นายกฯ เข้าเฝ้าพระราชาธิบดีจิกมี สานสัมพันธ์ ไทย-ภูฏาน


เพิ่มเพื่อน    



20ก.ค.61-ผู้สื่อข่าวรายงาน ภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 19 – 20 ก.ค. 61  โดยเมื่อวันที่ 19 ก.ค. เวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าเวลาประเทศไทย 1 ชั่วโมง ที่สำนักนายกรัฐมนตรี ราชอาณาจักรภูฏาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบหารือกับ ดาโช เชริง โตบเกย์ นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรภูฏาน  ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีภูฏานได้แสดงความชื่นชมต่อ ความพยายาม ความร่วมมือร่วมใจ และความสำเร็จในการช่วยเหลือเยาวชน 13 รายที่ติดในถ้ำหลวง นับว่าเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ ที่ไทยสามารถเอาชนะอุปสรรคทั้งปวงจนช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย
 
พล.ท.วีรชน กล่าวว่า ในการหารือนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีภูฏานต่างยินดีที่ทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างกัน ซึ่งใกล้ชิดทั้งในระดับราชวงศ์ที่มีการเยือนอย่างต่อเนื่อง  ในระดับรัฐบาลที่มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด มีโครงการที่ประสบความสำเร็จ และเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การพัฒนาประเทศระหว่างกัน และในระดับประชาชน ที่ยึดถือในสถาบันพระมหากษัตริย์เหมือนกันโดยเฉพาะความเชื่อมโยงทางพุทธศาสนา สังคม และวัฒนธรรม และเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของทั้งสองประเทศจะพัฒนาไปอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เสนอให้จัดำโรดแมปโครงการความร่วมมือต่างๆ เพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้ และเกิดความต่อเนื่อง รวมทั้งศึกษาศักยภาพที่จะร่วมมือกันทั้งรัฐบาล ภาคเอกชนและประชาชน

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า โอกาสนี้ ผู้นำทั้งสองยังได้หยิบยกประเด็นเกี่ยวกับความร่วมมือทางวิชาการที่มีร่วมกัน อาทิ การเกษตร สาธารณสุข การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยนายกรัฐมนตรีภูฏานเน้นย้ำให้ทั้งสองประเทศสานต่อความร่วมมือเหล่านี้กันต่อไป พร้อมขอบคุณประเทศไทยที่ให้การสนับสนุนภูฏาน โดยเฉพาะความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนา ผ่านโครงการต่าง ๆ ด้วยดีตลอดมา สำหรับความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการใช้กลไกการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย - ภูฏาน (JTC) เพื่อหารือแนวทางในการขยายมูลค่าการค้าระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งภูฏานมีศักยภาพในสาขาการท่องเที่ยวและการก่อสร้าง และยินดีที่ปัจจุบันมีภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนในภูฏานเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและการก่อสร้าง ซึ่งภูฏานยินดีช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกให้นักธุรกิจไทย รวมทั้งการเชื่อมโยงทางการบิน เพื่อส่งเสริมการไปมาหาสู่กันทั้งในเมืองหลัก และต่อไปยังเมืองรอง ต่อเนื่องไปถึงการผลักดันการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน ภายใต้แนวคิด “Two Kingdoms One Destination” ซึ่งจะช่วยให้เกิดการเชื่อมโยงทางด้านการท่องเที่ยวซึ่งกันและกัน โดยเห็นว่าการท่องเที่ยวจะช่วยกระชับความสัมพันธ์และสามารถสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศได้
 
พล.ท.วีรชน ระบุว่า นอกจากนี้ ในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 30 ปี ในปี 2562 รัฐบาลไทยยินดีสนับสนุนโครงการบริการทางการแพทย์เพื่อรักษา หู ตา จมูก และคอ รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ หู จมูก และคอ ในราชอาณาจักรภูฏาน เพื่อให้บริการรักษา การถ่ายทอดความรู้ เทคนิคและวิชาการ เพื่อพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์เฉพาะทาง รวมถึงความร่วมมือของคณะแพทย์ ไทย-ภูฏาน ในการรักษาผู้ป่วยด้วย

ต่อมา เวลา 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น  ที่ท้องพระโรง ชั้น 2 ป้อมปราการทาชิโช พระบาทสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรภูฎาน  และสมเด็จพระราชินีเจตชุน เพมา วังชุก พระราชทานวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และภริยาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทภายหลังเข้าเฝ้าฯ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ที่พระราชทานวโรกาสให้เข้าเฝ้าฯ ในโอกาสเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ในนามของประชาชนชาวไทยซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณทรงเป็นพระประมุขต่างชาติที่พระองค์เสด็จฯ เยือนไทย เพื่อถวายราชสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และทรงเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา  

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ของไทยและภูฏานว่าเป็นประเทศที่ใกล้ชิดของไทย ทั้งในด้านพระพุทธศาสนา สังคม และวัฒนธรรม โดยเฉพาะความจงรักภักดีของประชาชนทั้งสองประเทศมีต่อสถาบันพระมหากษัติย์  นายกรัฐมนตรียังได้กราบบังคมทูล แสดงความยินดีกับความก้าวหน้าของโครงการพัฒนาประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบชลประทานและการบริหารจัดการน้ำ สำหรับโครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบทางเกษตรชิมิปัง ในพระราชดำริสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี  เคเซอร์ นัมเกล วังชุก  และโครงการ OGOP ด้วย โอกาสนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน พระราชทานเลี้ยงอาหารกลางวัน แก่นายกรัฐมนตรีและคณะ ณ พระราชวังดาเชนโซลิง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"