พรรคใหม่ พันธมิตรพปชร. อ่านไพ่ในมือ"3 ป."+"บิ๊กฉิ่ง" "ไม่เชื่อสองพรรคจะแข่งกันจริง"


เพิ่มเพื่อน    

หลังก้าวลงจากเก้าอี้ปลัดกระทรวงมหาดไทยไปเมื่อวาน 30 ก.ย. แวดวงการเมืองก็จับจ้องกันว่า อดีตปลัดมหาดไทย "บิ๊กฉิ่ง" ฉัตรชัย พรหมเลิศ ที่อยู่ในตำแหน่งปลัดมหาดไทยมาหลายปี หลังจากนี้จะเดินบนเส้นทางการเมืองอย่างไร?
    หลังข่าวหลายกระแสยืนยันว่า บิ๊กฉิ่ง ที่พื้นเพเป็นคนใต้-สุราษฎร์ธานี ระดับตระกูลคหบดีใหญ่ในภาคใต้ กำลังวางพิมพ์เขียว-ตอกเสาเข็ม พรรคการเมืองใหม่อยู่ เพราะได้ตัดสินใจจะเข้าสู่ถนนการเมืองหลังเกษียณ
เหตุที่คนจับจ้อง จังหวะก้าวการเมืองของ ฉัตรชัย-อดีตปลัด มท. มากเป็นพิเศษ คงเพราะด้วยพื้นฐานบุคลิกทางการเมือง-สังคม ที่เป็นอดีตบิ๊กคลองหลอดสไตล์ ผู้กว้างขวาง มากคอนเน็กชัน ทั้งแวดวงการเมือง ธุรกิจ ข้าราชการประจำ ที่เข้าได้กับทุกขั้วทางการเมือง แม้แต่กับขั้ว ชินวัตร-เพื่อไทย ผสมกับเป็นปลัดมหาดไทยมาหลายปี มีการฝังคนของตัวเองในเครือข่ายสิงห์ดำไว้ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่นายอำเภอ-ปลัดจังหวัด-รองผู้ว่าฯ จนถึงผู้ว่าฯ ยันปลัดมหาดไทย-อธิบดีทุกกรม
    ด้วยเหตุนี้แวดวงการเมือง เลยจับตามองการตั้งพรรคใหม่ของอดีตปลัดมหาดไทยคนนี้ไม่น้อย แม้ในทางการเมือง ยามเมื่ออดีตบิ๊กข้าราชการเกษียณแล้ว ก็อยู่ในสภาพไร้อำนาจ ไม่สามารถไปให้คุณให้โทษใดๆ ได้ บารมี ก็ย่อมหดหายไปตามธรรมดา บิ๊กฉิ่ง ในวันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป จึงย่อมไม่ใช่ ปลัดฉิ่ง ก่อน 30 ก.ย.2564 ดังนั้นก็ใช่จะเป็นสูตรสำเร็จทางการเมืองเสมอไปว่า อดีตผู้มีอำนาจในวงการข้าราชการประจำมาตั้งพรรคการเมืองแล้วจะประสบความสำเร็จเสมอไป
    เพราะการเมืองไทยมีให้เห็นมาแล้วหลายตัวอย่าง เช่น กรณี "บิ๊กบัง" พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน อดีตหัวหน้า คมช. ที่มีอำนาจล้นฟ้าหลังรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 แต่ยามเมื่อลงจากหลังเสือ ก็กลายเป็นแค่ทหารเฒ่าที่ไร้บารมี ไม่มีพิษสง จนสุดท้ายการตั้งพรรค มาตุภูมิ ของบิ๊กบัง ตอนเลือกตั้งปี 2554 พรรคของบิ๊กบังเลยล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ได้ ส.ส.เขตมาแค่คนเดียวกับบิ๊กบังในระบบปาร์ตี้ลิสต์
    ด้วยเหตุนี้การตั้งพรรคใหม่ของอดีตปลัดมหาดไทย ฉัตรชัย พรหมเลิศ ก็ใช่ว่าจะการันตีความสำเร็จในอนาคตได้ โดยเฉพาะถ้าไม่มีแบ็กอัพ-กองหนุน ที่ครบเครื่อง ทั้งอำนาจรัฐ-กระสุนดินดำ อีกทั้งต้องมีจุดขายที่สำคัญทางการเมืองที่แตกต่างจากพรรคการเมืองอื่น
    จึงไม่แปลกที่ยังไม่ทันจะเปิดตัวพรรคใหม่ คนที่กำลังดูลู่ทางจะไปเข้าร่วมพรรคใหม่ของ ฉัตรชัย อย่าง พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรค พปชร. เพื่อนร่วมรุ่นตท.12 กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงย้ำว่าพรรคการเมืองใหม่ดังกล่าวที่อดีตปลัดมหาดไทยกำลังจะเปิดตัว ต้องเน้นการชูพลเอกประยุทธ์ให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เพราะถ้าชูเรื่องนี้ โอกาสจะประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ก็มีสูง
