ขอ2สัปดาห์สอบคลิปแม้วครอบงำพท.


เพิ่มเพื่อน    

    กกต.ขอเวลา 2 สัปดาห์ตรวจสอบคลิปทักษิณครอบงำเพื่อไทยหรือไม่ เตือนทุกพรรคปรับตัวเป็นพรรคของมหาชน ไม่ใช่ของกลุ่มทุน นายทุนคนใดคนหนึ่ง "ชูศักดิ์" อ้างเป็นเสรีภาพทางการเมือง ด่ากกต.ล่วงหน้า อย่าลุแก่อำนาจ เป็นเครื่องมือทำลายล้างพรรคการเมือง ฟุ้งที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าเพื่อไทยฆ่าไม่ตาย 
    ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบคลิปวิดีโอนายทักษิณ ชินวัตร ที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งในอีสานในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแน่นอนว่า ในชั้นนี้เป็นการตรวจสอบเบื้องต้น โดยให้กลุ่มงานสำนักกิจการพรรคการเมืองรวบรวมและตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ ซึ่งจะต้องดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่าจะเข้าข่ายกระบวนการที่จะดำเนินการสืบสวนต่อไปหรือไม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จเร็วๆ นี้ 
    เขากล่าวว่า จะมีการรายงานให้ที่ประชุม กกต.ทราบในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ โดยจะพิจารณาองค์ประกอบว่าเป็นการที่คนไม่ใช่สมาชิกพรรคการเมืองเข้าไปครอบงำ ชี้นำ หรือทำให้พรรคการเมืองขาดความเป็นอิสระหรือไม่ และจะต้องดูข้อมูลต่อไปด้วยว่าพรรคการเมืองไปยินยอมตามนี้หรือไม่ เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง 
    "กกต.จะต้องดูข้อมูลให้รอบคอบ ว่ามีคลิปอะไรบ้าง มีพฤติการณ์อะไรบ้าง พูดที่ไหนอย่างไร ซึ่งจะต้องดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนนี้ประมาณ 1-2 สัปดาห์"
    พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า จะต้องมาปรับด้วยว่าครบองค์ประกอบของกฎหมายด้วยหรือไม่ หากเข้าข้อกฎหมาย ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน แต่จะตั้งทันทีไม่ได้ อย่างไรก็ตามในชั้นนี้ยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องเรียกพรรคเพื่อไทยมาชี้แจง เพราะเป็นเพียงการตรวจสอบเบื้องต้นเท่านั้น 
    "ขณะนี้ถือว่าพรรคการเมืองกำลังปรับตัวให้เป็นพรรคการเมืองเป็นของประชาชน จึงอยากเตือนทุกพรรค จะต้องปรับตัวเป็นพรรคของมหาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นพรรคของกลุ่มทุน หรือนายทุนคนใดคนหนึ่ง ไม่ว่าพรรคเก่าหรือพรรคใหม่ก็ต้องทำตาม" พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าว
    ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า ให้ทาง กกต.ดำเนินการ ส่วนเข้าข่ายยุบพรรคหรือไม่นั้น ตนดูไม่ได้ ต้องดูตามกฎหมาย ซึ่งตนไม่ได้สั่ง กกต. เป็นการดำเนินการของ กกต.เอง ส่วนที่มองว่าการที่นายทักษิณออกมาเคลื่อนไหวเพราะพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่ทราบ ไม่ได้อยู่พรรคเพื่อไทย ตอบไม่ได้ และไม่ได้ประเมินอะไร
    นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีเดียวกันว่า ไม่ทราบ ไม่ได้ดู เลยจำไม่ได้ ไม่รู้อะไร ให้ถามจาก กกต. 
