อภ.ลุยซื้อ"ขมิ้นชัน" 5กลุ่มเกษตรกรอินทรีย์ เผยต่างประเทศสนใจต้องการมาก 


เพิ่มเพื่อน    

 

อภ.ลุยซื้อ"ขมิ้นชัน"ชั้นดี
                                 5กลุ่มเกษตรกรอินทรีย์
                                  ต่างชาติต้องการมาก 
        
 อภ.ทำสัญญาซื้อขาย "ขมิ้นชัน" กับเกษตรกร5 กลุ่มจาก 3 จังหวัด ลพบุรี ตาก และยะลา รวมกว่า 45 ตันต่อปี สร้างรายได้กว่า 5.4 ล้านบาทต่อปีให้แก่เกษตรกร เผยต่างประเทศสนใจ มีความต้องการซื้ออีกมาก แต่ไทยต้องปรับปรุงให้ได้มาตรฐานสูง

26 ก.ค.61- ที่โรงแรมลพบุรีอินน์ รีสอร์ท จ.ลพบุรี  มีการลงนามสัญญาจะซื้อขายขมิ้นชันคุณภาพกับกลุ่มเกษตรกร 3 จังหวัด 3 ภาค คือ ลพบุรี ตาก และยะลา รวม 5 กลุ่มเกษตรกร ตามโครงการส่งเสริมการปลูกและการจัดหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพเพื่อผลิตสารสกัดขมิ้นชัน โดยมีนพ.โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) พร้อมด้วย นายวีระชัย นาคมาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานการลงนาม

นพ.โสภณ กล่าวว่า จากการศึกษาวิจัยทางคลินิกพบว่า "สารสกัดขมิ้นชันแคปซูล" สามารถใช้ทดแทนยาแผนปัจจุบันได้ โดยใช้บรรเทาอาการปวดในโรคข้อเข้าเสื่อม ของผู้ป่วยที่มีอาการปวดข้อ ข้อฝืดได้ไม่ต่างจากยาต้านการอักเสบไอบูโพรเฟน ไม่มีผลข้างเคียงกับระบบทางเดินอาหาร และช่วยลดอาการเส้นเลือดแข็งตัวในผู้ป่วยเบาหวานโดยผลิตภัณฑ์สารสกัดขมิ้นชันแคปซูลของ อภ. ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยาพัฒนาจากสมุนไพรแผนปัจจุบันรายแรกของประเทศ และรับรางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2561 เพื่อส่งเสริมให้คนไทยเข้าถึงผลิตภัณฑ์สารสกัดขมิ้นชันแคปซูลและขยายตลาดสู่ต่างประเทศ อภ.จึงลงนามสัญญาจะซื้อขายขมิ้นชันคุณภาพที่มีสารสำคัญทางยา "เคอร์คูมินอยด์" สูงกว่าร้อยละ 9 สำหรับนำไปผลิตเป็นสารสกัดขมิ้นชันและผลิตภัณฑ์ต่างๆโดยในเบื้องต้น อภ.ต้องการใช้ขมิ้นชันตากแห้งปีละ 90 ตัน


นพ.โสภณ กล่าวว่า ซึ่งการลงนามในครั้งนี้ เกษตรกร 5 กลุ่ม จะขายขมิ้นชันตากแห้งให้แก่ อภ.ปีละประมาณ 45 ตัน ราคาตันละ 1.2 แสนบาท หรือกิโลกรัมละ 120 บาท จะทำให้เกษตรกรทั้ง 5 กลุ่มมีรายได้ต่อปีรวมราว 5.4 ล้านบาท ที่เหลืออีก 45 ตัน อภ.จะจัดซื้อตามปกติจากแหล่งปลูกขมิ้นชันคุณภาพทั่วประเทศ นอกจากนี้จะมีการให้ความรู้เกษตรกรทั้ง 3 จังหวัด เรื่องมาตรฐานการปลูกและการแปรรูปสมุนไพรและมอบพันธุ์ขมิ้นชัน ซึ่งพัฒนาโดยอาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่มีสารสำคัญสูง ซคาดว่าจะได้ในช่วงปี 2562 และจะเฝ้าการติดตามพื้นที่การปลูกและจัดซื้อวัตถุดิบขมิ้นชันที่มีคุณภาพ และจะขยายพื้นที่ส่งเสริมการปลูกขมิ้นชันและแปรรูปสมุนไพร ต่อไป