    แม้พรรคใหม่ของอดีตปลัดมหาดไทยดังกล่าวที่ข่าวว่าชื่อ เศรษฐกิจไทย ข่าวบอกว่าตอนนี้ได้อาคารที่ทำการพรรคแล้ว แต่ยังปิดเงียบอยู่ จะยังไม่เปิดตัว แต่เมื่อ บิ๊กฉิ่ง-ฉัตรชัย และคนการเมืองในพลังประชารัฐอย่าง พ.อ.สุชาติ ประกาศพร้อมจะไปร่วมหัวจมท้ายด้วยเพื่อเอาบิ๊กตู่กลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบ โดยตอนนี้ขอนำร่องจะเร่งสร้างฐานเสียงเพื่อรอปักธงในพื้นที่ภาคใต้ไปพลางๆ ก่อน 
    ทำให้มีการวิเคราะห์พื้นที่เลือกตั้งภาคใต้ หลังจากนี้จากคีย์แมนประชาธิปัตย์ ที่เคยเป็นพรรคการเมืองที่ปักหลักยึดพื้นที่เลือกตั้งแบบผูกขาดมาได้ร่วมยี่สิบกว่าปี จนเกิดวาทกรรม ประชาธิปัตย์ส่งเสาไฟฟ้า ก่อนที่เลือกตั้งปี 2562 ประชาธิปัตย์จะเสียพื้นที่เลือกตั้งให้กับพลังประชารัฐและภูมิใจไทยแบบล็อกถล่ม
    โดย นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง 8 สมัย ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ภาคใต้ ที่เพิ่งลาออกเมื่อไม่นานมานี้ วิเคราะห์การเมืองการเลือกตั้งหลังจากนี้ โดยเฉพาะหากมีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ ที่นำโดยอดีตปลัดมหาดไทย และมีการวางเป้าหมายจะกวาดคะแนนในภาคใต้
    นิพิฏฐ์ อ่านสถานการณ์ไว้ว่า การแข่งขันเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ก็เหมือนกับทุกภาค โดย 3 พรรคหลักที่แข่งขันกันหนักก็คือ ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ที่ยังเป็นพรรคหลักที่แย่งชิงฐานคะแนนในภาคใต้ แต่พรรคไหนจะได้ ส.ส.เท่าไหร่ก็ว่าไป แต่สิ่งที่ต้องระวังก็คือ จะมีคู่แข่งขันพรรคใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ พรรคก้าวไกล ที่คนรุ่นใหม่สนับสนุนเยอะๆ แต่พรรคแบบนี้ประเมินแล้ว คงไม่ได้ ส.ส.ระบบเขต คงจะได้คะแนนในระบบบัญชีรายชื่อ โดยระบบเขตจะยังเป็น 3 พรรคเดิมที่แย่งชิงกัน
       "ส่วนพรรคใหม่ของนายฉัตรชัย อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย มองว่าพรรคนี้จะมีฐานการเมือง-ฐานคะแนนเดียวกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งระบบการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ เวลาแข่งขันกันตอนเลือกตั้ง ก็จะสู้กันจริง ไม่สามารถประนีประนอมกันได้ เว้นแต่จะมีการแบ่งพื้นที่กัน เช่น บางเขตเลือกตั้ง พลังประชารัฐส่ง แต่พรรคของนายฉัตรชัยไม่ส่งคนลงเลือกตั้ง แต่หากทั้ง 2 พรรคดังกล่าวส่งคนลงเลือกตั้งหมดทุกเขต โดยเฉพาะในภาคใต้ ก็ไม่น่าจะสู้กันจริง ที่เป็นไปได้ว่าอาจจะมีการแบ่งพื้นที่กัน แต่การทำมันก็ยาก เพราะระบบบัตร 2 ใบไม่เอื้อ ไม่เหมือนกับบัตรใบเดียวตอนเลือกตั้งปี 2562 ที่เราได้เห็นกันแล้วกับกรณีของพรรคเพื่อไทยกับพรรคไทยรักษาชาติ ที่แบ่งพื้นที่กันเล่น"
