โดยสีสัน บรรยากาศ ณ ช่วงระหว่างนี้...คงต้องเตรียมเนื้อ เตรียมตัว เตรียมใจ เอาไว้มั่งนั่นแหละดี!!! สำหรับบรรดาพรรคการเมืองและนักการเมืองทั้งหลาย โดยเฉพาะการได้เวลา ลงพื้นที่ หัดไหว้หมา ไหว้แมว ไหว้ชาวบ้าน ชาวช่อง ให้คล่องๆ เอาไว้ก่อนล่วงหน้า มือไม้ที่เคยทำท่าว่าชักเริ่มแข็งๆ มันถึงพอจะได้อ่อน ได้งอน ดูแล้วสบายตา สบายใจไม่มากก็น้อย...
 ------------------------------------------------
    คือไม่ว่า บิ๊กตู่ บิ๊กป้อม บิ๊กป๊อก เขายังคงรักใคร่ โหยหาและหวนไห้ ระหว่างกันและกัน อย่างมิมีใครที่จะไปแยกเหล่า แยกกอ ไปเสี้ยมให้เกิดความเสี้ยนใดๆ ได้เลย แต่เมื่อมองจากภาพรวมๆ รวมทั้งภาพที่ กกต.ท่านออกมาแนะนำเอาไว้ตั้งแต่ไก่โห่ให้เตรียมเนื้อ เตรียมตัว ได้แล้วในช่วง ณ ขณะนี้ ไปจนถึงภาพพรรคเล็ก พรรคน้อย พรรคขนาดกลาง ที่ชักเริ่มออก อาการง่องๆ แง่งๆ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ในการร่วมมือ-ร่วมไม้กันเป็นรัฐบาล ฯลฯ อันนี้...ต้องเรียกว่า คงต้องเริ่มหัดไหว้ หัดกราบ เริ่มฝึกมือ ฝึกไม้ ให้อ่อน ให้งอน กันได้แล้ว ถ้ายังคิดกลับมาเข้ามาสู่สัปปายะสภาสถานให้จงได้ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า...
 ---------------------------------------------------
    แต่ถึงแม้จะไม่มีใครชี้แนะ ชี้นำ ในทำนองนี้ก็เถอะ...แต่โดย สัญชาตญาณ ล้วนๆ ของบรรดา นักการเมือง ประเภทจัดอยู่ในระดับเขี้ยวยาวเฟื้อย เลื้อยลากดิน เกล็ดแตกลายงา มีปีกงอก แถมพ่นไฟได้ด้วย ฯลฯ ทั้งหลาย ดูเหมือนว่าแต่ละกลุ่ม แต่ละราย น่าจะเริ่มเคลื่อนไหว เริ่มขยับปีก ขยับหาง กันมั่งแล้ว!!! ไม่น่าจะมีใครยอมลดระดับตัวเองเป็นแค่นักเรียนนายร้อยรักษาดินแดน (รอ.ดอ.) ต่อไปเฉยๆ ต่างฝ่าย ต่างเริ่มมองหาช่อง หาโอกาส ในอันที่จะยกระดับตัวเอง พรรคของตัวเอง ให้พอมี ดอ ติดตัวเอาไว้ซักดอ หรือหลายๆ ดอ ก็แล้วแต่ขีดความสามารถ แล้วแต่ความคล่องเนื้อ คล่องตัวของใคร-ของมัน ที่จะไปว่ากันเอาเอง...
 ----------------------------------------------------
    และภายใต้บรรยากาศทำนองนี้นี่เอง...คงต้องยอมรับว่า มันคง ยากซ์ซ์ซ์ เอามากๆ ที่จะสร้างความ สงบ-เรียบ-นิ่ง ทางการเมือง แบบชนิดไร้คลื่น ไร้ลม สามารถ หะเบส-สมอพลัน ไปได้อีกเป็นปีๆ หรือครบเทอม ครบ 4 ปี แม้อยากจะให้เป็นไป เช่นนั้นมาก-น้อยขนาดไหน คือไม่ว่าใครก็เถอะ...คงอยากยืนถ่ายรูปคู่กับผู้นำโลก ผู้นำอเมริกา อย่าง ผู้เฒ่าโจ ไม่ก็กับผู้นำจีน อย่างประธานาธิบดี สี ทนได้ หรือ สี จิ้นผิง ไปจนถึงผู้นำหมีขาวรัสเซียอย่าง วลาดิมีร์ ปูติน ฯลฯ ไปด้วยกันทั้งสิ้น แต่โอกาสที่จะได้ ยืนถ่าย หรือ นั่งถ่าย กันแน่??? อันนี้นี่แหละ...ที่มิอาจฟันธงและฟันเฟิร์ม กันได้ชัดๆ โดยเฉพาะตราบใดที่บรรยากาศการเมืองบ้านเรา ยังคงหนักไปทางประเภท กินยาถ่าย-แล้ววานให้คนอื่นขี้ แบบเดิมๆ หรือแบบไม่ คิดจะเปลี่ยนไปจากเดิมแต่อย่างใด...
