วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายรัฐบาล กางตุ๊กตา ปฏิทินเลือกตั้ง 24 ก.พ., 31 มี.ค., 28 เม.ย. 5 พ.ค.62 ให้นักการเมือง พรรคการเมืองพอใจชื้น ที่ไม่ว่าจะเลือกวันใด ต่างยังอยู่ในห้วงเวลาโรดแมปในปี 2562 แม้จะมีการขยับออกไปบ้างเล็กน้อย อยู่ในกรอบตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ กฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งกำหนด

        เรื่องเงื่อนวันเวลา ไม่ใช่ปัญหาของนักเลือกตั้งอาชีพ แต่ปัญหาใหญ่ที่สะท้อนกลับไป เรียกร้องให้มีการปลดล็อกพรรคการเมือง นักการเมืองให้ได้ทำกิจกรรมเต็มรูปแบบ แต่ในส่วนของรัฐบาลทหารมองต่างมุม ยินดีเพียงคลายล็อก เพื่อให้ดำเนินงานบางอย่างได้ แต่ครั้นจะปลดล็อกทุกอย่างตามที่เรียกร้องนั้นเป็นไปไม่ได้

        ผลจากการหารือพรรคการเมือง ที่มี บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และกรรมการการเลือกตั้ง ร่วมหารือ ถือเป็นสัญญาณดีที่นักการเมืองอยากเห็น และยิ่งมีการเปิดเผยในเวลาต่อมาอีกว่า จะมีการนัดหารือพรรคการเมืองอีก โดยคราวหน้า บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะมานั่งรับฟังข้อคิดเห็นด้วยตัวเอง ถือเป็นสัญญาณบวกที่ดีต่อทั้งพรรคการเมือง นักการเมือง

        ไม่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงห้วงเวลาใด ในปี 2562 แต่นาทีนี้ พรรคการเมืองทั้งพรรคเก่า พรรคใหม่ อยู่ในขั้นเตรียมความพร้อม ถึงแม้จะยังมีเงื่อนไข ข้อห้ามจาก คสช. ห้ามจัดประชุม เคลื่อนไหว แต่เอาตามความเป็นจริง พรรคการเมือง ทั้งแกนนำ อดีต ส.ส.ไม่เคยหยุดนิ่ง โดยเฉพาะในรายของที่ทำการพรรคการเมืองใหญ่ มีบรรดา แกนนำพรรค อดีต ส.ส.แวะเวียนไปหารือทั้งการวางนโยบาย แคมเปญ ที่จะใช้ในเบื้องต้น ไปจนถึงยุทธศาสตร์การเมืองที่เตรียมงัดออกมาใช้ ทั้งในระยะเฉพาะหน้า ระยะสั้น กลางและยาว

        โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเลือกตั้งรอบหน้า กติกา ข้อห้าม ข้อบังคับ ในรัฐธรรมนูญ กฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ปรับเปลี่ยนไปหลายอย่าง พร้อมบทลงโทษที่เข้มงวด รุนแรงขึ้น พรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ที่อยู่ในสนามการเมืองมานาน ต้องกางตำรา วางจังหวะขับเคลื่อนให้ดี เพราะไม่เช่นนั้น แทนที่จะได้แต้มต่อทางการเมือง จะกลายเป็น ผลลบที่คาดไม่ถึง อาจถึงขั้นต้องเผชิญไปสู่การยุบพรรค แถมสมาชิกจะได้รับโทษการเมืองตามมา

        คลิปวิดีโอคอล ทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่คนเพื่อไทย จากลอนดอน ส่งสัญญาณมาถึงลูกพรรคอดีต ส.ส.ในเมืองไทย ด่ากราดพวกทิ้งพรรค นายทุนที่เข้ามาทาบทามอดีต ส.ส.ให้ไปร่วมงาน พร้อมกับกะเกณฑ์ วางผู้สมัคร จัดคนลง ในจังหวัดที่คนออกไปเบ็ดเสร็จ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับเรื่อง ขอเวลา 2 อาทิตย์ สรุปปมปัญหาดังกล่าวจะเข้าข่ายบุคคลภายนอกมายุ่งเกี่ยว สั่งการหรือไม่ ซึ่งแน่นอน หากเป็นไปตามนั้น โทษที่ตามมาถึงขั้นยุบพรรค

