อึ้ง!ครูแก้หนี้แค่4หมื่นราย 'ประยุทธ์'แนะปรับตัวเอง


เพิ่มเพื่อน    

       “ออมสิน” แจงไม่มีโขกดอกเบี้ยครูโครงการ ช.พ.ค. ยืนยันคิดอัตราต่ำเพียง 5-6% ต่อปี  พร้อมคลอดมาตรการช่วยเหลือต่อเนื่อง เปิดตัวเลขพบครูลุยเข้าโครงการปรับโครงสร้างหนี้แค่ 4 หมื่นราย  จากผู้กู้ทั้งโครงการ 4.33 แสนราย "บิ๊กตู่" แนะแก้หนี้ที่ตัวเอง 
       นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงกรณีเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูรวมตัวกันประมาณ 100 คน เรียกร้องให้รัฐบาลและธนาคารออมสินพักหนี้โครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2561 เป็นต้นไป พร้อมชักชวนลูกหนี้ ช.พ.ค.ทั่วประเทศ ร่วมกันยุติการชำระหนี้กับธนาคารออมสิน ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2561 ว่า ปัจจุบันธนาคารออมสินได้คิดอัตราดอกเบี้ยโครงการ ช.พ.ค.ต่ำมาก เพียง 5-6% ต่อปี และผ่อนชำระนานสูงสุดถึง 30 ปี ขณะที่สินเชื่อบุคคลทั่วไปในระบบสถาบันการเงินที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน คิดอัตราดอกเบี้ย 15-28% ต่อปี
       ทั้งนี้ การที่ออมสินคิดอัตราดอกเบี้ยได้ถูก เนื่องจากได้ร่วมมือกับ สกสค. ในการหักเงินเดือนชำระหนี้ จึงมีความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ต่ำ และที่ผ่านมาธนาคารได้จัดเงินสนับสนุนในอัตรา 0.5-1% ต่อปี ไปดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยให้กับครูที่มีวินัยทางการเงิน ผ่อนชำระปกติ ซึ่งครูได้รับการลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นดอกเบี้ยที่จ่ายลดลงปีละ 5,000 บาท-10,000 บาท ต่อเงินกู้ 1 ล้านบาทต่อปี โดยตลอดระยะเวลาที่ดำเนินโครงการ ช.พ.ค. มากกว่า 12 ปี มีครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เข้าร่วมโครงการกว่า 7 แสนราย คิดเป็นเงินกู้รวมกว่า 7 แสนล้านบาท
    “ตลอดเวลาการดำเนินโครงการธนาคารออมสินได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ครูอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างหนี้สำหรับผู้ที่มีปัญหาในการผ่อนชำระหรือชำระไม่ไหว ด้วยการส่งหนังสือเชิญชวนเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้เงื่อนไขพิเศษ 3 แนวทาง คือ 1.กรณีรายได้คงเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายมากกว่า 30% ของรายได้ สามารถพักชำระเงินต้นไม่เกิน 3 ปี และชำระดอกเบี้ยปกติ 100% 2.กรณีรายได้คงเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 15-30% ของรายได้ สามารถพักชำระเงินต้นไม่เกิน 3 ปี และชำระดอกเบี้ยปกติไม่น้อยกว่า 50% และ 3.กรณีรายได้คงเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายน้อยกว่า 15% ของรายได้ สามารถพักชำระเงินต้นไม่เกิน 3 ปี ชำระดอกเบี้ยปกติไม่น้อยกว่า 25% โดยปัจจุบันมีผู้กู้เข้ามาปรับโครงสร้างหนี้แล้วกว่า 4 หมื่นราย” นายชาติชายกล่าว
    ทั้งนี้ ปัจจุบันยอดสินเชื่อของโครงการ ช.พ.ค. มีผู้กู้รวม 4.33 แสนราย คิดเป็นวงเงินกู้ 4.06 แสนล้านบาท และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ 4.07 พันล้านบาท คิดเป็น 0.94% ของลูกหนี้ทั้งหมดเท่านั้น
    อย่างไรก็ดี ธนาคารออมสินยืนยันว่า อยากให้ครูที่มีปัญหาการผ่อนชำระไม่ว่าจะอยู่ในขั้นตอนใด ขอให้เข้ามาแจ้งความประสงค์ เพราะธนาคารมีมาตรการในการให้ความช่วยเหลือครูที่ยืดหยุ่นผ่อนคลาย ด้วยการให้ครูมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีวินัยทางการเงิน เพราะครูต้องทำหน้าที่ให้ความรู้ สร้างคนให้เป็นคนดีมีวินัยให้แก่ประเทศชาติต่อไป
    ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ว่าหนี้ในกลุ่มครูที่เป็นบุคลากรที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ และการปฏิรูปการศึกษา เพื่อจะลดความกังวลและภาระในการดำรงชีวิต ที่สามารถทำหน้าที่การเป็นแม่พิมพ์ที่ดีของเด็กๆ ได้เต็มศักยภาพที่ผ่านมา รัฐบาลก็ได้พยายามใช้มาตรการต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระให้กับแม่พิมพ์ของชาติที่มีหนี้มาอย่างต่อเนื่อง
