ไม่มีปรับครม.หรอก ‘บิ๊กตู่’ประสานเสียง‘ป้อม’ ปชป.ยันมีอำนาจคุมกษ.


เพิ่มเพื่อน    

“ประยุทธ์-ประวิตร” ประสานเสียงไม่มีปรับคณะรัฐมนตรี “เฉลิมชัย” ยันมีอำนาจเต็มแม้ให้ “บิ๊กป้อม” มาดูแล 4 กรม “กล้า” เอาบ้างดัน “กรณ์” ชิงนายกฯ พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นแล้วเด็ดปีก ครม.และพ่วง 3 รัฐมนตรีใน 4  เรื่อง โฆษกรัฐบาลบอก “ลุงตู่” ไม่สนใจเรื่องหยุมหยิม ย้อนแสบให้ไปดูลูกพรรคที่ถูกชี้มูลดีกว่า
    เมื่อวันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)  ว่า "ไม่มีปรับหรอก" ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับจากการลงพื้นที่ที่โรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์ เขตลาดพร้าว พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวเน้นย้ำกับทุกคนว่า ขออย่าไปเชื่อข่าวลือต่างๆ การบิดเบือนข้อมูลซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง หากมีอะไรสงสัยหรือไม่เข้าใจให้ฟังจากช่องทางของรัฐบาล
         พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเรื่องนี้ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า “เฮ้ย บอกไม่มี ก็ไม่มีสิ” ส่วนถามว่าจะมีการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้หรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตรตอบแค่ว่าไม่รู้ และเมื่อถามถึงการดูแล 4 กรมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ไม่เห็นด้วยนั้น รองนายกฯ กล่าวว่า เป็น 4 กรมที่ พปชร.ดูแลอยู่แล้ว เราดูกว้างๆ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของพรรค พปชร.
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ  ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ของ พปชร. ยังไม่มีแนวคิดไปสังกัดพรรคการเมืองไหนทั้งสิ้น และตอนนี้นายกฯ  ไม่อยากคิดเรื่องการเมืองใดๆ นอกจากคิดแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน พล.อ.ประวิตรในฐานะหัวหน้าพรรค  พปชร.ได้ชี้แจงไปแล้วว่า เรื่องการจะยุบสภาหรือปรับ ครม.นั้น นายกฯ ยังไม่ได้คิดทำอะไรทั้งสิ้นในเวลานี้ นักการเมืองหรือพรรคการเมืองบางกลุ่มที่ต้องการแสวงหาประโยชน์ทางการเมืองจากเรื่องนี้ ควรไปเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะมีขึ้นในเดือนหน้าก่อนจะดีกว่า อย่าสร้างความวุ่นวายหรือความสับสนไปกว่านี้เลย
ขณะที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์  ในฐานะเลขาธิการพรรค ปชป.กล่าวถึงความไม่พอใจของสมาชิก ปชป.ในการมอบหมาย 4 กรมในกระทรวงเกษตรฯ  ให้ พล.อ.ประวิตรดูแลว่า การกำกับทั้งหมดยังมีตนเองดูแล กำกับทุกอย่างก่อนออกจากกระทรวงได้ การแต่งตั้งดังกล่าวก็ไม่ได้ตัดอำนาจอะไร 
เมื่อถามว่า การเปลี่ยนคนกำกับจากนายจุรินทร์เป็น  พล.อ.ประวิตร เหมือนการก้าวก่ายการทำงานของ ปชป.หรือไม่ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ภาพอาจมองอย่างนั้น แต่เรื่องนี้หลายคนก็พูดไปแล้ว แต่ในวิธีปฏิบัติเนื้องานก็มีไม่มากที่ต้องผ่านไปตรงนั้น เพราะงานส่วนใหญ่ก็จบในการตัดสินในกระทรวงอยู่แล้ว
นายเฉลิมชัยยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า ขอให้รอดูหลังปิดหีบ จะได้มากหรือน้อย เท่าไหร่ไม่รู้ แต่จะรับผิดชอบไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ส่วนจะได้ ส.ส.เกิน 150 คนหรือไม่ อย่าไปพูดอย่างนั้น เขาบอกว่า สิ่งที่พระเจ้าเขาไม่อยากให้รู้คืออนาคตกับใจคน ดังนั้นสองเรื่องนี้อย่าไปรู้เลย