        เรื่องวุ่นๆ ในเพื่อไทย กับปมข้อกฎหมายยังต้องไปว่ากันต่อไป ไม่น่าแปลกใจทักษิณจะออกอาการฉุนไม่น้อย เพราะในวันนี้ หากพรรคเพื่อไทยเปรียบเป็นบ้าน คนในบ้านที่เป็นอดีต ส.ส.หลายคนอยู่ในภาวะขวัญหนีดีฝ่อ ไม่เพียงจากกติกาที่จะล้วนเป็นอุปสรรคยิ่ง ยังต้องเผชิญภาวะคนในบ้านจ้องทิ้งพรรค ในรายที่เป็นข่าวไปแล้ว ถือว่า เป็นเพียงส่วนน้อย หากไปไล่เรียงดูรายชื่อที่ตามมาอีกล็อตใหญ่ อยู่ในภาวะน่าสะพรึงอย่างยิ่ง ไม่เท่านั้นบุคคลที่มาติดต่อทาบทามให้ไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่น กลุ่มสามมิตรที่กำลังมาแรง นำโดย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สมศักดิ์ เทพสุทิน อนุชา นาคาศัย และบางกระแสระบุไปถึง ส.ขาใหญ่ ในรัฐบาลอีกคน ที่อยู่เบื้องหลังให้การสนับสนุน

        ทุกคนล้วนแล้วแต่มีหน่อกำเนิดจากพรรคไทยรักไทยยุครุ่งเรือง เคยร่วมงานเป็นรัฐมนตรีที่รู้ใจกับ ทักษิณ ชินวัตร ทั้งสิ้น แต่ในวันนี้กลับกลายมายืนคนละขั้ว เปิดหน้าในจุดยืนทางการเมืองคนละฝ่าย

        พรรคเพื่อไทยถูกล้อมตีอย่างหนัก ว่ากันว่าอดีตรายชื่อ ส.ส. อดีต ส.ว.นักการเมืองท้องถิ่น ที่อยู่ในข่ายมากกว่า 80 คน มีการจำแนกแบ่งเป็นโซนจังหวัด รายภาคอย่างชัดเจน อาทิ จ.นครราชสีมา ที่มีมากถึง 11 คน ประกอบด้วย นายภิรมย์ พลวิเศษ อดีต ส.ส. นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต ส.ส. และอดีต รมช.มหาดไทย นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ อดีต ส.ส. นายจำลอง ครุฑขุนทด อดีต ส.ส. และอดีต รมช.ศึกษาธิการ พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ อดีต ส.ส. นายสุพร อัตถาวงศ์ อดีต ส.ส. นายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส. นางทัศนียา รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส. นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส. นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส. นายพลพีร์ สุวรรณฉวี อดีต ส.ส.จังหวัดขอนแก่น 4 คน ประกอบด้วย นายปัญญา ศรีปัญญา อดีต ส.ส. นายณรงค์เลิศ สุรพล อดีต ส.ส. นายสมศักดิ์ คุณเงิน อดีต ส.ส. นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีต ส.ส.

