คิกออฟยุทธศาสตร์6-8ส.ค.


เพิ่มเพื่อน    

    นายกฯ นั่งหัวโต๊ะถก กก.ยุทธศาสตร์ชาติ เห็นชอบกรอบจัดทำแผนแม่บท 6 ด้าน ดึง  ป.ย.ป.-สศช.-หน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมบูรณาการ นัดประชุมคิกออฟ 6-8 ส.ค.นี้ คาดเสนอ ครม.ได้ ต.ค.-พ.ย.61
    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 16 กรกฎาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 4/2561  โดยมีประธานคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศทุกคณะ เข้าร่วม โดยที่ประชุมได้รับทราบผลการพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างยุทธศาสตร์ชาติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2561 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายตามขั้นตอนของกฎหมายว่าด้วยการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ
    ที่ประชุมยังรับทราบผลการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐ ภายใต้ร่างยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศเบื้องต้น ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ประมวลผลผ่านระบบ eMENSCR พบว่ากระทรวงและเทียบเท่า จำนวน 19 หน่วยงาน รัฐสภา และหน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่กระทรวง จำนวน 5 หน่วยงาน ได้ส่งแผนงานและโครงการรวมทั้งสิ้น 6,456  แผนงาน/โครงการ โดยเป็นแผนงานหรือโครงการที่มีความสอดคล้องกับแผนการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ รวมทั้งสิ้น 3,211 แผนงาน/โครงการ 
    ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ภายใต้แนวคิด "สร้างไทยไปด้วยกัน" ภายใต้ 6 กลุ่ม เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน ได้แก่ 1.แก้จน สร้างความเข้มแข็งจากฐานราก 2.แก้เหลื่อมล้ำ รายได้ โอกาส อำนาจ สิทธิ และศักดิ์ศรี 3.แก้โกง ทำห้องให้สว่างและบังคับใช้กฎหมาย 4.ปฏิรูปราชการกระจายอำนาจ ลดขนาด 5.สร้างการมีส่วนร่วม และ 6.สร้างอนาคต ซึ่งภาครัฐได้ดำเนินการกิจกรรม โครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง 
    นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาเตรียมการจัดทำร่างแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้บรรลุ 20 เป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 6 ยุทธศาสตร์ ซึ่งจะจัดทำ 1 แผนแม่บทต่อยุทธศาสตร์ และมีกรอบระยะเวลาดำเนินการ 20 ปี โดยสามารถแบ่งช่วงระยะเวลาการพัฒนาตามแผนแม่บทเป็น 2 ช่วง  ช่วงละ 10 ปี โดยคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 6 คณะ ได้เสนอหัวข้อประเด็นสำคัญในการจัดทำแผนแม่บทแต่ละด้าน ได้แก่
    1.ด้านความมั่นคง ประกอบด้วย การรักษาความสงบภายในประเทศ การป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง การพัฒนาศักยภาพของประเทศให้พร้อมเผชิญภัยคุกคามที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ การบูรณาการความร่วมมือด้านความมั่นคงกับอาเซียนและนานาชาติ รวมถึงองค์กรภาครัฐและที่มิใช่ภาครัฐ และการพัฒนากลไกการบริหารจัดการความมั่นคงแบบองค์รวม 2.ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ประกอบด้วย การเกษตรสร้างมูลค่า อุตสาหกรรมและบริการ การท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนาเศรษฐกิจบนพื้นฐานผู้ประกอบการยุคใหม่
    3.ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ประกอบด้วย การปรับเปลี่ยนค่านิยมและวัฒนธรรม การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 การตระหนักถึงพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย การเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ และการเสริมสร้างศักยภาพการกีฬาในการสร้างคุณค่าทางสังคมและพัฒนาประเทศ
    4.ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ได้แก่ การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจฐานราก  การปฏิรูประบบภาษีและการคุ้มครองผู้บริโภค การสร้างหลักประกันสังคม (รวมประเด็นแรงงาน การศึกษา และสาธารณสุข) เรื่องกระบวนการยุติธรรม การกระจายศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจ  สังคม และเทคโนโลยี การเสริมสร้างพลังทางสังคม และการเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนท้องถิ่นในการพัฒนา การพึ่งพาตนและจัดการตนเอง
    5.ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมสีเขียว สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมเศรษฐกิจภาคทะเล สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ พัฒนาพื้นที่เมือง ชนบท เกษตรกรรม และอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ มุ่งเน้นความเป็นเมืองที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง พัฒนาความมั่นคงทางน้ำ พลังงาน และเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยกระดับกระบวนทัศน์เพื่อกำหนดอนาคตประเทศ 
    และ 6.ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ ได้แก่ บุคลากรภาครัฐ ระบบ/กลไก และโครงสร้างภาครัฐ การกระจายอำนาจ กระบวนการยุติธรรม กฎหมาย และการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ
    ที่ประชุมได้เน้นย้ำว่าการจัดทำแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ จะเป็นส่วนสำคัญในการถ่ายทอดเป้าหมาย และแนวทางของยุทธศาสตร์ชาติลงสู่แผนระดับที่ 2 และแผนงาน โครงการในระดับต่าง ๆ ต่อไป โดยต้องคำนึงถึงประเด็นสำคัญ ได้แก่ แผนงานหรือโครงการที่จะบรรจุไว้ในแผนแม่บท ต้องมีความสำคัญและต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ต้องกำหนดรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง หรือหน่วยงานรับผิดชอบหลักที่จะเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการแต่ละกิจกรรม รวมทั้งต้องคำนึงถึงขีดความสามารถทางการเงินและการคลังของประเทศในการดำเนินการตามแผนแม่บท และพิจารณาภาพรวมการจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้แผนแม่บทสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบกรอบการจัดทำแผนแม่บท และการกำหนด Program Structure เพื่อแสดงความเชื่อมโยงของยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นยุทธศาสตร์ แผนงานในระดับรองต่างๆ อาทิ แผนการปฏิรูปประเทศ และหน่วยงานรับผิดชอบ รวมทั้งที่ประชุมได้เห็นชอบการมอบหมายให้ข้าราชการกลุ่ม  ป.ย.ป.ของแต่ละกระทรวงเข้าร่วมการจัดทำแผนแม่บทกับคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ สศช. โดยจะดำเนินการร่วมกัน ซึ่งจะเริ่มดำเนินการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Kick-off) ในวันที่ 6-8 สิงหาคม 2561 และดำเนินการเตรียมการจัดทำแผนแม่บทในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2561 และคาดว่าจะนำเสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะรัฐมนตรีได้ในช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน 2561 ตามลำดับต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"