ถ้าไม่เรื่องมาก มันก็จบง่าย 
    คสช.คุยกับพรรคการเมือง เห็นตัวเลขแล้ว บรรยากาศการเมืองวางใจได้ระดับหนึ่ง 
    ไปกัน ๑๙๙ คน จาก ๗๔ พรรค 
    ไม่ไปอยู่ ๒ พรรค ก็ตามคาด เพื่อไทย กับอนาคตใหม่
    เหตุผลไม่มีอะไรมาก อ้างว่าคนที่กำหนดการเลือกตั้ง คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ใช่ คสช.
    ๒ พรรคขวางโลกนี้ ดูท่าไม่เอาอะไรสักอย่าง
    จุดยืนอยู่ตรงไหน หาไม่เจอ  
    ก็เห็นยุเด็กอยากเลือกตั้งไปปลุกม็อบ ตะโกนด่า คสช. บอกให้เลือกตั้งภายในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ 
    ด่า "บิ๊กตู่" เลื่อนการเลือกตั้งครั้งแล้วครั้งเล่า
    แต่พอจะให้ไปคุยกับ คสช. ดันบอกว่า เป็นหน้าที่ กกต. 
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เอาไว้ตั้งแต่วันที่ ๒๐ มิถุนายนว่า
    "พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วมหารือกับรัฐบาล คสช. เหตุผลเคยบอกไว้ว่า เรื่องนี้รัฐบาลไม่มีอำนาจหน้าที่ ถ้า กกต.เชิญไปหารือเรื่องเลือกตั้ง ทางพรรคยินดีไปคุย"
    เริ่มต้นก็ตั้งแง่กันอย่างนี้ ต่อไปก็จะสร้างปัญหาหนักขึ้นอีก 
    ไม่รู้ว่าพรรคเพื่อไทยกลัวอะไร 
    หรือนายใหญ่สั่งห้ามคุยกับ คสช.   
    ทั้งๆ ที่การพูดคุยระหว่างฝ่ายต่างๆ เป็นสิ่งจำเป็นในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งเช่นปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง 
    หรืออยู่อย่างสงบกันไม่เป็น! 
    จับทิศทาง ๒ พรรคที่อ้างตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตย พูดแต่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ฉีกยุทธศาสตร์ชาติ ราวจะจุดเชื้อ ไม่ต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข
    โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย พฤติกรรมแทบไม่ต่าง เมื่อครั้งแกนนำเสื้อแดงที่ลุกออกจากโต๊ะเจรจา ในปี ๒๕๕๓ เพราะนายใหญ่สั่งชุมนุมต่อจนกว่าจะได้อำนาจคืน 
    สุดท้ายกลายเป็นมหกรรมเผาบ้านเผาเมือง 
    ทักษิณครอบงำพรรคเพื่อไทยอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา 
    เฉพาะข่าวคราวในปีนี้ มีอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยรวมกลุ่ม รวมก๊วน เดินทางไปหาที่สิงคโปร์ ฮ่องกง ดูไบ 
    คนในเพื่อไทยรู้ดีว่าไปเพื่ออะไร 
    และการที่ทักษิณสารภาพว่า ไม่ต้องการให้น้องสาวติดคุกแม้วินาทีเดียว นั่นเพราะทักษิณรู้ดีว่า หากยิ่งลักษณ์ติดคุก ก็เพราะการเป็นตุ๊กตาไขลานให้ตนเอง  
    ทำให้ทักษิณรู้สึกผิดกับยิ่งลักษณ์ 
    ฉะนั้นไม่มีวินาทีไหนเลยที่ทักษิณไม่ครอบงำพรรคเพื่อไทย.