มีหนี้ต้องภูมิใจ! ตู่แนะทยอยคืน ครูครวญยากจน


เพิ่มเพื่อน    

    "บิ๊กตู่" บอกครูเป็นหนี้ก็ต้องทยอยใช้ ลั่นรัฐบาลพร้อมดูแลอยู่แล้ว "วิษณุ" ย้ำเบี้ยวจ่ายเสี่ยงถูกฟ้องล้มละลาย ขาดคุณสมบัติความเป็นครู "คุรุสภา" ชี้กลุ่มครูประกาศปฏิญญายังไม่ผิดจรรยาบรรณ แค่ไม่เหมาะสม เชื่อมีไม่ถึง 1% จะเบี้ยวหนี้ ขอความเห็นใจครูส่วนใหญ่ฐานะไม่ค่อยดี
    เมื่อวันที่ 18 ก.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มครูประกาศปฏิญญามหาสารคาม ขอยุติการชำระหนี้กับธนาคารออมสิน ว่า  การเป็นหนี้เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ มีเกียรติ และหนี้ก็ไม่ได้มีใครเอาไปใช้ ตัวเองเอาไปใช้เอง จะมาบอกว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้ 
    "ขอให้ทยอยใช้หนี้ไป รัฐบาลก็ดูแลอยู่แล้ว ทุกคนเคยมีหนี้ทั้งสิ้น ผมเองก็เคยมี ทุกคนไม่เท่ากันอยู่แล้ว แต่ถ้าเราพัฒนาตัวเองก็จะสามารถชนะอุปสรรคต่างๆ ไปได้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯ พูดชัดเจนแล้วว่าจะยกเลิกหนี้ไม่ได้ ถ้าไม่จ่ายหนี้อาจถูกฟ้องล้มละลาย ขาดคุณสมบัติความเป็นครู 
    "ทราบว่าทางกลุ่มครูออกมาชี้แจงแล้วว่าไม่ใช่จะไม่จ่ายหนี้ แต่ขอชะลอหนี้ แต่ยืนยันถึงอย่างไรต้องจ่ายหนี้"  รองนายกฯ กล่าว
    ด้านนายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า การที่ครูจะเบี้ยวหนี้คงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว หรือครูอาจจะมองว่าเกษตรกรก็ขอพักชำระหนี้ได้ จึงออกมาเรียกร้องบ้าง แต่โดยความเป็นจริงแล้ว การที่ครูเป็นหนี้มีการทำสัญญาข้อตกลงกันระหว่างผู้กู้กับทางธนาคารออมสิน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับหน่วยงานใด และในการกู้แต่ละโครงการแต่ละครั้ง ก็มีข้อตกลง ดังนั้น ผู้กู้จะทราบดีว่าตนเองกู้เงินเท่านี้แล้วจะต้องจ่ายดอกเบี้ยวจำนวนเท่าใด ดังนั้นการที่ครูจะเบี้ยวหนี้จึงทำไม่ได้ในทางกฎหมาย ยกเว้นคนที่ตั้งใจจะเบี้ยวอยู่แล้ว เพราะในจำนวนครูที่กู้ในแสนคน ก็มีคนที่ตั้งใจเบี้ยวหนี้ แต่มีเพียงไม่กี่พันคน ซึ่งอยู่ในข่ายที่จะต้องดำเนินการทางกฎหมายอยู่แล้ว
    "ก่อนที่กลุ่มนี้จะออกมาประกาศปฏิญญามหาสารคาม ก็มีครูบางส่วนเบี้ยวหนี้อยู่แล้ว ดังนั้นหากครูเบี้ยวหนี้จริง ก็จะเข้าข่ายผิดจรรยาบรรณผู้ประกอบวิชาชีพครู คือ 1.ถือว่าเป็นการไม่มีวินัยในตนเอง ใช้เงินเกินที่หา ไม่จ่ายหนี้ตามเวลา 2.ไม่รับผิดชอบต่อวิชาชีพและไม่เป็นสมาชิกที่ดีต่อองค์กร ทำให้วิชาชีพและองค์กรเสื่อมเสีย 3.ไม่ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีทั้งกาย วาจา และจิตใจ 4.ไม่ยึดมั่นในระบอบคุณธรรม สร้างความสามัคคีในหมู่คณะ และ 5.ไม่รักษาผลประโยชน์ส่วนรวม" นายสมศักดิ์กล่าว
    ปฏิบัติหน้าที่เลขาฯ คุรุสภากล่าวว่า กลุ่มวิชาชีพครูที่ออกมาประกาศปฏิญญายังไม่เข้าข่ายผิดจรรยาบรรณ เพราะยังไม่มีการเบี้ยวหนี้ แต่อาจจะดูไม่เหมาะสมทางวิชาชีพครู และต้องดูด้วยว่าคนที่ออกมาประกาศนั้นยังเป็นครูอยู่หรือเปล่า หากยังเป็นครูอยู่และมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ส่วนคนที่เกษียณแล้ว หรือคนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ทางคุรุสภาก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับทางธนาคารออมสิน หรือเจ้าหนี้ที่จะไปดำเนินการกล่าวหา 
    "ครูบางส่วนมีหนี้ก้อนใหญ่ ซึ่งเป็นความผิดพลาดมาตั้งแต่แรก และครูเมื่อมีที่กู้ได้จำนวนมาก ก็ไม่คำนึงถึงความสามารถในการจ่ายคืน ซึ่งทางต้นสังกัดควรจะมีมาตรการสำหรับครูที่จะเป็นหนี้ ซึ่งครูควรจะมีวินัยในการใช้ชีวิต เพราะถ้าหากไม่มีวินัยในการใช้ชีวิตก็จะมีปัญหา อย่างไรก็ตาม มีจำนวนที่น้อยมากไม่ถึง 1% แต่บางส่วนก็น่าเห็นใจ เพราะคนที่มาเป็นครูส่วนใหญ่ก็มาจากครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะที่ดีนัก และต้องคอยจุนเจือครอบครัว และมีภาษีสังคมมาก ซึ่งคนที่ไม่ได้เป็นครูก็อาจจะไม่เข้าใจปัญหา” ปฏิบัติหน้าที่เลขาฯ คุรุสภากล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"