พิซซ่าฮัท เล็งเจาะตลาดภูธร ทุ่ม 1,000 ล้านบาท ปูพรมสาขาเพิ่มเท่าตัว ปรับโฉมเว็บไซต์เอาใจคนยุค 4.0 หวังขยายฐานลูกค้าเพิ่ม 

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยว่า ในช่วงเดือน มิ.ย. 2560 ที่ผ่านมา บริษัท พีเอช แคปปิตอล โดยทีทีเอมีสัดส่วนถือหุ้นอยู่ประมาณ 70% นั้น ได้รับบริหารร้านอาหารพิซซ่าฮัทเต็มตัว พบว่ามีผลตอบรับจากผู้บริโภคดีเป็นอย่างมาก หรือมีอัตราการเติบโตระดับเลขสองหลัก จากการเปิดให้บริการจำนวน 93 สาขา จึงทำให้ลงทุนขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 16 สาขา เพื่อทำให้ร้านพิซซ่าฮัทเข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น

สำหรับปัจจุบันมีร้านพิซซ่าฮัทเปิดให้บริการแล้วกว่า 120 สาขา ขณะนี้เตรียมหาทำเลศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นตามหัวเมืองใหญ่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว หรือเมืองรองที่มีความน่าสนใจ เต็มไปด้วยประชากรและกำลังซื้อ เนื่องจากในตอนนี้ร้านพิซซ่าฮัทส่วนมากอยู่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลเป็นหลัก แต่เห็นว่าการเติบโตและโอกาสทางธุรกิจไม่ได้ถูกจำกัดเพียงแค่เขตกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ จึงอยากหาทำเลต่างจังหวัดให้มากกว่าเดิม มีเป้าหมายสัดส่วนสาขาต่างจังหวัดและกรุงเทพฯจะเป็น 50:50 ภายในปี 2563

"เรายังคงเดินหน้าตามแผนการลงทุนระหว่างปี 2560-2563 ภายใต้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท ในการเพิ่มสาขาขึ้นอีกเท่าตัวหรือเป็น 200 สาขา เพราะมองว่าคนไทยเริ่มให้ความนิยมรับประทานพิซซ่ากันมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเทศกาลหรือโอกาสพิเศษ จากในอดีตเฉลี่ยแล้วจะเข้าใช้บริการ 2 เดือนครั้ง แต่ปัจจุบันเป็น 3 อาทิตย์ครั้ง รวมถึงการเข้าถึงยังอยู่ในระดับไม่มากที่ 40-50% และเขตกรุงเทพฯเป็นหลัก" นายเฉลิมชัย กล่าว 

ส่วนภาพรวมมูลค่าตลาดร้านอาหารพิซซ่าในปี 2560 อยู่ที่ 8,000-9,000 ล้านบาท ปี 2561 น่าจะเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างช่วงเทศกาลแข่งขันฟุตบอลโลก ก็พบว่าลูกค้าสั่งพิซซ่าแบบเดลิเวอรี่กันมากขึ้น เนื่องจากมีความสะดวกสบาย โดยที่ผ่านมาได้มีการปรับโฉมเว็บไซต์ใหม่ เพื่อช่วยในการสั่งซื้อผ่านออนไลน์ได้ง่ายขึ้น ทั้งยังทำให้ลดเวลาในการจัดส่งออเดอร์ให้ถึงร้านเร็วขึ้น และลูกค้ายังรับทราบเวลาที่จัดส่งแน่นอนอีกด้วย 

อย่างไรก็ดี ร้านพิซซ่าฮัทยังได้มีการปรับการตกแต่งร้านและรีเฟรชแบรนด์ใหม่ เพื่อจับกลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ให้มากขึ้น รวมถึงเปิดตัวเมนูใหม่ที่ผ่านการวิเคราะห์ความต้องการผู้บริโภคมาแล้วอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มธุรกิจอาหารยังมีสัดส่วนไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับรายได้ทั้งหมดในบริษัท แต่เชื่อว่าภายในปี 2564 จะเพิ่มขึ้นเป็น 15-20% มาจากการขยายสาขาของแบรนด์พิซซ่าฮัท และแบรนด์ใหม่ที่กำลังจะเริ่มเปิดในช่วงไตรมาส 4 อย่างทาโกเบลล์