        จังหวัดอุดรธานี 1 คน คือ นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล อดีต ส.ส จ.ชัยภูมิ 3 คน นายวุฒิชัย สงวนวงศ์ชัย อดีต ส.ส. ร.ต.วัฒนา แก้วศิริ อดีต ส.ส. พ.ท.อรุณ ชาลีรินทร์ อดีต ส.ส. จังหวัดกาฬสินธุ์ 4 คน นายประดิษฐ์ ฉัตรจรัสกุล อดีต ส.ว. นายวิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง อดีต ส.ส. นายบวร ภูจริต อดีต ส.ว. นายจำลอง ภูวนา อดีต ส.ส.จังหวัดสุรินทร์ 5 คน ประกอบด้วย นายยรรยงค์ ร่วมพัฒนา อดีต ส.ส. นายสมศักดิ์ เจริญพันธ์ อดีต ส.ส. นายธงชัย มุ่งเจริญพร อดีตนายก อบจ. นายณัฐพล จรัสรพีพงษ์ รองนายก อบจ. นายเกษมศักดิ์ แสนโภชน์ อดีต ส.ว.

        จังหวัดอุบลราชธานี 1 คน คือ นายวีรศักดิ์ จีนารัตน์ อดีต ส.ว. จังหวัดร้อยเอ็ด 3 คน ประกอบด้วย นายเกษม มาลัยศรี อดีต ส.ส. นายประณต เสริฐวิชา อดีต ส.ส. นายเวียง วรเชษฐ์ อดีต ส.ส. ด้านจังหวัดหนองบัวลำภู 1 คน คือ พ.ต.สุรชาติ สุวรรณพรหม อดีต ส.ส. ส่วนจังหวัดเลย 3 คน ประกอบด้วย นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข อดีต ส.ส. นายวันชัย บุษบา อดีต ส.ส จังหวัดศรีสะเกษ 3 คน นายกล่ำคาน ปาทาน อดีต ส.ส. นายพิทยา บุญเฉลียว อดีต ส.ส. นายอมรเทพ สมหมาย อดีต ส.ส.จังหวัดยโสธร 3 คน ประกอบด้วย นายวิสันต์ เดชเสน อดีต ส.ส. นายพิกิฎ ศรีชนะ อดีต ส.ส. นายรณฤทธิชัย คานเขต อดีต ส.ส. จังหวัดสกลนคร 3 คน นายสาคร พรหมภักดี อดีต ส.ส. นายวัชรินทร์ ศรีถาพร อดีต ส.ส. นายถนอม สมผล อดีต ส.ส. จังหวัดอำนาจเจริญ 3 คน ประกอบด้วย นายบวรศักดิ์ คะณาเสน อดีต ส.ว. นายชัยศรี กีฬา อดีต ส.ส. นายวิเชียร อุดมศักดิ์ อดีต ส.ส. จังหวัดบึงกาฬ 2 คน ประกอบด้วย นายยุทธพงษ์ แสนศรี อดีต ส.ส. นายสุริยา ภูยี่หวา รอง สสจ.บึงกาฬ จังหวัดมุกดาหาร 2 คน ประกอบด้วย นายเพียร แสวงบุญ ผอ.กศน. อ.ดงหลวง นายปราโมทย์ แก่นงาม ผู้บริหารโรงเรียน ขณะที่จังหวัดนครพนม 2 คน ประกอบด้วย นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ อดีต ส.ส. นายธงชัย พานิชดี ส.จ. ส่วน จ.หนองคาย 1 คน คือ นายสมคิด บาลไธสง อดีต ส.ส. จังหวัดมหาสารคาม นายสุชาติ ศรีสังข์ อดีต ส.ส.

        ภาคเหนือ จังหวัดสุโขทัย 3 คน ประกอบด้วย นายมนู พุกประเสริฐ อดีต ส.ส. นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง อดีตผู้สมัคร ส.ส. นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล อดีต ส.ส. จังหวัดพะเยา 1 คน คือ นายเกรียงไกร ชัยมงคล อดีต ส.ส. จ.ลำพูน 1 คน คือ นายทรงชัย วงศ์สวัสดิ์ อดีต ส.ส. จังหวัดเชียงราย 1 คน คือ นายบัวสอน ประชามอญ อดีต ส.ส. จังหวัดเชียงใหม่ 2 คน คือ นายโสภณ โกชุม อดีต ส.ส. นายสันติ ตันสุหัช ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน 1 คน คือ นายสุรสิทธิ์ ตรีทอง อดีต ส.ส. จังหวัดน่าน 1 คน นายดร งามธุระ ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดนครสวรรค์ 1 คน คือ นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย ผู้สมัคร ส.ส.

