รัฐบาลปลื้มS&P คงเครดิตBBB+ โวเดินมาถูกทาง


เพิ่มเพื่อน    

 รัฐบาลปลื้มเอสแอนด์พีคงความน่าเชื่อไทยที่ BBB+ เหมือนปี 2563 พร้อมคาดเศรษฐกิจไทยจะลืมตาอ้าปากเหมือนก่อนยุคโควิด-19 อาละวาดได้ในปี 2566 “ธนกร” ชี้สะท้อนชัด “บิ๊กตู่” เดินมาถูกทาง 
    เมื่อวันอังคารที่ 5 ต.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P Global Ratings (S&P) คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ทริปเปิลบีบวก (BBB+) และมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับมีเสถียรภาพ โดยยังเป็นระดับเดียวกับปี 2563 และคาดว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะเติบโต (จีดีพี) ประมาณ 1.1% และในช่วงปี 2565-2567 จะอยู่ที่ 3.6% ต่อปีด้วย 
    นายธนกรกล่าวว่า รายงานผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของเอสแอนด์พีได้เผยแพร่รายงานผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 ต.ค. โดยให้เหตุผลถึงการคงอันดับของไทยและความน่าเชื่อถือของไทย โดยมีเหตุผลคือ 1.ภาคการคลังสาธารณะมีความเข้มแข็ง แม้ว่าประเทศไทยจะขาดดุลงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564-2565 และหนี้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น จากการดำเนินนโยบายการคลังของภาครัฐเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่เอสแอนด์พีคาดว่า ปีนี้จีดีพีจะเติบโตที่ประมาณ 1.1% และในช่วงปี 2565-2567 จะเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 3.6% ต่อปี จากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากสามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 และประชาชนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง
“คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับไปอยู่ที่ระดับเดิมก่อนเกิดโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป จากการที่รัฐบาลยังสนับสนุนการลงทุนอย่างต่อเนื่องให้เป็นไปตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ อาทิ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนร่วมภาครัฐและเอกชน (พีพีพี) ที่ช่วยลดความเสี่ยงทางการคลังของรัฐและเป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลังของภาครัฐ
    2.ภาคการเงินต่างประเทศยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล ซึ่งไทยมีสภาพคล่องและทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง และสภาพคล่องต่างประเทศของไทยยังอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวล รวมทั้งการดำเนินนโยบายทางการเงินและการรักษาเสถียรภาพด้านราคายังเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ และ 3.เอสแอนด์พีจะติดตามการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นรูปธรรม รวมถึงเสถียรภาพทางการเมืองที่อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะปานกลาง
    “การคงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยและการคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจไทยของเอสแอนด์พีสะท้อนว่า การบริหารงานและมาตรการของรัฐภายใต้การกำกับของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินมาถูกทาง ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศว่า เศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องด้วย" นายธนกรกล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"