ญาติเข้าเยี่ยม13หมูป่า แพทย์เผยทำกิจวัตรได้เองแล้ว/ฮูย่า!ซีลกลับฐาน


เพิ่มเพื่อน    

      13 ชีวิตแข็งแรงดี ทำกิจวัตรได้เองแล้ว ผู้ปกครองเยี่ยมถึงข้างเตียงได้ หมอแนะทีมช่วยเหลืออย่าเพิ่งทำกิจกรรมหนักช่วง 2 สัปดาห์ “ฮูย่า” ดังสนั่นรับซีลและทหาร 159 นายกลับมาตุภูมิ ผบ.กองเรือยุทธการชื่นชมสมเป็นลูกประดู่ที่ปฏิญาณเคียงข้างประชาชน   “ผบ.ซีล” เผยศรีภรรยาเป็นกำลังใจ น.อ.อนันต์รับภารกิจสุดเสี่ยง มีโอกาสลุ้น 50-50 “ไทย” มอบอีลิทการ์ดให้ทีมต่างชาติกลับมาเที่ยวไทยใน 5 ปี ส่วนงานฉลอง “มหาดไทย” รับหน้าเสื่อ
      เมื่อวันพฤหัสบดี นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงอาการของนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย 13 ชีวิตที่พลัดหลงในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งได้รับการช่วยเหลือและดูแลรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ว่านพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการ รพ.เชียงรายฯ ได้รายงานว่าทีมแพทย์และพยาบาลยังคงให้การดูแลรักษาและควบคุมป้องกันโรคแก่น้องๆ นักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมีอย่างใกล้ชิด โดยช่วงเช้าทุกคนไม่ต้องให้สารละลายน้ำเกลือทางเส้นเลือด สามารถทำกิจวัตรต่างๆ ได้เอง และญาติเข้าเยี่ยมผู้ป่วยที่ข้างเตียงได้ทั้ง 13 คน โดยสวมเสื้อกาวน์และหน้ากากอนามัย ส่วนผลการตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการไม่พบโรคติดต่ออันตราย แต่อยู่ระหว่างรอผลการตรวจเชื้อไวรัสบางชนิด
         นพ.เจษฎายังกล่าวอีกว่า ผู้ป่วยกลุ่มที่ 1 จำนวน 4 คน เข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. อาการทั่วไปปกติ สัญญาณชีพปกติ ไม่มีไข้ รับประทานอาหารปกติได้ ขับถ่ายปกติ สำหรับ 2 รายที่มีปัญหาปอดติดเชื้ออาการดีขึ้น ทุกรายรอให้ยาปฏิชีวนะจนครบ 7 วัน กลุ่มที่ 2 จำนวน 4 คน เข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. อาการทั่วไปปกติ มีไข้ต่ำ 2 คน สัญญาณชีพอื่นๆ ปกติ รับประทานอาหารปกติได้ดี ไม่มีอาการผิดปกติอื่น รอให้ยาปฏิชีวนะจนครบ 7 วัน ส่วนกลุ่มที่ 3 จำนวน 5 คน เข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. อาการทั่วไปปกติ รับประทานอาหารปกติได้ดี มีไข้ 3 คน แนวโน้มไข้ลดลง สัญญาณชีพอื่นๆ ปกติ สำหรับ 3 รายที่มีอาการปวดหูร่วมกับหูอื้อ ตรวจร่างกายเพิ่มเติมพบมีภาวะติดเชื้อที่บริเวณหูชั้นกลาง ได้ให้ยารักษาอาการ และรอให้ยาปฏิชีวนะครบ 7 วัน
        “ด้านจิตใจของผู้ป่วยและญาติ ทีมจิตแพทย์ของ รพ.เชียงรายฯ ได้ให้การดูแลตั้งแต่เริ่มค้นหา ณ จุดบริการบริเวณหน้าถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน และเริ่มให้การดูแลจิตใจผู้ป่วยทันทีที่ออกจากถ้ำอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ซึ่งทุกคนที่อยู่ใน รพ.ไม่มีความเครียด นอนหลับได้ดี” นพ.เจษฎากล่าว
