลีกซองละไม่เกิน 60 บาท  และ 40% สำหรับราคาขายปลีกที่เกิน 60 บาท เป็น 25% ของราคาขายปลีกซองละไม่เกิน 72 บาท  และ 42% สำหรับราคาขายปลีกที่เกิน 72 บาท

"ครม.เห็นชอบภาษีบุหรี่ใหม่คาดว่าจะส่งผลให้ราคาขายปลีกบุหรี่ ขยับขึ้นอีกซองละ 6-8 บาท โดยกรมสรรพสามิต จะชี้แจงรายละเอียดการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ ทั้งหมด ในวันที่ 30 ก.ย.2564 เวลา 16.00 น. หลังอัตราภาษีใหม่ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว" รายงานข่าว ระบุ

รายงานข่าว ระบุอีกว่า การพิจารณาการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่อย่างรอบคอบแล้ว ซึ่งจะตอบโจทย์ใน 4 เรื่องหลัก คือ 1. ด้านสาธารณสุข 2. ด้านเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบ จะต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด 3. ด้านรายได้ของรัฐบาลจะต้องไม่ลดลง และ 4. ด้านการดูแล บริหารจัดการบุหรี่เถื่อน และบุหรี่ปลอม

นายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร ผู้ว่าการ การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เปิดเผยว่า ถ้ามีการปรับขึ้นภาษี ยสท.ก็ต้องปรับราคาขายขึ้นตาม เพื่อให้อยู่ได้ ส่วนจะปรับเท่าไหร่ และจะมีผลทันทีตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ด้วยหรือไม่ ต้องรอติดตามกรมสรรพสามิต และต้องนำผลเข้าหารือกับคณะกรรมการด้านราคา ของ ยสท. อีกครั้ง

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา การปรับโครงสร้างภาษีเป็น 2 อัตรา คือ 20% และ 40% กระทบยอดผลิตของ ยสท. เดิม 28,000 ล้านมวน เหลือ 18,000 ล้านมวนต่อปี ซึ่งยอมรับว่า หากมีการขึ้นภาษีอีกก็จะกระทบรายได้อีกแน่นอน แต่องค์กรจะยังสามารถอยู่ได้ ยังมั่นคง ไม่มีปัญหา

อย่างไรก็ดี ยสท.ไม่ได้ห่วงว่า ผลจากการขึ้นภาษีจะทำให้แข่งขันกับบุหรี่นอกลำบาก แต่ห่วงเรื่อง บุหรี่เถื่อน ซึ่งจะเพิ่มขึ้นกระฉูด โดยที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นกว่า 20% แล้ว รวมทั้งการสูบยาเส้นที่ มีผลต่อสุขภาพมากกว่า เพิ่มขึ้นจาก 1 หมื่นล้านมวน เป็น 3.7 หมื่นล้านมวนต่อปี

ทั้งนี้ ยสท.อยู่ระหว่างศึกษา ผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือ Fighting Brand ที่มีราคาต่ำ เพื่อสร้างรายได้ แต่ก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ โดยเฉพาะผลกระทบทางสังคม และ สาธารณสุข


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"