ขณะที่นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า  กล่าวถึงกระแสพรรคการเมืองเริ่มเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกฯ ว่า ผู้ที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์แบบนี้ต้องเป็นนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้าและอดีต รมว.การคลัง เพราะมีความสามารถด้านเศรษฐกิจ ด้านการเงิน  การคลัง เคยได้รับการยกย่องให้เป็นรัฐมนตรีคลังโลก สมัยที่เป็น รมว.การคลังก็ทำให้ไทยได้พ้นจากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์มาแล้ว 
วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา​และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.กล่าวหา ครม.ทั้งคณะ และรัฐมนตรีรายบุคคลหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยนายประเสริฐกล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคได้รวบรวมเอกสารคำร้องยื่นต่อ ป.ป.ช.ทั้งหมด 4 เรื่องด้วยกัน คือ 1.เรื่องการบริหารราชการที่ผิดพลาด ล้มเหลว ทุจริตต่อหน้าที่เรื่องโควิด โดยเป็นประเด็นเกี่ยวกับการบริหารวัคซีนผิดพลาด 2.เรื่องการทุจริตการจัดซื้อชุดตรวจ ATK 3.การใช้วัคซีนที่ไร้คุณภาพมาฉีดให้ประชาชน และ 4.การทุจริตสต๊อกยางพารา และการเอื้อประโยชน์ให้เกิดการทุจริต
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรค พท.กล่าวว่า เราร้องเรียนโดย 4 กลุ่ม จำเลยกลุ่มที่ 1 คือ ครม.ที่แถลงนโยบายไว้ต่อประชาชน กลุ่มที่ 2 คือ พล.อ.ประยุทธ์ กลุ่มที่  3 คือนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข และกลุ่มที่ 4 คือนายเฉลิมชัย ซึ่งเป็นการร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) เป็นเรื่องความผิดต่อการปฏิบัติหน้าที่ราชการ จงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย มติ ครม. และข้อสั่งการของนายกฯ ไปจนถึงปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ผิดกฎหมาย  ป.ป.ช. 
     นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า คำร้องของพรรคได้ร้อง พล.อ.ประยุทธ์และนายอนุทิน ในการจัดซื้อจัดจ้างเรื่องวัคซีนในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาครัฐและประชาชน 
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า คำร้องการทุจริตสต๊อกยางพารา เป็นการทุจริตเชิงนโยบายในการขายยางพาราโละสต๊อกจำนวน 1.4 แสนตัน ในราคาที่ต่ำกว่าราคากลางของตลาด  โดยใช้มติ ครม.ที่ฝ่าฝืนกฎหมายหลายฉบับ 
ด้านนายธนกรกล่าวว่า เป็นสิทธิ์ที่ฝ่ายค้านจะสามารถดำเนินการได้ตามอำนาจหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญระบุไว้ ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมชี้แจงในทุกข้อกล่าวหา เพราะมั่นใจว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมานั้น รัฐบาลโดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ได้ตอบทุกคำถามไปอย่างชัดเจนแล้ว หวังว่าฝ่ายค้านจะมีพยานหลักฐานครบถ้วนเพียงพอตามที่กล่าวอ้าง  เพราะไม่อยากให้การยื่นครั้งนี้เป็นการยื่นเพราะต้องการเรียกคะแนนนิยม หวังผลทางการเมือง หรือเพราะโกรธที่ล้มรัฐบาลในสภาไม่ได้ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
"ยืนยันว่ารัฐบาล โดยเฉพาะนายกฯ นั้นไม่มีความกังวลใดๆ ยังคงเดินหน้าทำงานให้ประชาชน โดยไม่สนใจที่จะต้องมาตอบโต้ทางการเมืองให้เสียเวลา อยากให้ฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยนั้นกลับไปดู ส.ส.พรรคตัวเองที่ถูก  ป.ป.ช.ชี้มูลก่อนจะดีกว่า เพื่อไม่ให้ประชาชนมองว่าฝ่ายค้านว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง" โฆษกรัฐบาลกล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"