    "การแก้ปัญหาการก่อหนี้เกินตัวที่ต้นเหตุ จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะไม่ส่งผลเสียอื่นๆ ลุกลามเป็นลูกโซ่ ก็คือการพยายามไม่เข้าสู่วงจรการเป็นหนี้ โดยต้องเริ่มจากตัวเราทุกคนเอง" นายกฯ กล่าว
    นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้หารือกับทางธนาคารออมสิน พบว่า ทางธนาคารไม่ได้มีเจตนาที่จะไปไล่บี้ ฟ้องร้องครู เนื่องจากกลุ่มครูที่เป็นหนี้ค้างชำระไม่เข้าร่วมมาตรการผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้หรือไม่ติดต่อชำระหนี้กับธนาคารนั้นมีเพียงแค่กว่า 4,000 คนเท่านั้น ไม่ถึงร้อยละ 1 ของกลุ่มครูทั้งหมด อีกทั้งทางธนาคารออมสินยังได้ชี้แจงว่า การที่ต้องเรียกคนกลุ่มนี้มาเป็นการดำเนินการตามกฎหมายเท่านั้น และจุดประสงค์หลัก คือต้องการให้ครูกลุ่มนี้เข้ามาปรับโครงสร้างหนี้เท่านั้น
    ที่ห้องประชุมสภา ชั้น 3 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม นายวุฒิพล ฉัตรจรัสกูล รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร  มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม พร้อมคณะ แถลงกรณีมีการกล่าวปฏิญญามหาสารคามของเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยใช้ห้องประชุมเธียเตอร์  ของมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามว่า มหาวิทยาลัยได้รับหนังสือขอใช้ห้องประชุมเธียเตอร์  อาคาร 34 เพื่อจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ยุทธศาสตร์กู้วิกฤตการศึกษาไทย จึงได้เซ็นอนุมัติเพื่อให้ความอนุเคราะห์โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ถือเป็นการให้บริการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับครู 
    "เราเป็นมหาวิทยาลัยที่ให้ความอนุเคราะห์ให้บริการแก่ชุมชน จึงให้ความอนุเคราะห์สถานที่ และโดยพื้นฐานของมหาวิทยาลัย ก็เป็นแหล่งผลิตครูมาโดยตลอด ตรงนี้อาจมีประชาชนส่วนหนึ่งไม่เข้าใจ คิดว่ามหาวิทยาลัยเป็นผู้เข้าร่วมหรือมีส่วนด้วย ขอย้ำมหาวิทยาลัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับการประกาศปฏิญญามหาสารคามในครั้งนี้" นายวุฒิพลกล่าว
       ด้านนายอวยชัย วะทา ประธานเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกตกใจที่ธนาคารออมสินเร่งทวงหนี้ครู เพราะเป็นธรรมชาติของผู้มีอำนาจ แต่วิธีการนี้จะทำให้เกิดผลร้ายมากกว่าผลดี เกิดปฏิกิริยาสะท้อนกลับ ที่ผ่านมาการเรียกร้องของครูก็ไม่ได้หมายถึงจะเบี้ยวหนี้ แต่ต้องการพักชำระหนี้ชั่วคราว เพราะได้รับผลกระทบจากการคิดดอกเบี้ยไม่เป็นธรรม อยากให้มามองความยากลำบาก
    อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็บอกว่าอย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ให้หาทางแก้ไข แต่เวลานี้ธนาคารออมสินและ สกสค.กำลังจะทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะแทนที่จะหาทางร่วมกัน กลับมาตั้งป้อมใส่กัน
    ดร.เสรี วงษ์มณฑา โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า  ว่า "พวกคุณกู้เป็น personal loan ไม่ต้องมีบ้านค้ำ และไม่มีกำหนดอายุ ได้พักหนี้ 3 ปี ดอกเบี้ย 6.5% ก็ได้รับสิทธิพิเศษแล้ว รู้บ้างไหม คนซื้อบ้านเขาผ่อนทันที ดอกเบี้ย 2-3% เป็นเวลา 2-3 ปี ต่อจากนั้นดอกเบี้ย 7-8% เขาก็เข้าใจ จ่ายไม่ไหวก็เจรจา ไม่ออกมาประกาศยุติการใช้หนี้หรือออกมากล่าวหาว่าสัญญาไม่ยุติธรรมหรือไม่มีจริยธรรม ไม่มีใครเขาเรียกให้รัฐบาลช่วย การปรับโครงสร้างหนี้ต้องเป็นเรื่องของคู่สัญญา จะให้รัฐบาลเข้ามาช่วยได้อย่างไร อยากได้ดอกเบี้ยแบบเกษตรกรได้อย่างไร เกษตรกรเขาไม่มีเงินเดือน และเขาต้องเผชิญกับสภาพดินฟ้าอากาศ บางช่วงบางปีไม่มีรายได้ แต่พวกคุณมีรายได้ทุกเดือน ไม่ว่าฝนตกหรือฝนแล้ง จะเป็นครูสอนคน ควรมีตรรกะที่ดีกว่านี้ ที่สำคัญเป็นหนี้ต้องจ่าย".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"