ไม่ใช่ฮีโร่...แต่ก็ไม่ใช่คนผิด


เพิ่มเพื่อน    

      สำหรับโค้ชและเด็กนักฟุตบอลทีมหมูป่านั้น พวกเราคงต้องมองน้องๆ ให้ตรงประเด็น น้องเขามีความสามารถในการอดทนกับปัญหาที่เขาต้องเผชิญได้ดี เป็นเรื่องที่น่าชมเชย แต่น้องเขาก็ไม่ใช่ฮีโร่แต่อย่างใด ในขณะเดียวกันน้องก็ไม่ใช่คนผิดที่สมควรได้รับการประณามต่อว่าต่อขานแต่อย่างใด เพราะน้องเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิด น้องเขาก็คือคนไปเที่ยวถ้ำ ไม่ต่างไปจากคนเดินป่าแล้วหลง คนไปเที่ยวน้ำตกแล้วเจอน้ำป่าไหลหลาก ไปเที่ยวทะเลแล้วเจอสึนามิ หรือออกไปล่องเรือแล้วกลับเข้าฝั่งไม่ได้เพราะเจอพายุ ดังนั้นน้องไม่ควรได้รับการตำหนิแต่อย่างใด พวกเขาคือผู้ประสบภัยจากการไปท่องเที่ยวเชิงผจญภัย เขาไปในสถานที่ที่พวกเขาเคยไปมาแล้ว และเขาไปในเวลาที่ไม่มีการห้าม ทั้งนี้เพราะป้ายที่เขียนไว้ที่หน้าถ้ำนั้นห้ามไม่ให้เข้าไปในเดือนกรกฎาคม วันที่น้องๆ เข้าไปเป็นวันที่ 23 มิถุนายน ดังนั้นน้องเขาไม่ได้ผิด เขาไม่ได้ขัดขืนประกาศที่อยู่หน้าถ้ำแต่อย่างใด ดังนั้นไม่ควรมีใครว่าน้องว่าเป็นเด็กซนที่ทำเรื่องให้คนอื่นต้องเดือดร้อน เชื่อว่าตอนที่เข้าไปนั้นพวกเขาจะต้องมั่นใจว่าเขาจะออกมาได้ แต่เรื่องดินฟ้าอากาศก็เป็นเรื่องที่ใครยากจะคาดการณ์ได้ถูกต้องแม่นยำ ถ้าหากน้องๆ เขารู้ว่าฝนจะตกหนัก น้ำจะขึ้นสูงจนออกมาไม่ได้
      นอกจากเราไม่ควรจะด่าว่าเขาเป็นเด็กซน หาเรื่องให้คนอื่นเดือดร้อนแล้ว เรายังต้องชมเขาในเรื่องของการดูแลตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัยได้ในตอนที่ติดอยู่ในถ้ำเกือบ 10 วัน และเมื่อมีนักประดาน้ำไปพบนั้น พวกเขาส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่มีสุขภาพดีระดับสีเขียวเกือบทั้งหมด จะมีระดับสีแสดอยู่บ้างก็เพียง 2 คนเท่านั้น และเชื่อแน่ว่าทีมงานที่เข้าไปช่วยน้องๆ นั้นจะดูแลเยียวยาน้องทุกคนให้อยู่ในสภาพระดับสีเขียวก่อนที่จะนำน้องๆ ออกมาจากถ้ำ และเมื่อพวกเขาออกมาแล้ว เขาควรจะได้รับการปลอบประโลม สร้างขวัญกำลังใจให้เขารู้สึกดีใจและอบอุ่นที่ได้กลับออกมาจากถ้ำ มาอยู่ในอ้อมอกของพ่อแม่ผู้ปกครอง พวกเขาไม่ควรถูกตำหนิ ไม่ควรมีใครพูดถึงภาระของฝ่ายต่างๆ ที่สละเวลาทุ่มแรงกายแรงใจและค่าใช้จ่ายในการช่วยให้น้องเขาออกมาจากถ้ำ ให้อยู่รอดปลอดภัย เพราะชีวิตของมนุษย์นั้นไม่อาจจะตีราคาได้ว่าเราต้องเสียอะไรบ้างในการจะช่วยชีวิตของพวกเขา สิ่งที่เราน่าจะพูดถึงก็คือความมีน้ำใจและความสามารถของคนไทยและคนในชาติอื่นๆ ที่มาร่วมมือกันช่วยน้องๆ เหล่านั้น พวกเขามีความสามารถและมีน้ำใจ พวกเขาทุ่มเท ใช้ความรู้และทักษะเต็มศักยภาพในการช่วยกันในครั้งนี้
      นอกจากนั้นแล้ว น้องๆ ควรจะได้รับการดูแลให้พวกเขามีร่างกายที่แข็งแรงและมีจิตใจที่เข้มแข็ง เมื่อน้องๆ เขาออกมาได้ พันธกิจของทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็คือ การฟื้นฟูร่างกายของพวกเขาให้แข็งแรงดังเดิม ปลอบใจพวกเขาให้รู้สึกอบอุ่น มั่นใจว่าพวกเขาปลอดภัยแล้ว และสังคมมองพวกเขาเป็นผู้ประสบภัยที่สมควรได้รับการช่วยเหลือ ในยามที่พวกเขาต้องการกำลังใจเช่นนี้ ไม่ควรมีเสียงก่นด่าหรือตำหนิพวกเขาแต่อย่างใด หากจะมีการอบรมสั่งสอนเพื่อให้เขาได้เรียนรู้อะไรบางอย่างก็ยังไม่ควรจะทำในช่วงเวลานี้ ควรจะรอให้สภาพร่างกายและจิตใจของพวกเขาได้รับการฟื้นฟูให้สมบูรณ์เต็มที่ก่อน จึงจะได้เวลาของการให้บทเรียน เรื่องดังกล่าวนี้จะต้องเป็นหลักการทั้งพ่อแม่และครูที่จะสอนกันแบบเผชิญหน้า สื่อสารมวลชนที่จะทำเป็นข่าวสาธารณะ ตลอดจนมือคีย์บอร์ดและแอดมินของเพจต่างใน social media โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มหลังนี้ขอให้มีความอดกลั้นให้มาก เพราะพวกท่านมีเสรีภาพในการแสดงออก แต่ก็ควรใช้เสรีภาพนั้นให้เหมาะสม และคิดถึงความรู้สึกของน้องๆ ทั้ง 13 คนด้วย
