เร่งช่วยนํ้าท่วม สำรวจเสียหาย ป้อมไปขอนแก่น


เพิ่มเพื่อน    

นายกฯ สั่งเร่งสำรวจความเสียหายเกษตรกรหลังน้ำท่วม เตรียมงบฯให้เพียงพอและจ่ายให้โดยเร็ว แจงดรามาสุขาลอยน้ำติดชื่อนายกฯ เป็นข้อห่วงใยต่อผู้ประสบภัย ขณะที่ "บิ๊กป้อม" มีคิวลุยขอนแก่น 14 ต.ค. ระดับน้ำในแม่น้ำชีลดลงต่อเนื่อง ปภ.เผยยังมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 14 จังหวัด 
    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 12 ตุลาคม  นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชนตามที่ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ถึงมาตรการเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ขณะนี้มีกว่า 30 จังหวัด โดยเฉพาะเกษตรกรที่ปลูกข้าวซึ่งได้รับผลกระทบว่า นายกฯ ชี้แจงว่ามีมาตรการเยียวยาตามระเบียบอยู่แล้ว ซึ่งต้องเร่งสำรวจข้อเท็จจริง ความเสียหายมากน้อย เพื่อเตรียมงบประมาณให้เพียงพอและจ่ายให้โดยเร็ว 
    นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสดรามาวิพากษ์วิจารณ์การมอบสุขาลอยน้ำไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยถูกระบุเป็นของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าการจัดหาสุขาลอยน้ำช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เป็นข้อสั่งการจากนายกฯ ให้หาทางเพื่อแก้ปัญหาให้ผู้ประสบภัยที่ประสบปัญหาจากการไม่มีสุขาใช้ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจึงพยายามหางบประมาณจากภาคเอกชนมาดำเนินการ ส่วนที่มีการติดป้ายชื่อ พล.อ.ประยุทธ์นั้น เพื่อให้เห็นว่ามาจากข้อห่วงใยนายกฯ เราอย่าไปเอาเรื่องการช่วยเหลือทุกเรื่องมาเป็นการเมืองทั้งหมด ต้องยึดหลักว่าไปช่วยเหลือประชาชน ไม่ใช่หวังแต่เรื่องการเมือง แต่เป็นเพราะประชาชนกำลังเดือดร้อน การติดป้ายดังกล่าวก็เพื่อให้เห็นว่าการดำเนินงานของกระทรวงแรงงานในเรื่องต่างๆ ก็มาจากข้อสั่งการของนายกฯ มองว่าเรื่องที่วิจารณ์กันนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง และไม่ติดชื่อพรรคการเมือง
    สำหรับการลงพื้นที่ตรวจราชการของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังคงเดินหน้าลงพื้นที่ต่อเนื่อง โดยในวันที่ 14 ต.ค. เตรียมลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพื่อติดตามสถานการณ์การบริหารจัดการและเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย หลังจากได้ลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา, จ.นครราชสีมา และล่าสุดจ.สระแก้ว ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ที่เดินสายลงพื้นที่ต่อเนื่องเช่นกัน มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.อุบลราชธานี วันที่ 15 ต.ค. ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ จ.สระบุรี วันที่ 12 ต.ค.
    ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลาง จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วยนายพีระพงษ์ หมื่นผ่อง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น ร่วมรับมอบน้ำดื่ม อาหารแห้ง เครื่องอุปโภคและบริโภค รวมทั้งอาหารปรุงสุกให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้มวลน้ำจากแม่น้ำชีตามการระบายน้ำของกรมชลประทานจาก จ.ชัยภูมิ ผ่านขอนแก่น ขณะนี้หัวน้ำและกลางน้ำได้เข้าเขต จ.มหาสารคามแล้ว ทำให้พื้นที่ จ.ขอนแก่น ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ซึ่งได้มีการประสานงานร่วมกันกับ จ.มหาสารคาม ในการตรวจวัดระดับน้ำอย่างเข้มงวดทุกชั่วโมง พบว่าสถานีวัดน้ำแม่น้ำชีที่ อ.มัญจาคีรี ระดับน้ำลดลง เช่นเดียวกันกับสถานีวัดน้ำที่ ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น ที่ลดลงเช่นกัน ดังนั้นวันนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดี หากไม่มีฝนตกลงมาอีกระลอก ก็จะทำให้น้ำในแม่น้ำชีตามการระบายน้ำนั้น จะไหลลงสู่แม่น้ำมูล และแม่น้ำโขงตามลำดับต่อไป
     ผวจ.ขอนแก่นกล่าวว่า ในการลงพื้นที่ตรวจราชการของ พล.อ.ประวิตร ที่จะลงพื้นที่ ได้มีการกำแผนงานบูรณาการเชิงรุกในการผันน้ำจากแม่น้ำพองและลุ่มน้ำพรม-เชิญ ด้วยรถสูบน้ำระยะไกลของ ปภ. ระยะทาง 10 กม. ผันน้ำจากแม่น้ำพองและลุ่มน้ำพรม-เชิญเข้าสู่อ่างเก็บน้ำโสกลวก ที่ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังติดตั้งระบบการสูบน้ำระยะไกลเพื่อให้สามารถดึงน้ำเข้าพื้นที่ภูเวียงให้ได้ในวันที่ 14 ต.ค. ในอัตราการสูบน้ำ 50,000 คิวต่อวัน โดยคาดการณ์ว่าภายใน 20 วัน อ่างเก็บน้ำโสกรวกจะมีน้ำเก็บกักเต็มความจุอ่างคือ 1 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะเพียงพอต่อการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่กลุ่มอำเภอทางตอนบนของจังหวัดตลอดทั้งช่วงฤดูหนาวปีนี้และฤดูแล้งปีหน้า นอกจากนี้ รองนายกฯ จะลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำพองและแม่น้ำชี ที่ ต.ดอนหัน และ ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น ด้วย 
    วันเดียวกัน ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ จัดกำลังพลจิตอาสาสนับสนุนเขตบางกอกน้อยในการลำเลียงกระสอบทรายทำคันกั้นน้ำบริเวณท่าเรือพรานนก ชุมชนวังหลัง ที่ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้น พร้อมกันนี้ ได้จัดกำลังพลสนับสนุนเขตบางพลัด ในการบรรจุกระสอบทราย เพื่อนำไปทำคันกั้นน้ำในชุมชนพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในเขตบางพลัด กรุงเทพฯ โดย พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน 
    กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ในช่วงวันที่ 23 ก.ย.-7 ต.ค.64 เกิดอุทกภัยใน 33 จังหวัด รวม 224 อำเภอ 1,189 ตำบล 8,099 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 331,440 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 14 ราย สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 19 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 14 จังหวัด ได้แก่ 1.สุโขทัย 2.พิษณุโลก 3.ขอนแก่น  4.มหาสารคาม 5.นครราชสีมา 6. อุบลราชธานี 7.นครสวรรค์ 8.ลพบุรี 9. สระบุรี 10.สุพรรณบุรี 11.สิงห์บุรี 12. อ่างทอง 13.พระนครศรีอยุธยา 14. ปทุมธานี ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"