    เมื่อถามถึงว่า การตั้งพรรคการเมืองของอดีตข้าราชการระดับสูงที่เกษียณแล้วออกมาเล่นการเมือง มาเป็นคีย์แมนตั้งพรรคการเมืองใหม่ มองว่ามีโอกาสจะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน นิพิฏฐ์ ให้ทัศนะว่า ถ้าเป็นการตั้งพรรคโดยแสดงความเป็นเจ้าของหรือเป็นแกนนำพรรค ไม่น่าจะประสบความสำเร็จโดยเฉพาะในยุคนี้ คนที่เกษียณแล้วมาเล่นการเมือง มาตั้งพรรค ไม่น่าจะประสบความสำเร็จ ดูแล้วอาจจะไปได้ไม่ยาว เพราะยุคปัจจุบันการตั้งพรรคการเมืองใหม่ควรต้องตั้งโดยคนรุ่นใหม่ๆ แต่ก็มีข้อยกเว้นบางกรณี เช่น กรณีพรรคการเมืองใหญ่บางพรรค แกนนำพรรคประเมินว่า พรรคของตัวเองอาจจะแตกในอนาคต เลยมีการให้คนไปเตรียมตั้งพรรคการเมืองสำรองไว้เพื่อโยกคนไป แต่ของพลังประชารัฐ เราไม่รู้เขาคิดอย่างไร ก็ไม่ขอก้าวล่วงไปวิจารณ์พรรคการเมืองอื่น 
    ส่วนที่ว่าหากมีการเลือกตั้ง ในพื้นที่ภาคใต้ ถ้าพรรคพลังประชารัฐกับพรรคการเมืองใหม่ ที่เป็น 2 พรรคซึ่งมีฐานคะแนนเดียวกันแข่งกันเอง ก็จะทำให้คะแนนตัดกันเอง แบบนี้ก็เข้าทางพรรคประชาธิปัตย์เลย ที่จะมีโอกาสชนะการเลือกตั้งในระบบเขตมากขึ้น อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ ประเมินประเด็นนี้ว่า ยังมองไม่เห็นเหตุผลที่ 2 พรรคนี้จะแข่งขันกันจริง เพราะคนกุมบังเหียน 2 พรรคการเมืองดังกล่าวทั้งพลังประชารัฐและพรรคที่จะตั้งใหม่เป็นคนกลุ่มเดียวกัน การจะให้ 2 พรรคมาแข่งกันเอง ผมจึงมองว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ และโดยเฉพาะภาคใต้ หากเขาแข่งกันจริงๆ ดูแล้วพรรคอดีตปลัดฉิ่ง กับพลังประชารัฐ พรรคใหม่ คงสู้พลังประชารัฐไม่ได้ จึงมองว่าถ้าให้คนภาคใต้เลือกระหว่างสองพรรคนี้ จะต้องดูว่าพลเอกประยุทธ์ถ้าเล่นการเมืองต่ออีก เขาจะอยู่พรรคการเมืองใด
    "ถ้าพรรคอดีตปลัดฉิ่งเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ แล้วพลังประชารัฐไม่ได้เสนอ คะแนนเสียงก็อาจเทไปที่พรรคอดีตปลัดฉิ่งได้ แต่ถ้าพลังประชารัฐยังเสนอพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ พรรคบิ๊กฉิ่งก็เสนอพลเอกประยุทธ์ไม่ได้แล้ว คะแนนเลือกตั้งที่พรรคใหม่ของอดีตปลัดมหาดไทยตั้งมาก็คงไม่ได้มากในภาคใต้" อดีต ส.ส.ภาคใต้ 8 สมัย ระบุ
    พรรคการเมืองตั้งใหม่ของอดีตปลัดมหาดไทยจะไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ โดยเฉพาะกับกติกาเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ ที่เป็นระบบเลือกตั้งซึ่งไม่เอื้อทางการเมืองให้กับพรรคตั้งใหม่ ที่ยังไม่มีฐานเสียงเท่าใดนัก โดยเฉพาะหากสุดท้าย "บิ๊กตู่" วางมือทางการเมืองหรือเดินต่อทางการเมืองไม่ได้ เพราะติดล็อกเงื่อนไขบางอย่าง จนไม่สามารถเซ็นชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ให้กับพรรคการเมืองตอนเลือกตั้งได้
     "ซึ่งถ้าเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น อย่าว่าแต่พรรคตั้งใหม่ของอดีตปลัดฉิ่งเลยที่จะไม่มีจุดขาย แม้แต่พลังประชารัฐ หากไม่มี ลเอกประยุทธ์เป็นจุดขาย ก็อาจวงแตกเอาได้ง่ายๆ"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"