      ในขณะที่เราเห็นใจพวกเขาด้วยความห่วงใยและมุ่งมั่นในการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจของพวกเขา แต่เราก็ไม่ควรยกย่องพวกเขาเป็นฮีโร่ที่ควรได้รับรางวัลหรืออภิสิทธิ์ต่างๆ ที่เด็กคนอื่นจะต้องไขว่คว้ามาด้วยความสามารถ ไม่ใช่ด้วยการเป็นผู้ประสบภัย ณ เวลานี้มีหน่วยงานและองค์กรต่างๆ กำลังจะมอบรางวัลบ้าง ให้สิทธิพิเศษในลักษณะ Fast track บ้าง อยากจะวิงวอนขอให้ท่านทั้งหลายคิดให้ดีก่อนที่จะให้รางวัลหรือสิทธิพิเศษต่างๆ เหล่านั้น เขาเป็นผู้ประสบภัยที่ควรได้รับการช่วยเหลือและการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ หากท่านจะมอบรางวัลอะไรให้กับเขา ท่านต้องมั่นใจว่ารางวัลและสิทธิพิเศษที่ท่านให้กับพวกเขานั้นเป็นการปลอบใจ เป็นความชื่นชมการดูแลตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัยตลอดระยะเวลาเกือบ 10 วันที่พวกเขาติดอยู่ในถ้ำ ไม่ใช่เป็นการให้รางวัลของการเป็นฮีโร่ พวกเขายังเด็กและยังไม่มีวุฒิภาวะเท่าใดนัก ดังนั้นการมอบอะไรให้โดยไม่สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องอาจจะทำให้พวกเขามองตัวเองผิดไปจากการเป็นผู้ประสบภัยที่รู้จักเอาตัวรอด และการได้รับอะไรบางอย่างอาจจะทำให้การได้บทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ถูกกลบด้วยรางวัลและสิทธิพิเศษต่างๆ ที่มีหน่วยงานและบุคคลต่างๆ มอบให้
      เมื่อมีเหตุการณ์ที่เป็นวิกฤติเกิดขึ้น หลังจากกอบกู้วิกฤติแล้ว สิ่งที่พวกเราทุกๆ ฝ่ายในสังคมควรจะทำก็คือ การรวบรวมบทเรียนจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น เราต้องใช้วิกฤติดังกล่าวนั้นเป็นโอกาสของการเรียนรู้และโอกาสของการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง เพื่อให้เราสามารถมั่นใจได้ว่าเหตุการณ์ที่เป็นวิกฤติดังกล่าวนั้นจะไม่เกิดขึ้นอีก ต้องทำให้สังคมมั่นใจว่าวิกฤติดังกล่าวนั้นจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย หรือครั้งเดียวที่จะเกิดขึ้น
      *เราควรจะได้บทเรียนในการจัดการกับการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยที่ถ้ำนั้น ทำให้ปลอดภัย
      * เราต้องได้บทเรียนเรื่องการติดป้ายและคำแนะนำให้ความรู้กับคนที่จะไปเที่ยว
      *เราต้องมีเจ้าที่ดูแลกำกับการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว ที่จะไปที่ถ้ำแห่งนี้
      *เราต้องได้บทเรียนการจัดการแก้ไขปัญหาวิกฤติทางด้านเทคนิคต่างๆ
      *เราต้องได้บทเรียนในการจัดการการสื่อสารในภาวะวิกฤติให้ดีกว่าที่ผ่านมา
      *เราต้องได้บทเรียนในการจัดการกองทัพสื่อมวลชนที่ไปทำข่าว ณ จุดเกิดเหตุ
      *เราต้องได้บทเรียนในการจัดการสื่อสารบนพื้นที่ social media ของมือคีย์บอร์ดทั้งหลาย
      *เราต้องได้บทเรียนจากการสร้างมุมมองเกี่ยวกับผู้ประสบภัยให้ถูกต้อง
      ท้ายที่สุด เราต้องเรียนรู้ที่จะ Do the right thing, and do things right คือทำสิ่งที่ควรทำ และทำสิ่งที่ต้องทำ ให้ดีมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"