        นพ.เจษฎายังกล่าวถึงหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) หรือหน่วยซีล กองเรือยุทธการ
4 นาย ว่า รพ.เชียงรายฯ ได้ให้การดูแลใน 24 ชั่วโมงแรกหลังเสร็จสิ้นภารกิจ โดยตรวจร่างกายเบื้องต้น ทั้งผลเลือดและเอกซเรย์ปอดปกติ รพ.ในสังกัดจึงรับตัวไปดูแลต่อ ทั้งนี้ภายใน 2 สัปดาห์ ขอให้ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ถ้ำหลวงฯ ทั้งส่วนราชการและอาสาสมัคร ปฏิบัติตามคำแนะนำบัตรเฝ้าระวังโรค พักผ่อนอยู่ที่บ้าน ดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรง งดการออกไปร่วมสังสรรค์หรือมีกิจกรรมนอกบ้าน และสังเกตอาการผิดปกติ หากมีไข้ ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ปวดกล้ามเนื้อ และหายใจลำบาก ให้ไปพบแพทย์ที่ รพ.ใกล้บ้านทันที
         “ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจ ด้านการรักษาพยาบาลทั้งร่างกายและจิตใจ ทีมแพทย์ จิตแพทย์ และสหสาขาวิชาชีพของ รพ.เชียงรายฯ ดูแลรักษาผู้ป่วยทุกคนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้นักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีและโค้ชทั้ง 13 คนแข็งแรงปลอดภัยกลับสู่ครอบครัว”นพ.เจษฎายืนยัน
ขณะเดียวกัน นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ได้ลงพื้นที่มอบปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติจากการรับน้ำโดยรอบพื้นที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ณ ศาลาอเนกประสงค์ วัดสันปูเลย ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยมีพื้นที่เสียหายทั้งหมด 1,266.75 ไร่ จำนวนเกษตรกร 126 ราย เป็นวงเงินการขอรับความช่วยเหลือ 1,409,892.75 บาท ซึ่งอยู่ในอำนาจของผู้ว่าฯ ที่สามารถอนุมัติวงเงินช่วยเหลือให้เกษตรกรได้ทันที และสำนักงานเกษตร อ.แม่สาย จะจัดทีมลงไปสำรวจพร้อมให้การช่วยเหลือ รวมทั้งให้ความรู้ในการฟื้นฟูและดูแลพื้นที่หลังน้ำลดทันที
“ฮูย่า” สนั่นรับซีลกลับฐาน
    ส่วนที่สนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้มอบหมายให้ พล.ร.อ.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานต้อนรับกำลังพลของกองทัพเรือที่เดินทางกลับที่ตั้ง หลังเสร็จสิ้นภารกิจที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน โดยคณะทั้งหมดมีจำนวน 159 นาย ประกอบด้วยหน่วยซีล 127 นาย นำโดย พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) หรือหน่วยซีล นอกจากนั้นเป็นกำลังพลจากชุดเวชศาสตร์ทหารเรือ กรมแพทย์ทหารเรือ กรมสรรพาวุธทหารเรือ กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ และส่วนอื่นๆ อีก 32 นาย ซึ่งเดินทางมาถึงโดยเครื่องบินลำเลียงแบบ C-130 ของกองทัพอากาศ และเครื่องบินแอมแบร์ของกองทัพเรือ โดยมีญาติรวมถึงกำลังพลของกองทัพเรือ หน่วยซีล และประชาชนในพื้นที่มารอต้อนรับและมอบดอกไม้ให้กำลังใจอย่างอบอุ่น ทั้งนี้ ทร.ได้จัดอุโมงค์น้ำเป็นเกียรติให้เครื่องบินเที่ยวนี้ และเมื่อเดินทางมาถึง ได้มีพิธีต้อนรับ และร่วมร้องคำว่า ฮูย่า พร้อมกันด้วย
