ระหว่าง "การบ้าน" กับ "การเมือง"


เพิ่มเพื่อน    

      ขณะเขียนต้นฉบับชิ้นนี้...ก็ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์ น้ำล้นเขื่อน แถวๆ จังหวัดเพชรบุรีจะไปถึงไหน ต่อถึงไหนกันบ้างแล้ว เห็นว่าช่วงเที่ยงคืนของวันจันทร์ (6 ส.ค.) น้ำที่เต็มความจุ เขื่อนแก่งกระจาน ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ หนีไม่พ้นต้องไหลล้นช่องทางระบายน้ำ หรือ สปิลเวย์ ลงมายังเขื่อนเพชรบุรี และอาจลามปามไปถึงตัวเมือง ตัวจังหวัด กันจนได้...

                                                              ---------------------------------------------

      ไม่รู้ว่าพรรคพวก อย่างคุณน้อง นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว อดีตมือสารคดีระดับแนวหน้าของเมืองไทย ที่โยกย้ายไปปักหลัก ปักฐาน อยู่แถวๆ นั้น ซึ่งแข้ง ขา ออกจะไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่ จะมีเรี่ยว มีแรง มีกำลังวังชาพอที่จะ ยกของขึ้นที่สูง ได้ทันการณ์ ทันท่วงที หรือไม่ ประการใด อ่านข่าว ฟังข่าว เลยอดห่วงๆ ขึ้นมาอย่างมิอาจปฏิเสธได้ แต่อันที่จริงแล้ว...ก็ห่วงกันไปทั่วทั้งหมดนั่นแหละทั่น สำหรับบรรดาเพื่อนพ้อง น้องพี่ พ่อ-แม่-ลุง-ป้า-น้า-อา ที่เป็นชาวไทยด้วยกันทั้งหลาย ซึ่งเห็นว่าอาจต้องเตรียมตัวรับมือกับภาวะน้ำท่วม น้ำล้น ปาเข้าไปเกือบ 20 จังหวัด...

                                                                ------------------------------------------------

      คือไม่ใช่แถบเพชรบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี แถวๆ ภาคกลางเท่านั้น แถบอีสานไล่มาตั้งแต่มุกดาหาร อุบลราชธานี สกลนคร นครพนม ไปจนถึงจังหวัดเลยโน่นเลย ตะวันออกตั้งแต่จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ฯลฯ ต่างก็เข้าข่ายต้องเตรียมบริหารร่างกาย ต้องเตรียม ยกของขึ้นที่สูง ไปด้วยกันทั้งสิ้น แม้แต่ปักษ์ใต้ ไล่มาตั้งแต่พังงา ภูเก็ต ตรัง สตูล คงต้องเกร็งเนื้อ เกร็งตัว ไม่ต่างไปจากกันซักเท่าไหร่ ต้องหาทางดูด ทางดึง หาทางดันน้ำ ให้ไปสู่ที่ชอบๆ มันถึงพอผ่อนคลาย บรรเทาเบาบาง ความอึดอัด ขัดข้องใจ ลงไปได้บ้าง ไม่ว่ามากหรือน้อยก็แล้วแต่สภาพ...

                                                                -------------------------------------------------

      ต่างไปจาก น้ำการเมือง ช่วงนี้...ที่ไม่ว่าจะไหลท่วม สปิลเวย์ ไปซักเท่าไหร่ กลับก่อให้เกิดความคึกคัก สดใส ร่าเริง ในหมู่นักการเมืองและพรรคการเมืองตามสมควร เรียกว่า...ออกอาการ ฮ้าไฮ้...เจี๊ยบๆ กันไปเป็นแถบๆ ที่หนักไปทาง ดูด ก็ยังคงมุ่งมั่น ตั้งหน้าตั้งตา ดูดกันต่อไป อย่างไม่คิดลด-ละ-เลิก ที่หนักไปทาง ดึง ก็ยังกะจะดึงให้ แลนด์สไลด์ ให้จงได้ ส่วนที่ออกไปทาง ดัน ก็เริ่มดันมา-ดันไปกันมั่งแล้ว แต่ไม่ว่าจะดูดยังไง ดึงยังไง หรือดันยังไง สุดท้าย...ก็คงเหลืออยู่แค่ 2 ทางเท่านั้นเอง นั่นก็คือทาง เอาบิ๊กตู่ หรือ ไม่เอาบิ๊กตู่ นั่นแล...

                                                                 --------------------------------------------------

      ส่วนตัว บิ๊กตู่ เอง...จะเอาใคร-ไม่เอาใคร??? อันนี้...คงต้อง ลับ-ลวง-ครางง์ง์ง์ กันไปอีกซักพักใหญ่ๆ ตามสไตล์ มวยชั้นเชิง ที่หนักไปทาง บ็อกเซอร์ ไม่ใช่ มวยบุก แบบ ไฟเตอร์ คือต้องเก็งจังหวะ ฉากโน่น ฉากนี่ เด้งเชือก ตัดเวที เต้นย็อกๆ แย็กๆ ไปจนกว่าจะใกล้ครบยกนั่นแหละ ถึงจะพอรู้ๆ ว่าเอาใคร-ไม่เอาใคร หรือจนกว่าจะรู้ๆ ว่าคณะกรรมการรวบรวมคะแนนไปแล้วถึงขั้นไหน ดังนั้น...ใครก็ตามที่อยากให้มวยอย่าง บิ๊กตู่ ออกหมัด-เท้า-เข่า-ศอก ไปตามที่ตัวเองปรารถนาและต้องการ เท่าที่ผ่านมาสี่ซ้า-ห้าปี ส่วนใหญ่...ก็มักเสียงแหบ เสียงแห้ง กันไปหมดแล้ว จนหลายต่อหลายรายต้องแปลงสภาพจาก กองหนุน เป็น กองเกิน กันไปเป็นแถบๆ...

