ตร.ชี้มือยิงคฝ.เจตนาฆ่า กสม.ตื่นวอนดินแดงสันติ


เพิ่มเพื่อน    

“ผบ.ตร.” ดอดขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า พบ “นายกฯ” คาดรายงานสถานการณ์ม็อบดินแดง ขณะที่รองผบช.น.เผยลักษณะการยิงตำรวจของ "ทะลุแก๊ส" เข้าข้อหาพยายามฆ่า กรรมการสิทธิฯ ออกโรงเรียกร้องให้ม็อบใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธอย่างแท้จริง "เบนจา" นอนคุกต่อศาลไม่ให้ประกัน 
      เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 8 ตุลาคม  2564 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.),   พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ได้เดินทางมายังตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม
    สำหรับการมาพบกันครั้งนี้ ไม่มีกำหนดการล่วงหน้าอย่างเป็นทางการ โดยคณะของ ผบ.ตร.เดินทางกลับออกไปเมื่อเวลา 09.35 น. ทั้งนี้ คาดว่าเป็นการมารายงานเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่แยกดินแดง ซึ่งล่าสุดมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการปะทะกัน
    ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. กล่าวถึงการดำเนินการกับผู้ชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊สที่มีการนำอาวุธเข้ามาใช้ในการชุมนุมซุกซ่อนไว้ที่แฟลตดินแดง เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติการก็ขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ และที่สุดใช้อาวุธปืนจริงยิงเจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บ วันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ปรับยุทธวิธีปฏิบัติเชิงรุก เจ้าหน้าที่เน้นมาตรการเข้ายึดพื้นที่ก่อน เข้าไปตั้งแต่เวลา 18.00 น.การปฏิบัติได้รับความร่วมมือจากแฟลตดินแดงอย่างดี 
    แม้เราจะยึดพื้นที่ ขอย้ำเตือนว่าเมื่อผู้ก่อเหตุเข้าไปก่อเหตุที่แฟลตดินแดงไม่ได้ เราเตรียมการแบ่งพื้นที่เป็นล็อก เจ้าหน้าที่สามารถจู่โจมเข้าจับกุมผู้ก่อความไม่สงบบริเวณโดยรอบรัศมี 5-10 กม. เราวางกำลังไว้ทั้งหมด ขอให้ประชาชนมั่นใจความสงบสงบจะเกิดขึ้นที่แฟลตดินแดงแน่นอน 
    ส่วนการดำเนินการตามกฎหมาย มีคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพฯ 664 คดี สั่งฟ้องไปแล้ว 332 คดี อยู่ระหว่างสอบสวน 344 คดี ขอเตือนว่ากรุงเทพฯ ยังคงเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดไม่ให้มีการมั่วสุมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ถ้ายังฝ่าฝืนจะผิดฐานฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินและ พ.ร.บ.ควบคุมโรค และพบว่าการชุมนุมมีเยาวชนเข้ามาร่วมกระทำความผิดจำนวนมาก เจ้าหน้าที่มีความห่วงใยแจ้งไปยังเด็กและเยาวชนเนื่องจากมีการใช้สื่อโซเชียลในการยุยงชักชวนมาร่วมก่อความไม่สงบ และผู้ปกครองช่วยกันสอดส่องดูแล อาจเสียอนาคต
    พล.ต.ต.จิรสันต์กล่าวว่า คนร้ายที่ก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐาน พอมีข้อมูลอยู่ส่วนหนึ่ง แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน ยังมีการออกหมายจับ ส่วนที่ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบสวนกว่า 70 คนในการปิดล้อม มีทั้งความผิดเรื่องของอาวุธ ยาเสพติด ฝ่าเคอร์ฟิว แต่ละคนโดนข้อหาต่างกัน แต่เป็นคนที่ร่วมกันกระทำความผิดที่แยกดินแดง ส่วนคนที่ยิงตำรวจเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ส่วนแนวกระสุนจากการผ่าตัด เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บถูกยิงจากที่สูงลงมา ส่วนกระสุนชนิดใดอยู่ระหว่างพิสูจน์ของ พฐ.
    "การยิงลักษณะนี้เข้าข้อหาพยายามฆ่า การใช้อาวุธปืนเป็นอาวุธที่ร้ายแรงย่อมเล็งเห็นผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตได้ ย่อมมีเจตนาฆ่า"
    พล.ต.ต.จิรสันต์เผยว่า การปรับแผนของเจ้าหน้าที่ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ เพียงแต่เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลพื้นที่ให้เกิดความสงบสุข คนที่จะเข้ามาก่อเหตุก็ไม่สามารถเข้ามาได้ และจะปฏิบัติแบบนี้จนกว่าจะความสงบจะเกิดขึ้น ทั้งแฟลตดินแดงและบริเวณใกล้เคียง โดยจะมีการบริหารกำลังพลทั้งส่วนภูมิภาค ตชด.เข้ามาสนับสนุน
    ขณะที่พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ยื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 1 น.ส.เบนจา อะปัญ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดอื่นเกี่ยวกับการชุมนุม ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
    ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขังแล้ว ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลอาญากรุงเทพใต้พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาแล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง ประกอบกับพฤติการณ์ตามคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาได้ก่อเหตุเกี่ยวกับสถาบันฯ ที่ผู้ก่อเหตุเคยถูกฟ้องที่ศาลนี้ ทั้งพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว จึงเห็นควรไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ให้ยกคำร้อง
    คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่ปรากฏเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนนายหนึ่งถูกยิงด้วยอาวุธปืนได้รับบาดเจ็บสาหัสจากปฏิบัติการควบคุมฝูงชนในการชุมนุมทางการเมืองบริเวณแยกดินแดงเมื่อคืนวันที่ 6 ตุลาคม โดยที่ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมบางคนได้รับบาดเจ็บสาหัสมาแล้ว กสม.จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายพิจารณาร่วมกัน ดังนี้
    1.ขอให้ผู้ชุมนุมใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธอย่างแท้จริง เพื่อให้ความสำคัญของข้อเรียกร้องถูกรับฟังและไม่มีเงื่อนไขใดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ปฏิบัติการควบคุมฝูงชนในขั้นรุนแรง ขณะที่รัฐบาลต้องใช้แนวทางในการจัดการและควบคุมฝูงชนให้สอดคล้องกับหลักการสากลตามขั้นตอน ได้สัดส่วนที่เหมาะสมอย่างเคร่งครัด และปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมโดยสงบกับผู้ที่ใช้ความรุนแรงแบบแยกแยะ รวมทั้งใช้ความอดทนอดกลั้นในการรับฟังเสียงของผู้ที่เห็นต่าง
    2.ขอให้ทุกฝ่ายสนับสนุนให้มีเวทีกลางในการเจรจาแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ชุมนุมทุกฝ่ายและเจ้าหน้าที่ของรัฐมีโอกาสพูดคุยกันและรับฟังความคิดเห็นของกันและกัน เพื่อลดการเผชิญหน้าและการใช้ความรุนแรงลง โดย กสม.พร้อมมีส่วนร่วมสนับสนุนในกระบวนการแสวงหาทางออกอย่างสันติ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"