“ฮีตศรัทธา ราชธานีแห่งเทียน” อุบลราชธานี


เพิ่มเพื่อน    

     เทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาที่กำลังจะมาถึงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ เป็นช่วงที่มีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน จึงถือเป็นโอกาสดีที่ทุกคนจะได้พักผ่อนจากการงาน กลับบ้านไปเยี่ยมญาติพี่น้อง หรือเดินทางท่องเที่ยวทำบุญไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  (ททท.) ได้ร่วมสนับสนุนการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับเทศกาลนี้ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องประเพณีแห่เทียนพรรษาโด่งดังไปในระดับสากล 
นางธนภร พูลเพิ่ม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุบลราชธานี กล่าวว่า จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับ ททท. หน่วยงานภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน กำหนดจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2561 “ฮีตศรัทธา ราชธานีแห่งเทียน” ระหว่างวันที่ 23-28 กรกฎาคม 2561 บริเวณถนนอุปราช และทุ่งศรีเมือง เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และกลุ่มจังหวัด “ราชธานีเจริญศรีโสธร” เป็นการสร้างรายได้เข้าสู่ท้องถิ่น และกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางต่อไปยังเมืองรองตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนต่างๆ  
          การจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ที่จะจัดขึ้นในช่วงวันหยุดยาวนี้ ถือได้ว่าเป็นงานในระดับนานาชาติ และเป็นต้นแบบการจัดงานแห่เทียนเข้าพรรษา โดยประชาชนและชุมชนได้ร่วมแรงร่วมใจรวมพลังในการรังสรรค์ต้นเทียน ทั้งประเภทแกะสลักและติดพิมพ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมศิลปะการแกะลายต้นเทียนกันแบบสดๆ ขณะที่นักท่องเที่ยวก็ร่วมแกะสลักเทียนด้วยตนเองได้ แต่ละปีที่ผ่านมากิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศอย่างล้นหลาม
     สำหรับปีนี้ จังหวัดอุบลราชธานีกำหนดแนวคิด (Theme) ในการจัดงานคือ “ฮีตศรัทธา ราชธานีแห่งเทียน” เพื่อตอกย้ำการเป็นเมืองนครแห่งธรรม นครแห่งเทียน โดยมีกิจกรรมให้ชมได้ตลอด เช่น ถนนสายเทียน สายธรรม, อุโมงค์เทียน, ถนนสายเทียน เชื่อมเมืองเก่าอุบล, การแห่ขบวนต้นเทียนประกอบแสงเสียงในภาคกลางคืน, การแสดงโฮงฮีต, ศรีวนาลัย และจุดถ่ายภาพอุ่นไอรักเมืองอุบล, กิจกรรมเยือนชุมชนและชมวิถีชีวิตในการทำต้นเทียน 
ททท.ยังได้จัดกิจกรรม “เทศกาลศิลปะเทียนนานาชาติ” โดยเชิญศิลปินด้านศิลปกรรมที่มีความเชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงจากประเทศญี่ปุ่น ประเทศจีน และประเทศมาเลเซีย มาร่วมรังสรรค์ต้นเทียนตามรูปแบบและแนวคิดของตนเอง เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจและความหลากหลายในการจัดงาน 
การประกวดต้นเทียนและขบวนแห่เทียนจัดขึ้นในวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 หลังจากนั้น ททท.ยังจัดกิจกรรม “เทียนอุบล ยลได้ตลอดเดือน” โดยนำต้นเทียนทั้งประเภทแกะสลักและติดพิมพ์ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ รองชนะเลิศ ไปจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันระหว่างวันที่ 1-26 สิงหาคม ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น. ณ บริเวณโดม วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี พร้อมกับมีกิจกรรมอื่นๆ ภายในงาน ได้แก่ “ตลาดแลง ฮักแพงเมืองอุบล” การประกวดทำอาหารพื้นถิ่น เช่น ตำส้มตำ, ลาบปลา การแสดงศิลปวัฒนธรรมเมืองอุบลฯ ตลอดจนมีผลิตภัณฑ์จากชุมชนมาจำหน่ายอีกด้วย 