                                                                 ----------------------------------------------------

      แต่จะไปโทษ บิ๊กตู่ โทษ นักมวย เพียงอย่างเดียวก็คงมิได้ เพราะนี่คือ สไตล์ ที่ไม่ว่าต่อยสวย-ไม่สวย มันซ์ซ์ซ์-ไม่มันซ์ซ์ซ์ ประทับใจ-ไม่ประทับใจก็ตามที แต่การอยู่รอดปลอดภัยมาในระดับ 4 ปี 5 ปีจนได้ อันนี้...ต้องเรียกว่า...ถึงไม่ น็อก แต่ย่อมต้องถือว่า ชนะคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์ อยู่แล้วแน่ๆ แต่ก็นั่นแหละ...เมื่อช่วงจังหวะหมด โรดแมป ลงไปแล้ว ถึงตอนที่จะต้อง โรดหมับ ต่อไปนี่สิ จากนี้ไป...ควรจะต้อง บ็อกเซอร์ หรือ ไฟเตอร์ ควรจะเต้นย็อกๆ แย็กๆ ต่อไปเรื่อยๆ หรือจะต้องแหวกการ์ด แหวกวงใน เข้าไปอัปเปอร์คัตซ้าย อัปเปอร์คัตขวา ให้คู่ต่อสู้ล้มลงตรงกลางเวทีให้จงได้ บรรดาพรรคการเมืองและนักการเมืองทั้งหลาย ย่อมมีสิทธิ์ส่งเสียงโห่ เสียงเชียร์ กันไปตามสภาพ...

                                                                  ---------------------------------------------------

      แต่เท่าที่ดูจากนักการเมืองและพรรคการเมืองจำนวนไม่น้อย...ค่อนข้างหนักไปทางสุภาพๆ กระมิดกระเมี้ยน กันพอสมควร ไม่ได้ออกอาการเหมือนคนเชียร์มวย มากมายซักเท่าไหร่ ไม่ได้บิดไป-บิดมา ไม่ได้คิดจะสั่งให้นักมวยออกแข้ง ออกขา เหมือนอย่าง ป๋าไฉน ผ่องสุภา หรือ คุณป้าปทุมวดี โสภาพรรณ อะไรประมาณนั้น แม้เป็นพวก เอาบิ๊กตู่ แบบแบเบอร์ แบบสุดลิ่มทิ่มกระดาน อย่างมาก...ก็ได้แต่ กระซิบแผ่วๆ ระหว่างช่วงให้น้ำ ช่วงพักยก ชนิดได้ยินบ้าง-ไม่ได้ยินบ้าง กันไปแทนที่ ส่วนพวก ไม่เอาบิ๊กตู่ ที่แม้จะแหกปากโห่แล้ว โห่เล่า แต่สุดท้าย...ก็ชักเสียงแหบ-เสียงแห้งลงไปทุกที ส่งผลให้บรรยากาศการเมืองนับจากนี้ หรือนับจากช่วง โรดหมับ เป็นต้นไป มันเลยมีแนวโน้มออกไปทางจืดชืด หรือออกอาการ กร่อย ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มต้นเอาเลยก็ว่าได้...

                                                                 ---------------------------------------------------------

      ด้วยเหตุนี้...แทนที่จะไปทุ่มเทความสนใจกับเรื่องการมง การเมือง ที่มันออกไปทางซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศเสียเหลือเกิน สู้หันมาให้ความสนใจกับเรื่องความทุกข์ ความเดือดร้อน ความเป็นอยู่ของพี่ๆ-น้องๆ ของชาวบ้าน ชาวช่อง น่าจะเข้าท่ากว่าเป็นไหนๆ เพราะด้วยความเป็นห่วง เป็นใย ระหว่างประชาชนด้วยกันเองนี่แหละ ซึ่งนับวันมันสามารถเชื่อมโยง บูรณาการ ได้อย่างเป็นน้ำ เป็นเนื้อ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อันนี้นี่เอง...ที่น่าจะทำให้บรรรดา นักมวย ไม่ว่าค่ายไหนต่อค่ายไหน สไตล์ไหนต่อสไตล์ไหนมีแต่ต้องออกแข้ง ออกขา เดินหน้าไปตามความปรารถนาต้องการของ แฟนมวยยุคใหม่ อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้...

                                                                 --------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Jawaharlal Nehru... We are little men serving great causes and because the cause is great something of that greatness falls on us also.- เราเป็นปุถุชนคนเล็กๆ ที่รับใช้ภารกิจอันยิ่งใหญ่ และด้วยเหตุเพราะภารกิจนั้นยิ่งใหญ่ ความใหญ่ของภารกิจย่อมตกมาถึงเราด้วยจนได้...

                                                                     ---------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"