18 ต.ค.64 - นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์​การ​แพร่ระบาด​ของ​โรค​โค​วิด​-19 ว่าวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,111 ราย มีผู้เสียชีวิตจำนวน 63 คน เป็นคนไทย 59 คน อีก 4 คน เป็นสัญชาติเมียนมาและสัญชาติจีน จำแนกเป็นเพศชาย 39 คน เพศหญิง 24 คน อายุ 17-97 ปี อยู่ใน กทม.มากที่สุด  9 คน แต่ในภาคใต้เสียชีวิตรวมกันมากถึง 21 คน โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน ติดเตียง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น

โดยการติดเชื้อในต่างจังหวัดและจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปรับลดลงอย่างช้าๆ โดย 10 จังหวัด ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 5 จังหวัดอยู่ในภาคใต้ ได้แก่ ยะลา นครศรีธรรมราช​ สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งเป็นรองแค่กรุงเทพ​มหานคร ซึ่งพบเชื้อเป็นอันดับหนึ่ง โดยความเสี่ยงมาจากสถานบันเทิง เรือนจำ โรงงาน ผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง และผู้เดินทางจากประเทศเพื่อนบ้าน

สำหรับการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ แคมป์ก่อสร้าง - ระยอง และจันทบุรี ล้งผลไม้ - จันทบุรี, แรงงานคัดกุ้ง - ตราด สหกรณ์กองทุนสวนยาง - ชลบุรี, ร้านอาหาร - จันทบุรี, งานศพ - ลำพูน ขอนแก่น เลย สระแก้ว กาญจนบุรี, สถานศึกษา- ตรัง ฉะเชิงเทรา ลพบุรี เลย, ติดเชื้อในที่ทำงาน - สุรินทร์ ลำพูน พิจิตร,ติดเชื้อในชุมชน - สุรินทร์ สุพรรณบุรี ศรีสะเกษ

นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า การระบาดในภาคใต้ พบเชื้อ 3 สายพันธุ์ อัลฟ่า (อังกฤษ)​ เดลต้า (อินเดีย)​ และเบต้า (แอฟริกาใต้)​ วัคซีนที่เหมาะสมคือไฟเซอร์ จึงได้จัดสรรลงไปในพื้นที่โดยไม่กระทบกับโควตาวัคซีนที่เตรียมไว้สำหรับนักเรียน เนื่องจากขณะนี้ไฟเซอร์ส่งมอบต่อเนื่องตรงตามกำหนด ทั้งนี้การฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นในอัตราก้าวหน้า ร่วมกับการเคร่งครัดป้องกันตัวเองของประชาชน จะยิ่งทำให้มีความพร้อมในการเปิดประเทศ