      พล.ร.อ.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้กล่าวแสดงการขอบคุณ พร้อมเชิดชูเกียรติแด่เหล่าทหารทุกนาย ที่ได้สละแรงกาย แรงใจ และเสี่ยงชีวิตในการเข้าช่วยเหลือทีมนักกีฬาฟุตบอล 13 ชีวิตจนสามารถรอดชีวิตกลับมาสู่อ้อมอกครอบครัวได้อย่างน่าชื่นชม สมเกียรติการเป็นชายชาติทหาร ดังคำปฏิญาณของทหารเรือที่ว่า ทหารเรือจะเคียงข้างประชาชน
    พล.ร.ต.อาภากรกล่าวว่า หลังได้รับมอบหมายภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า ก็รีบจัดกำลังพลเดินทางไปช่วยเหลือทันที เมื่อมีอุปสรรคตรงหน้าเราก็ไม่ท้อถอย เราบอกว่าเราสู้ เมื่อสู้แล้วมีกำลังใจเยอะ และมีคนสนับสนุนเรามากมาย เพราะคนที่จะเข้าไปถึงน้องๆ ได้ก็คงต้องเป็นหน่วยซีลหน่วยเดียวเท่านั้น เราจึงต้องเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน เพื่อนพ้องน้องพี่ซีลที่ปลดประจำการไปแล้วก็มาร่วมงานกับพวกเรา แม้ไม่ได้อยู่ในราชการ นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานต่างๆ มากมายมาช่วย เป็นที่ประจักษ์ว่า ถ้าเราสู้และไม่ย่อท้อ ก็จะมีคนสนับสนุนเยอะมาก ซึ่งในสิ่งที่เราทำลงไปถือว่ามีความเสี่ยงต่อกำลังพล แต่เราถูกฝึกมาให้อดทนเพื่อการณ์นี้ เราฝึกคนมาเพื่อทำงานเสี่ยงๆ ถ้างานง่ายๆ ไม่ต้องถึงมือเราหรอก แต่งานนี้ถือว่าเป็นงานยาก
    “ผมเชื่อมั่นในกำลังพลทุกคน และประจักษ์ว่ากำลังพลของหน่วยทุกคนยอดเยี่ยมมาก ขอบคุณกำลังพลของผมทุกคนที่ได้ทำงานนี้จนประสบผลสำเร็จค่อนข้างสมบูรณ์ เราก็เหมือนเฟืองตัวเล็กๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนเครื่องจักรให้สมบูรณ์ การสู้ครั้งนี้เป็นเรื่องยาก และต้องใช้ใจทำงาน ซึ่งภารกิจครั้งนี้ได้สูญเสีย 1 นายคือ จ.อ.สมาน กุนัน ที่เป็นผู้เสียสละ แต่เราก็ไม่เสียขวัญ เพราะเขาจากไปแบบวีรบุรุษของชาวโลก ซึ่งเป็นที่น่าภาคภูมิใจ” พล.ร.ต.อาภากรกล่าว
    พล.ร.ต.อาภากรยังสัมภาษณ์เปิดใจเพิ่มเติมยอมรับว่า เป็น ผบ.นสร.ใครๆ ก็ฟังและกลัวหมด แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ไม่กลัว เขาก็จะให้คำแนะนำว่าสิ่งที่ทำจะเป็นอย่างไรบ้าง คือภรรยา เพราะมีประสบการณ์มาก เคยขึ้นเขาเอเวอเรสต์ และเคยไปแอนตาร์กติกา 4 เดือน จึงช่วยในการประสานเครือข่ายต่างๆ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับเรื่องธรรมชาติ ซึ่งภารกิจครั้งนี้มีเครือข่ายอยู่หลายส่วน มีทั้งเปิดตัวแล้วไม่เปิดตัว  
