ตะลึง!โพลชี้คนไทยเกินครึ่ง รัฐธรรมนูญคืออะไรไม่รู้จัก


เพิ่มเพื่อน    

  วิกฤติประเทศไทย! ซูเปอร์โพลสำรวจความรู้เรื่องรัฐธรรมนูญ ประชาธิปไตย และโทษประหารชีวิต ต้องตะลึง! ครึ่งหนึ่งไม่รู้ว่ารัฐธรรมนูญคืออะไร เช่นเดียวกับประชาธิปไตย เกินครึ่งรู้ไม่จริง-ไม่รู้เลย ส่วนโทษประหารไม่พลิก เห็นด้วยเกือบหมด

    ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) มูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง โพลความรู้เรื่องรัฐธรรมนูญ ประชาธิปไตย และการลงโทษประหารชีวิต กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพ จำนวน 1,123 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 19-22 มิถุนายน พ.ศ.2561 ที่ผ่านมา 
    เมื่อถามถึงความรู้เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ พบว่า ครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 50.6 ตอบไม่ทราบว่ารัฐธรรมนูญคืออะไร ในขณะที่เพียงร้อยละ 10.5 ตอบว่าทราบ และตอบว่าเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ แต่ร้อยละ 38.9 ตอบว่าทราบ แต่ระบุว่ารัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของประชาธิปไตย เป็นเรื่องต้องปฏิบัติ เป็นระเบียบต่างๆ เป็นต้น 
    ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.3 ไม่เคยเปิดอ่านรัฐธรรมนูญเลย ในขณะที่ร้อยละ 31.7 เคยเปิดอ่าน ยิ่งไปกว่านั้น ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 87.1 ระบุว่าใช้ข้อมูลที่ฟังเขาเล่ามาพูดมาอีกที เขาบอกกันมาว่ารัฐธรรมนูญฉบับไหนดีกว่ากัน ในขณะที่มีเพียงร้อยละ 12.9 ระบุว่าอ่านด้วยตนเอง เปรียบเทียบด้วยตนเอง
    ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามว่ารัฐธรรมนูญที่ดีควรมีบทบัญญัติอะไรบ้าง พบว่า อันดับแรก ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 66.3 ระบุปกป้อง เทิดทูน สถาบันหลักของชาติ รองลงมาคือร้อยละ 65.7 ระบุว่าปกป้อง รักษาสิทธิชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน, ร้อยละ 57.2 ระบุว่า ขจัดอิทธิพลทางการเมืองที่เอื้อผลประโยชน์เฉพาะครอบครัว ญาติพี่น้อง และพวกพ้อง 
    ร้อยละ 56.9 ระบุว่ารัฐธรรมนูญที่ดีต้องรักษาสิทธิและผลประโยชน์ชุมชน, ร้อยละ 53.9 ระบุว่า รักษาผลประโยชน์ชาติ บ้านเมืองสงบสุข, ร้อยละ 50.0 ระบุว่าขจัดปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน, ร้อยละ 42.8 ระบุว่ามีวิธีคัดค้านอำนาจรัฐบาล และอำนาจอื่น ไม่ให้ใครมีมากเกินไป และร้อยละ 40.1 ระบุว่านายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องมาจาก ส.ส. แต่ได้รับความนิยมจากประชาชน
    เมื่อถามถึงการประเมินความรู้ตัวเองเรื่องประชาธิปไตย พบว่า ร้อยละ 40.0 คิดว่ารู้และคิดว่าตอบได้ถูกต้องว่าประชาธิปไตยคืออะไร ในขณะที่ร้อยละ 35.7 คิดว่ารู้แต่ไม่แน่ใจ และร้อยละ 24.3 ไม่รู้ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.5 ระบุว่าทุกวันนี้มีอิสระ เสรีภาพ เพียงพอแล้วต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ในขณะที่ร้อยละ 25.5 ระบุยังไม่เพียงพอ
    ที่น่าพิจารณาคือความเห็นต่อการลงโทษประหารชีวิตคนที่ฆ่าผู้อื่นด้วยความโหดร้ายทารุณ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.4 ระบุเห็นด้วยให้มีโทษประหารชีวิต ในขณะที่มีเพียงร้อยละ 6.6 ไม่เห็นด้วย 
    เมื่อจำแนกคนตอบออกตามช่วงอายุ พบว่า คนทุกกลุ่มช่วงอายุส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการลงโทษประหารชีวิต โดยคนตอบยิ่งมีช่วงอายุสูงขึ้น ยิ่งเห็นด้วยกับการลงโทษประหารชีวิต คือร้อยละ 87.5 ของคนที่อายุไม่เกิน 24 ปี, ร้อยละ 93.6 ของคนอายุ 25-59 ปี และร้อยละ 96.6 ของคนอายุ  60 ปีขึ้นไปเห็นด้วยต่อการลงโทษประหารชีวิตคนที่ฆ่าผู้อื่นด้วยความโหดร้ายทารุณ 
    นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.2 สนับสนุนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กรณีบังคับโทษประหาร ในขณะที่มีเพียงร้อยละ 9.8 ไม่สนับสนุน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"