นพ.โสภณ กล่าวว่า หากเกษตรกรมีการรวมกลุ่มปลูกขมิ้นชันที่มีคุณภาพตามที่ อภ.กำหนด ก็ยินดีจะรับซื้อตามนโยบายของรัฐบาลในราคาที่เหมาะสม เพื่อกระจายรายได้ไปสู่เกษตรกรพื้นที่อื่นๆ อีก 5.4 ล้านบาท เป็นการสนับสนุนให้เกิดความมั่นคงทางยาโดยการปลูกสมุนไพร อย่างไรก็ตามในต่างประเทศมีความสนใจในตัวขมิ้นชันอย่างมาก บางแห่งนำไปเป็นชาดื่ม เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป หรืออย่างเยอรมนีก็สนใจที่จะนำไปจำหน่าย แต่เราต้องผลิตให้ได้ตามเกณฑ์ ซึ่งอนาคตของขมิ้นชันยังไปได้ไกล แต่ต้องวิจัยให้มั่นใจว่าดีจริงๆ ซึ่งเยอรมนีนั้น ยาสมุนไพรจะแพงกว่ายาเคมี เพราะมั่นใจว่าปลอดภัยกว่า แต่คนไทยเชื่อยาเคมีมากกว่าสมุนไพร กลัวอันตรายตั้งแต่การปลูก การเก็บเกี่ยวปนเปื้อนเชื้อราหรือไม่ ซึ่งการทำสัญญาในครั้งนี้ ก็เพื่อให้เกิดการปลูกที่มีคุณภาพ คนใช้ยามั่นใจ โดยเริ่มตั้งแต่ต้นทางโดยอนาคตจะมียาตัวอื่นๆ อีก เช่น กัญชา ที่ตอนนี้คนไทยอยากใช้มากแ ต่ยังติดเรื่องกฎหมายอยู่ ซึ่ง อภ.ก็ได้รับมอบหมายให้นำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ให้ได้


นายวีระชัย กล่าวว่า กลุ่มเกษตรกรที่จะทำสัญญาในวันนี้ ผ่านการคัดเลือกว่าเป็นขมิ้นชันที่มีคุณภาพ คือ มีสารสำคัญที่หายาก เคอร์คูมินอยด์สูงกว่าร้อยละ 9  ทั้งยังมีการปลูกในรูปแบบเกษตรอินทรีย์หรือออแกนิก  ในส่วนของลพบุรีมีผู้ทำสัญญาจาก 3 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.พัฒนานิคม แะ อ.ลำสนธิ โดยพื้นที่ อ.เมือง คือ ต.นิคมสร้างตนเองหรือไร่ทหารสานประชา ซึ่งได้รับการรับรองแล้วว่า เป็นหมู่บ้านออร์แกนิกวิลเลจ 1 ใน 8 แห่งของประเทศไทย และที่ อ.ลำสนธิ มีภูมิประเทศล้อมรอบด้วยขุนเขา จึงเหมาะที่จะพัฒนาเป็นเมืองเกษตรอินทรีย์หรือออร์แกนิกซิตี้ต่อไป ส่วนที่ อ.พัฒนานิคมอยู่ระหว่างการขับเคลื่อนให้เป็นพื้นที่ต้นแบบสมุนไพรเพื่อชุมชนหรือ เฮอร์เบิลคอมมูนิตี เชื่อว่าทั้ง 3 อำเภอ รวมถึงพื้นที่ยะลา และตาก มีศักยภาพที่จะเป้นแหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ส่งผลให้ยสของประเทศไทยมีคุณภาพมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้นต่อไป.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"