ส่วนในวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันเข้าพรรษา และเป็นวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทางจังหวัดอุบลราชธานีขอเชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยวร่วมทำบุญตักบาตรและนั่งสมาธิ ตามวัดต่างๆ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน  
 ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานอุบลราชธานี กล่าวต่อว่า นอกจากมาชมงานแห่เทียนแล้ว นักท่องเที่ยวควรใช้โอกาสนี้เดินทางไปท่องเที่ยวและทำบุญไหว้พระในแหล่งต่างๆ ใกล้เคียงได้อีก เช่น ไปกราบนมัสการ "พระเจ้าใหญ่อินแปลง" พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุบลราชธานี ที่วัดมหาวนาราม หรือวัดป่าใหญ่, ไปกราบเจดีย์โพธิญาณที่เก็บอัฐิของหลวงปู่ชา สุภัทโท ที่วัดหนองป่าพง ในอำเภอวารินชำราบ, ไปชมความมหัศจรรย์ของวัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือ "วัดเรืองแสง" ที่อำเภอสิรินธร สถานที่ตั้งวัดอยู่บนเนินเขาสูง จำลองสภาพแวดล้อมของป่าหิมพานต์ หรือเขาไกรลาส  บนยอดเขามองเห็นพระอุโบสถสีทองตั้งเด่นเป็นสง่า  ไฮไลต์ของที่นี่คือการได้ชมภาพเรืองแสงเป็นสีเขียวของต้นกัลปพฤกษ์ ที่เป็นจิตรกรรมอยู่บนผนังด้านหลังของพระอุโบสถในยามค่ำคืน
      จากนั้นไปชม “ธรรมาสน์สิงห์ศิลปะญวน" ที่ศาลาการเปรียญวัดศรีนวลแสงสว่างอารมณ์ บ้านชีทวน ตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน ซึ่งแตกต่างจากธรรมาสน์โดยทั่วไปกล่าวคือ ตัวธรรมาสน์มีลักษณะเป็นรูปสิงห์ยืนเทินบุษบก สร้างด้วยอิฐถือปูน ยอดปราสาทเป็นเครื่องไม้ทำเป็นชั้นซ้อนลดหลั่น ประดับตกแต่งลายปูนปั้น และลายเขียนสีแบบศิลปะญวนทั้งหลัง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2468  โดยช่างชาวญวน ถือเป็นประติมากรรมที่มีคุณค่ายิ่งทางด้านศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง
นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจคือ “น้ำตกห้วยหลวง” อยู่ที่อุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี เดินทางเข้าถึงโดยรถยนต์ได้สะดวก เป็นน้ำตกที่มีความสูง ประมาณ 45 เมตร ไหลผ่านหน้าผาลงสู่เบื้องล่าง มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ พื้นน้ำเป็นสีเขียวมรกตและมีหาดทรายขาวสะอาดเหมาะกับการลงเล่นน้ำ ด้านบนมีจุดชมทิวทัศน์และถ่ายภาพ ด้านล่างมีบันไดสำหรับขึ้นลงประมาณ 272 ชั้น ถือว่าเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเขตอีสานตอนล่าง พื้นที่โดยรอบเป็นภูเขาโอบล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เขียวขจีที่ยังคงอุดมสมบูรณ์อยู่ เที่ยวชมได้ทั้งปี ส่วนช่วงที่มีน้ำหลากคือ ช่วงเดือนมิถุนายน-ธันวาคม
     ปิดท้ายด้วย “ผาชะนะได” อุทยานแห่งชาติผาแต้ม  อำเภอโขงเจียม จุดที่มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเป็นจุดแรกของประเทศไทย ทิวทัศน์เบื้องล่างเป็นแม่น้ำโขงกั้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างทางเดินไปสู่ผาชะนะได มีจุดชมวิวหลายจุดเช่นลานดอกไม้ดิน, พะลานหินวัดภูอานนท์, พะลานถ้ำไฮ พะลานภูโลง, พะลานผายะยืด, พะลานวัดถ้ำอมรวิสุทธาราม,  ถ้ำปาฏิหาริย์, ถ้ำฝ่ามือแดงบ้านปากลา, ผาที่วัดภูอานนท์โหง่นแต้ม, เสาเฉลียง และหินโยกมหัศจรรย์ ฯลฯ
 ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี 
 264/1 ถ.เขื่อนธานี อ.เมือง จ.อุบลราชธานี 34000
 โทรศัพท์ 0-4524-3770, 0-4525-0714

        สรณะ รายงาน
 

แกลลอรี่


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"