    “ภรรยาผมถือเป็นกำลังใจที่ดี ให้การสนับสนุนตลอด ถ้าผมไม่ได้เขาก็ไม่ได้มาถึงทุกวันนี้ ที่ผ่านมาภรรยาไม่เคยออกหน้าเลย เพราะขออยู่ข้างหลังตลอด ก็ขอขอบคุณเอื้อย (ศศิวิมล อยู่คงแก้ว) ด้วย” พล.ร.ต.อาภากรกล่าว และว่า ส่วนจะนำบทเรียนในภารกิจถ้ำหลวงฯ มาใส่ในการฝึกซีลหรือไม่นั้น ขอให้คอยดู เพราะอยู่ในขั้นตอนต่อไป 
รับภารกิจเสี่ยงครึ่งๆ
    ด้าน น.อ.อนันต์ สุราวรรณ์ ผู้บังคับการกรมรบพิเศษที่ 1 นสร. กล่าวว่า การทำงานที่ผ่านมากำลังเรียนรู้ประสบการณ์และแก้ปัญหาวันต่อวัน ถือเป็นความเสี่ยง การส่งนักดำน้ำไปทำงาน คิดอยู่เสมอว่ามีความสำเร็จ 50% และไม่สำเร็จหรือสูญเสีย 50% แม้จะมองโอกาสความสำเร็จ 40% แต่เราจะมองประเด็นที่ความสำเร็จมากกว่าความสูญเสีย ภูมิใจกับทีมงานซีลทุกคน เมื่อต้องออกไปปฏิบัติงาน ก็จะทำเต็มที่ ไม่มีเกี่ยงงอน  ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจะได้นำไปแก้ไขให้เกิดความพร้อมทุกๆ ภารกิจที่มีความเสี่ยงเช่นนี้ในอนาคต
    “การทำงานในถ้ำ ไม่รู้ว่าวันไหน นอนก็นอนในถ้ำตรงโถงสาม ตื่นบ้างพักบ้าง ลูกน้องก็สลับสับเปลี่ยนกันเข้าไปทำงาน ส่วนลูกน้อง 3 คนที่ขาดการติดต่อไป 23 ชม. หลังตรวจร่างกายก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก วันนี้ก็เดินทางกลับมาพร้อมคณะด้วย” น.อ.อนันต์ระบุ
    ขณะที่ น.ต.ค่าย โตชัยภูมิ อดีตหน่วยซีลรุ่น 9 และอดีตครูฝึกหน่วยซีลที่เดินทางมาร่วมงานครั้งนี้ กล่าวถึงการเสริมบทเรียนการดำน้ำในถ้ำว่า ที่ผ่านมามีการฝึกขั้นพื้นฐานในพื้นที่ภาคใต้ เช่น เขาหลัก ตะกั่วป่า ภูเก็ต มีชาวต่างชาติเปิดสอนอยู่ แต่ต้องเสริมหลักสูตร Cave Diving Technic ซึ่งได้ยินจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ซึ่งตรงกับที่คิดในการเสริมขั้นสูง เพราะทีมที่ไปทำภารกิจเจอครั้งแรก ไม่เคยไปฝึกที่ภาคใต้ งงเป็นไก่ตาแตก เพราะไม่รู้จะใช้อะไร แต่มีการจัดการที่ดีในการปฏิบัติ
    "ถือเป็นบทเรียนราคาแพงที่จะทำให้เกิดการพัฒนาหลักสูตรขึ้นอีกมาก ซึ่งการผลิตบุคลากรด้านนี้ไม่ได้เน้นที่ปริมาณ แต่เน้นที่คุณภาพ” น.ต.ค่ายระบุ
    สำหรับการถอดบทเรียนจากปฏิบัติการดังกล่าวนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า หน่วยซีลเตรียมเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งเขาไม่เคยดำน้ำในถ้ำ ที่ผ่านมาเขาเคยแต่ดำน้ำในทะเล ก็คิดว่าเหมือนกัน แต่ปรากฏว่าความมืดในถ้ำกับในทะเลนั้นแตกต่างกัน ประกอบกับมีดินโคลนและพื้นที่แคบด้วย ซึ่งคงถอดบทเรียนต่างๆ เพื่อนำไปสอนเพิ่มเติม
    พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า แม้ศูนย์ส่วนหน้าจะปิดตัวลงแล้ว แต่ศูนย์ของจังหวัดยังคงต้องทำงาน ขณะนี้กำลังดำเนินการสำรวจอุปกรณ์และของใช้ต่างๆ เพราะบางส่วนติดอยู่ในถ้ำ รวมถึงสรุปว่าหน่วยงานต่างๆ จะใช้งบประมาณจากส่วนใด ซึ่งบางส่วนเขาก็มีงบประมาณของตัวเอง เช่น รัฐวิสาหกิจ แต่ส่วนอื่นต้องหาทางพิจารณาช่วยเหลือ อย่างเอกชนบางส่วนของติดอยู่ข้างในก็มี ที่ทราบอย่างเชฟรอนเขาให้เลย  แม้ติดอยู่ข้างใน ทางซีลก็บอกว่าถ้าน้ำลดแล้วค่อยมาเก็บกัน เป็นต้น