        เป็นเพียงรายชื่อเบื้องต้น บางจังหวัด ยังไม่นับรวมที่มีกระแสข่าวแพร่สะพัดตามมา ที่อยู่ในข่ายออกจากพรรค แต่ละรายล้วนเป็นบิ๊กเนมทั้งสิ้น อาทิ ก๊วนของสันติ พร้อมพัฒน์ หนึ่งในนายทุนพรรคเพื่อไทย ที่เตรียมนำสมาชิกทั้งจังหวัดเพชรบูรณ์ หลายจังหวัดในภาคเหนือ อีสาน มาสมทบทีมร่วม 10 ราย เช่นเดียวกับบิ๊กเนมนักการเมืองชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ เล็งเป้าไปที่ตระกูลบูรณุปกรณ์ ภาคกลาง พระนครศรีอยุธยา ของ วิทยา บุรณศิริ ที่อยู่ในข่าย ตามมาในล็อต 2

        ปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิตที่ติดในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกันอย่างสุดความสามารถ พลังแรงใจทั้งจากคนไทยเองและต่างประเทศ สามัคคีรวมใจกันเป็นหนึ่ง ไม่มีค่าย แบ่งฝ่ายแยกสี แต่ขณะที่ความขัดแย้งการเมืองยังหาทางลงตัว จุดสมานฉันท์ปรองดองไม่ได้ ต่อให้กลุ่มสามมิตรที่เพียบพร้อมทั้งเครือข่าย กำลังคน ปัจจัยเกื้อหนุน ซึ่ง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่ม ประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ สามมิตรหวังจะเป็นกลุ่มหลักในการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล จะประสบผลสำเร็จตามที่ตั้งความหวังไว้ได้หรือไม่

        พรรคเพื่อไทยไร้หัว สมาชิกทิ้งบ้าน สุ่มเสี่ยงภาวะพรรคแตก ขณะเดียวกัน กลุ่มสามมิตรเดินเครื่องเต็มกำลัง สามัคคีในการดูด ส.ส.มาเป็นพวก สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง จะประสบผลสำเร็จมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เบื้องหน้า เบื้องหลังการดูดผู้เล่นล้วนเป็นหน้าเก่าทางการเมืองที่เข้าไปพัวพันเรื่องทางลบในอดีตเป็นส่วนหนึ่งในปัญหาความขัดแย้ง

        ผู้อาสาเข้ามาเป็นกองหนุนการเมืองให้บิ๊กตู่ ไม่รู้ว่าท้ายสุดแล้ว ปฏิบัติการ ‘ดูดบนข้อต่อรอง’ ของสามมิตร จะกลายเป็นตัวช่วยหรือตัวถ่วงทางการเมืองบนความคาดหวังแห่งการ "ปฏิรูป" กันแน่!!!.

 

                                                                ทีมข่าวการเมือง

 

        "พรรคเพื่อไทยไร้หัว สมาชิกทิ้งบ้าน สุ่มเสี่ยงภาวะพรรคแตก ขณะเดียวกัน กลุ่มสามมิตรเดินเครื่องเต็มกำลัง สามัคคีในการดูด ส.ส.มาเป็นพวก สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง จะประสบผลสำเร็จมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เบื้องหน้า เบื้องหลังการดูดผู้เล่นล้วนเป็นหน้าเก่าทางการเมืองที่เข้าไปพัวพันเรื่องทางลบในอดีตเป็นส่วนหนึ่งในปัญหาความขัดแย้ง"