พรรคฝ่ายค้านมั่นใจเลือกตั้งรอบหน้า’บิ๊กตู่’หมดสิทธิ์!


เพิ่มเพื่อน    

29 ก.ย.2564 - นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องการดำรงตำแหน่งของนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 ระบุชัดว่า นายกฯ จะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ ฝ่ายค้านแทบไม่ต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะชัดเจนในตัวมันเองแล้ว ถ้าตีความแบบฝ่ายค้านตีความ ต้องนับตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 และบทเฉพาะกาลมาตรา 264  ในรัฐธรรมนูญยังระบุว่า ครม.ที่เป็น ครม.อยู่ก่อน รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ให้เป็นรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ในการยื่นร้อง ถ้ายังไม่มีเหตุเกิดขึ้น ศาลคงจะไม่รับไว้ ฝ่ายค้านจึงจะไม่ยื่นในขณะนี้ เพราะยื่นไว้คงไม่เกิดประโยชน์  

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ประเด็นนี้ยึดโยงกันอย่างน้อย 3 มาตรา คือ รัฐธรรมนูญมาตรา 158 ระบุไว้ชัดเจน ซึ่งคณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้ทำเอกสารอธิบายความมุ่งหมายไว้ชัดเจนว่า เพื่อไม่ให้เกิดการผูกขาดอำนาจในทางการเมืองยาวเกินไป อันจะเป็นต้นเหตุให้เกิดวิกฤติทางการเมือง หากเรายังปล่อยให้พล.อ.ประยุทธ์ สืบทอดอำนาจนานเท่าไหร่ จะเป็นปัญหาทางการเมือง จนเกิดวิกฤติ, รัฐธรรมนูญมาตรา 170 ระบุไว้ชัดเจนว่า ความเป็นนายกฯของนายกฯสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนดระยะเวลา ตามมาตรา 158 และบทเฉพาะกาลมาตรา 264 มีประเด็นสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1.ครม.ที่ดำรงตำแหน่งก่อนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ประกาศใช้ก็ให้ถือเป็นรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ด้วย และ 2.หากเราดูบทเฉพาะกาลมาตรานี้จะมีการยกเว้นลักษณะต้องห้าม และเหตุที่ต้องพ้นจากตำแหน่งของรัฐมนตรี แต่ไม่มีมาตราไหนเลยที่จะยกเว้นมาตรา 170 เรื่องนี้ฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญในตอนนี้ การยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความในตอนนี้โดยไม่จำเป็นจะเป็นการขยายอำนาจให้ศาลรัฐธรรมนูญมากเกินจำเป็น หวังว่า นายกฯจะเคารพเจตจำนงของรัฐธรรมนูญที่ตนเอง และแม่น้ำหลายๆสายของตนเองยกร่างเอาไว้ เอาเข้าจริงๆแล้ว ไม่จำเป็นต้องรอถึงสิงหาคม2565 ทุกวันนี้ รัฐบาลทราบดีว่า เราอยากได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่เร็วที่สุดทุกเวลา สิงหาคมปีนี้ยังคิดว่าช้าเกินไป 

เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐ ไม่สามารถเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า หากนับการดำรงตำแหน่งเริ่มตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 2557ไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้แล้ว ขณะที่พ.ต.อ.ทวี กล่าวเสริมว่า สามารถเสนอได้ แต่ประชาชนต้องตื่นรู้ว่าคุณเป็นรัฐมนตรี 7 ปี บ้านเมืองเราบอบช้ำมามากแล้ว ท่านบริหารประเทศมีแต่ความเหลื่อมล้ำ มีแต่กู้เงินไปใช้แล้วไม่มีอนาคตใช้หนี้ได้ มีปัญหาสังคมมากมาย วันนี้ต้องเปิดโอกาสให้ผู้นำที่ประชาชนเลือกจะดีกว่า 

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่หากฝ่ายรัฐบาลจะชิงยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความในประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งของพล.อ.ประยุทธ์ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นอำนาจของ กกต.และคณะรัฐมนตรี  ที่สามารถใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญยื่นได้ ขอตั้งข้อสังเกตว่า หากชิงยื่นก่อน จะเป็นการกลไกในการฟอกตัวนายกฯหรือไม่ หาก กกต.ยื่นอาจจะเป็นเจตนาบริสุทธิ์ เพราะ กกต.ทราบจะทราบว่าหากจัดการเลือกตั้งจะมีปัญหาหรือไม่ ถ้าเป็น ครม. อาจจะตีความว่าเป็นการฟอกตัวได้ เชื่อว่าถ้าหากมีการยื่นจริง มีแนวโน้มว่าศาลจะรับคำร้องไว้แน่ เพราะเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้ว จากกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภาฯ  

เมื่อถามว่า หากศาลตีความในช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์ ครบวาระแล้ว จะเกิดเดตล็อกทางการเมืองหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ถ้ามีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญออกมาว่า วาระการดำรงตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ และเมื่อมีการเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งไปนั้น มันก็มีผลแน่นอนต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ถามว่าใครจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ โดยเฉพาะกกต. ที่ไม่ตรวจสอบคุณสมบัติการเข้ามาสู่ตำแหน่ง  
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"