    พล.อ.อนุพงษ์กล่าวต่อว่า ยังต้องมาทำการทบทวนหลังการปฏิบัติงาน โดยทบทวนทั้งหมด ตั้งแต่ทำอะไรบ้าง แต่ละส่วนประกอบด้วยใครบ้าง ทั้งหมด แล้วสรุปออกมาเป็นบทเรียน ว่าต่อไปต้องทำอย่างไร เพราะยังไม่เคยมีเหตุการณ์นี้ที่ใดในโลก ดังนั้นจึงต้องทำหลายๆ อย่าง ซึ่งจะไม่ได้เป็นประโยชน์เฉพาะประเทศเรา ส่วนเครื่องมือช่วยเหลือของทีมต่างชาติ เขาดำน้ำได้นานมาก ของเราดำได้ไม่กี่ชั่วโมง เราก็ต้องรีบสรุปบทเรียนแล้วนำเรียนให้รัฐบาลทราบ ซึ่งขณะนี้ก็กำลังทำกันอยู่ ทั้งนี้ ได้ให้ปลัด มท.ติดต่อกับทุกหน่วยงานที่ปฏิบัติงานทั้งหมดเพื่อไล่เรียงการปฏิบัติงาน
    นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการกล่าวในเรื่องนี้ว่า ขณะนี้มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เสนอแนะวิธีการดำเนินการในการถอดบทเรียนในเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งต้องทำให้รอบด้าน ทั้งการเอาตัวรอด การใช้ชีวิตอยู่เมื่อตกอยู่ในภาวะคับขัน และที่สำคัญที่สุดคือการฟื้นตัวภายหลังเจออาการความเครียดหลังจากเหตุการณ์สะเทือนใจ รวมถึงการถอดบทเรียนในแง่ดี ทั้งในเรื่องการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
        “ตอนทีมงานเก็บข้อมูลทั้งหมดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าจะเอาข้อมูลจากสื่อและการบอกเล่าเท่านั้น  และหลังจากการรวบรวมข้อมูลเสร็จแล้ว ก็จะหารือกันอีกครั้งว่าจะถ่ายทอดเป็นองค์ความรู้ในรูปแบบใด เพราะหากทำเป็นหลักสูตรขึ้นมา สิ่งที่ได้ก็จะมีหนังสือเพิ่มขึ้นมาอีกเล่ม รวมถึงต้องดูด้วยว่าปีๆ หนึ่งมีคนไปถ้ำเท่าใด ดังนั้นรูปแบบการถ่ายทอดองค์ความรู้ต้องดูด้วยว่าเหตุการณ์มันคล้ายกับอะไร และค่อยสอนนักเรียนทีเดียว“ นพ.ธีระเกียรติกล่าว
มท.เจ้าภาพจัดเลี้ยง
    ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวสั้นๆ ก่อนเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ถึงการเตรียมการจัดงานเลี้ยงขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในภารกิจการช่วยเหลือโค้ชและเด็กทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 ชีวิต ว่าเจ้าหน้าที่เตรียมการอยู่ โดยกระทรวงมหาดไทยจะเป็นเจ้าภาพ 
    มีรายงานว่า ขณะนี้กองพิธีการ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อยู่ระหว่างการจัดทำบัตรเชิญหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการพา 13 ชีวิตกลับบ้านมาร่วมงานเลี้ยงขอบคุณที่ จ.เชียงราย แต่ยังไม่ได้กำหนดวันและสถานที่
    พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงการปูนบำเหน็จตอบแทนแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานว่า หน่วยงานจะพิจารณาเอง เขาจะเสนอขึ้นมา ไม่ขัดข้องถ้าเขาจะเสนอบำเหน็จพิเศษต่างๆ มา เจ้าหน้าที่เขาทุ่มเท ไม่ได้หลับได้นอน ส่วนกองทัพจะเลี้ยงขอบคุณหรือไม่นั้น คงต้องให้เขาเป็นผู้พิจารณา แต่ได้ให้กำลังใจไปแล้ว
    พล.อ.อนุพงษ์กล่าวในเรื่องนี้สั้นๆ ว่า การจัดงานเลี้ยงกำลังอยู่ในขั้นตอนของการเตรียมการ กำลังรวบรวมรายชื่อและหารายละเอียด รวมทั้งสถานที่จัดงาน
    ขณะเดียวกัน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในนามรัฐบาลไทย ได้จัดโปรแกรมท่องเที่ยวให้ทีมนักดำน้ำชาวอังกฤษที่ช่วยชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ที่มีกำหนดเดินทางกลับในคืนวันที่ 12 ก.ค. โดยพาไปท่องเที่ยววัดร่องขุ่น ซึ่งได้พบกับอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรไทยผู้สร้างวัด ซึ่งได้จัดทำภาพพิเศษเป็นที่ระลึกมอบให้กับทีมนักดำน้ำชาวอังกฤษด้วย จากนั้นได้พาไปทานอาหารพื้นเมือง ที่ร้านท่าน้ำภูแล และไปสปาที่โรงแรมเลเจ้นท์ และเปิดห้องให้พักผ่อน พร้อมอาหารเย็นในห้องอาหารอิตาเลียนในโรงแรม ก่อนไปยังสนามบินเชียงราย และต่อเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ 
    ส่วนสำนักงานประชาสัมพันธ์ เขต 3 ได้เผยแพร่เอกสารประชาสัมพันธ์ ว่าอาสาสมัครชาวต่างชาติที่ประสงค์จะอยู่ต่อหลังเสร็จสิ้นภารกิจ จะจัดโปรแกรมท่องเที่ยวใน กทม.และ จ.เชียงราย ก่อนเดินทางกลับมาตุภูมิ ส่วนอาสาสมัครชาวต่างชาติที่จำเป็นต้องรีบเดินทางกลับก่อน จะเชิญให้เดินทางกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ 1 ครั้งในระยะเวลา 5 ปี โดย ททท.จะมอบบัตรสมาชิก Thailand Elite Card ซึ่งได้รับสิทธิประโยชน์วีซ่า 5 ปี และบริการอำนวยความสะดวกที่สนามบิน ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นธุรกิจจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และจัดโปรแกรมท่องเที่ยวในไทย 1 สัปดาห์ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
    ขณะเดียวกัน ในโลกออนไลน์เผยแพร่หนังสือราชการ ซึ่งลงนามโดย ศ.พิเศษ ดร.กาญจนา เงารังษี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ ศธ.0527/11178 เรื่อง การสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับโค้ชและนักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย โดยส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ระบุว่า มหาวิทยาลัยนเรศวรยินดีช่วยเหลือและสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับโค้ชและนักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย 13 คน หากต้องการและสนใจเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี หรือปริญญาโท หรือปริญญาเอกของมหาวิทยาลัย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"