 -------------------------------------------------------
    เรียกว่า...ถึงขั้นเคยไล่ถีบ ไล่กระทืบ กันชนิด แขกบ้าน-แขกเมือง ไม่ว่าระดับไหนต่อระดับไหน เผ่นขึ้นเฮลิคอปเตอร์แทบไม่ทัน ไม่มีโอกาสได้ถ่ายรูปแบบยืนถ่าย จับมือ-จับไม้ เหมือนบ้านอื่น-เมืองอื่นเขาเลยแม้แต่น้อย มีแต่ต้องกลับไปนั่งถ่าย ด้วยความตกอก ตกใจ ชนิดขี้แทบราดเต็มกุงเกง เมื่อเจอเข้ากับบรรยากาศการเมืองไทย ยุคเมื่อครั้งท่านอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ ของหมู่เฮานั่นแหละ ซึ่งก็คงไม่ได้เปลี่ยนแปรไปซักกี่มาก-น้อย แม้ว่าท่านนายกฯ บิ๊กตู่ จะอยู่ยาวว์ว์ว์มาถึง 7 ปี เกือบ 8 ปีไปแล้วก็ตาม เนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างยังเป็นไปในแบบ ปฏิรูด ไม่ใช่ ปฏิรูป อย่างที่กำนัน เทพเทือก ขาเชียร์ บิ๊กตู่ รายสำคัญ ท่านเคยวาดหวัง วาดจินตนาการ เอาไว้ก่อนหน้านั้น...
 ----------------------------------------------------
    โดย การเมือง ในลักษณะนี้นี่เอง...ที่ทำให้โอกาสที่จะสร้าง หลักประกัน ใดๆ ก็แล้วแต่ แทบเป็นไปไม่ได้เอาเลย ไม่ใช่แต่เฉพาะสำหรับแขกบ้าน-แขกเมืองเท่านั้น แต่กระทั่งกับปุถุชนคนธรรมดา กับมิตร-กับศัตรู ก็ยิ่งเป็นอะไรที่ยากซ์ซ์ซ์จะก่อให้เกิดหลักประกันยิ่งขึ้นไปอีก มีแต่ต้องอาศัย สัญชาตญาณ ไม่ก็ สันดาน ส่วนตัวเท่านั้น ถึงพอจะจับได้ ไล่ทัน พอจะตามทัน ต่อความผันผวน ปรวนแปร ทางการเมือง อันสามารถเปลี่ยนได้ชนิดวันละ 3 เวลาหลังอาหาร ดังนั้น...จึงถือเป็นเรื่องไม่แปลก ที่บรรดานักการเมืองประเภทเขี้ยวลากดินและเกล็ดแตกลายงาทั้งหลาย จึงเริ่มขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว เริ่มกระพือปีก เริ่มสะบัดหาง กันมั่งแล้ว...
 -------------------------------------------------
    การลงพื้นที่ การยกมือไหว้หมา ไหว้แมว ฯลฯ จึงเริ่มพอได้เห็นๆ กันในแต่ละเขต แต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีเดิมพันติดปลายนวมอย่างเป็นพิเศษ โดยบรรดาความเคลื่อนไหวเหล่านี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์โพดผลต่อราษฎรอย่างเราๆ-ทั่นๆ มาก-น้อยเพียงใด คงต้องรอไปตัดสินใจภายใน 4 วินาที ณ คูหาเลือกตั้งเอาเองก็แล้วกัน แต่สิ่งที่คงต้องทำใจ ต้องยอมรับ อย่างมิอาจปฏิเสธได้นั่นแหละว่า ท่ามกลางบรรยากาศความ สงบ-เรียบ-นิ่ง ที่เริ่มละลายหายไปทางประตู ความปั่นป่วน รวนเร ความสับสน วุ่นวาย เริ่มพรั่งพรูเข้ามาทางหน้าต่าง มันยังมีอีกหลายต่อหลายเรื่อง ที่กำลังเป็นตัวสร้าง ปัญหา ได้ไม่น้อยไปกว่าเรื่อง การเมือง และนั่นเอง...ที่จะทำให้ โชคชะตา ของบรรดาทวยไทยทั้งหลาย อาจคล้ายๆ ท่านอดีตครูกลอน สุนทรภู่ ยิ่งเข้าไปทุกที คือหนักไปทาง ทั้งโรคซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น-มิเล็งเห็นที่ซึ่งจะพึ่งพา นั่นแล...
 -----------------------------------------------------
    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้....จาก “E.B. White”... “There’s no limit to how complicate things can get, on accountof one thing always leading to another. – เรื่องต่างๆ สามารถทวีความซับซ้อนโดยไม่มีที่สิ้นสุด เนื่องจากด้วยเหตุ เพราะสิ่งหนึ่ง ย่อมนำไปสู่อีกสิ่งหนึ่ง...เสมอๆ”.