8 ส.ค.61 - ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี ศาลนัดฟังพิพากษาคดีในชั้นตรวจคำฟ้องที่ 9 พนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.อ.พินิจ ตั้งสกุล ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีทุจริตเบิกจ่ายค่าตอบแทนล่วงหน้า (โอที) ของ กทท., ร.ต.ทรงธรรม จันทประสิทธิ์ รอง ผอ.กทท. รักษาการแทน กทท. และนายโกมล ศรีบางพลีน้อย ผอ.ท่าเรือกรุงเทพ กทท. เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 

กรณีที่จำเลยได้ตรวจสอบเรื่องความผิดปกติการเบิกจ่ายโอทีการท่าเรือฯ และมีการแถลงข่าวที่ได้สรุปว่ามีการร่วมกันสนับสนุนการเบิกจ่าย มูลค่าความเสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท โดยเสนอให้ ป.ป.ช.ไต่สวนตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งพนักงาน กทท.เห็นว่าได้รับความเสียหายจากการกระทำดังกล่าวจึงนำคดีมายื่นฟ้อง

โดยเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2561 ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ได้พิจารณาคำฟ้องและเอกสารประกอบคดีแล้ว มีคำสั่งให้ยกฟ้องในชั้นตรวจคำฟ้อง

วันนี้ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบตรวจสำนวนปรึกษาแล้ว คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์โจทก์ทั้ง 9 เพียงข้อเดียวว่า ศาลชั้นต้นตรวจฟ้องโจทก์แล้วเห็นว่าคดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้องชอบหรือไม่ว่า ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ต้องผู้กระทำผิดมีเจตนาพิเศษ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดในคดีนี้คือโจทก์ทั้ง 9 เจตนาโดยทุจริต เมื่อการกระทำของจำเลยทั้ง 3 ตามโจทก์บรรยายฟ้องล้วนแต่เป็นการกระทำไปตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ไม่ปรากฎข้อเท็จจริงที่จะบ่งชี้ได้ว่าจำเลยทั้ง 3 จงใจหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริตแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติไว้ อีกทั้งการแถลงข่าวของดีเอสไอเกี่ยวกับการส่งสำนวนส่งสำนวนไปยัง ป.ป.ช.ก็ไม่มีข้อเท็จจริงในฟ้องว่า จำเลยทั้ง 3 มีส่วนร่วมแถลงข่าวดังกล่าวด้วย เมื่อการกระทำของจำเลยทั้ง 3 ตามที่โจทก์ทั้ง 9 บรรยายฟ้องและเอกสารต่างๆ ศาลชั้นต้นเห็นว่าไม่เป็นความผิดแล้ว จึงชอบที่ศาลชั้นต้นจะวินิจฉัยพิพากษายกฟ้อง โดยไม่จำเป็นต้องไต่สวนมูลฟ้องก่อน ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตฯ เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์โจทก์ทั้ง 9 ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนยกฟ้อง