    เมื่อถามว่า ในกฎหมายพรรคการเมืองใหม่ ไม่สามารถทำในลักษณะนี้ได้ใช่หรือไม่ รองนายกฯ ตอบว่า ไม่รู้ จำไม่ได้แล้ว
    ส่วนนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเสรีภาพทางการเมืองที่ใครๆ ก็มีสิทธิที่จะแสดงความเห็นได้ และเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าข่ายการครอบงำพรรคเพื่อไทย
    “การที่อดีตนายกฯ จะพูดคุยถึงความเป็นไปของบ้านเมือง ให้ความเห็นต่อการดูด ส.ส. ของฝ่ายผู้มีอำนาจ ใครจะชนะจะแพ้ ใครจะถูกหลอก สิ่งเหล่านี้เป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่ใครๆ ก็มีสิทธิที่จะทำได้ ไม่ใช่ผู้มีอำนาจจะทำได้ฝ่ายเดียว เหมือนอย่างที่คอยดำเนินคดีกับผู้อื่นว่าชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน แต่ทีฝ่ายของตัวเองทำบ้าง กลับไม่เป็นอะไร”
         นายชูศักดิ์เผยว่า ประเด็นเรื่องการครอบงำ เป็นกฎหมายที่ฝ่ายผู้มีอำนาจพยายามประดิษฐ์ขึ้นมาโดยเฉพาะ แต่เหตุที่เกิดขึ้นก็ไม่ถือว่าเข้าองค์ประกอบใดๆเลย เพราะ 1.พรรคการเมืองต้องยินยอมให้ครอบงำ ไม่ปรากฏว่าพรรคเขาไปมีส่วนรู้เห็นอะไรด้วย เลขาธิการพรรคก็ไม่ได้ไป หัวหน้าก็ไม่ได้ไป เป็นเรื่องสมาชิกเขาไปเอง ไปตีกอล์ฟและร่วมอวยพรวันเกิดกัน 2.ถามว่าต้องมีการครอบงำกิจกรรมของพรรคการเมือง ก็ไม่ปรากฏว่าพรรคเขาทำกิจกรรมอะไร จริงๆ ก็ทำไม่ได้ด้วย จึงไม่รู้ว่าไปแทรกแซงครอบงำกิจกรรมอันใด
    “กกต.อยากจะตรวจสอบอะไร ก็คงไม่ว่ากัน แต่กรุณาเข้าใจบริบททางการเมืองให้ถ่องแท้ และไม่ควรใช้กฎหมายที่สร้างขึ้นแบบลุแก่อำนาจ เป็นเครื่องมือทำลายล้างพรรคการเมือง ไม่เป็นผลดีอะไรเลย มีแต่จะทำให้ความขัดแย้งแตกแยกขยายใหญ่โตออกไปอีก ในขณะที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่าพรรคการเมืองนี้ฆ่าไม่ตายสักที” นายชูศักดิ์กล่าว
    นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า ถ้ากกต.จะแสดงความตื่นตัวในการติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายการเมือง และบังคับใช้กฎหมายถึงขั้นยุบพรรค ก็ไม่ควรเพ่งสายตามองเฉพาะพรรคเพื่อไทย เพราะตอนนี้ติดล็อกเคลื่อนไหวไม่ได้เช่นเดียวกับพรรคการเมืองอื่นๆ และถูกแล่เนื้อเถือหนังโดยขบวนการดูดเพื่อสืบทอดอำนาจอย่างหนักอยู่แล้ว ถ้าจะอ้างคลิปวิดีโอของนายทักษิณ ตนมองว่าเป็นการพูดถึงสถานการณ์อย่างตรงไปตรงมา คนส่วนใหญ่ก็เชื่อเหมือนกันว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะ แล้วถ้ามีคนออกจากพรรค ก็ต้องเป็นโอกาสของคนรุ่นใหม่ เรื่องแบบนี้ถึงไม่พูดคนก็รู้กันอยู่แล้ว จะเรียกว่าครอบงำพรรคได้อย่างไร
    แกนนำ นปช.กล่าวอีกว่า หากจะเอาแบบนี้ ก็ขอชี้เป้าให้ กกต.เบิกตาดูพรรคพลังประชารัฐ เห็นบ้างหรือเปล่าว่าคณะผู้ก่อตั้งพรรคไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลย ส่วนที่เดินดูดกันอยู่ ทั้งกลุ่มสามมิตรและอื่นๆ ถามว่ามีใครเป็นสมาชิกพรรคบ้าง ไม่ยิ่งกว่าครอบงำหรือ ที่สำคัญคือคอการเมืองทั่วไปเชื่อด้วยว่าเบื้องหลังกลุ่มสามมิตร น่าจะมีกลุ่มบุคคลที่มีอำนาจคอยสั่งการอยู่อีกที นี่เท่ากับครอบงำชี้นำสองเด้งหรือไม่ ถ้าเอามาตรา 28 และ 29 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาพิจารณา ถามว่าลักษณะเช่นนี้เข้าข่ายถูกยุบพรรคหรือไม่ ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เลขาธิการ กกต.น่าจะสนใจตรวจสอบบ้าง
    "แค่กติกาและกลไกอำนาจทั้งหลายที่เป็นอยู่ การเลือกตั้งก็มีปัญหาเรื่องความชอบธรรมมากอยู่แล้ว ไม่ควรไปสร้างเงื่อนไขเพิ่ม เพราะถึงที่สุดก็ไม่มีใครบังคับประชาชนได้ ถึงไม่มีพรรคเพื่อไทย ถ้าใจคนจะเลือกเขาก็ยังเลือกพรรคที่ยืนยันหลักการประชาธิปไตยอยู่ดี การใช้อำนาจไม่ได้หมายความว่าจะสำเร็จทุกอย่างได้" แกนนำ นปช.กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"