ทนาย-NGOฟ้องศาลคุ้มครองเดินมิตรภาพ-เรียก1แสนตำรวจละเมิดสิทธิ


เพิ่มเพื่อน    

เครือข่าย People Go ฟ้องศาลปกครองขอคุ้มครองชั่วคราวให้สั่งตำรวจรับรองสิทธิ์-ดูแลความปลอดภัยเดินมิตรภาพ พร้อมเรียกค่าเสียหาย 1 แสนบาท

22 ม.ค.60 - ที่สำนักงานศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ เครือข่าย People Go Network Forum นำโดยนายนิมิตร์ เทียนอุดม ตัวแทนเครือข่าย และคณะเดินเท้าในกิจกรรม “We Walk เดินมิตรภาพ” พร้อมด้วยนายสุรชัย ตรงงาม ทนายความมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม  เดินทางเข้ายื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.), ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-4 ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้มีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 4 ยุติการดำเนินการใดๆ ที่มีลักษณะเป็นการปิดกั้นการใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมของทางเครือข่าย ที่จะเดินเท้าจาก จ.ปทุมธานี ถึง จ.ขอนแก่น, สั่งให้ สตช. สั่งผู้ถูกฟ้องที่ 2-4 ดูแลการชุมนุมและอำนายความสะดวกให้ทางเครือข่ายจนกว่าจะสิ้นสุดการชุมนุม, เรียกร้องค่าเสียหายจากการถูกละเมิดสิทธิในการชุมนุม การถูกตรวจค้น ควบคุมตัวโดยพลการ เป็นเงิน 100,000 บาท และขอให้ศาลมีการไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้ตำรวจยุติการดำเนินการใดๆ ที่เป็นการขัดขวางการชุมนุม ขอให้รับรองสิทธิ์และดูแลความปลอดภัยตลอดการชุมนุม

นายสุรชัย กล่าวว่าทางเครือข่ายเริ่มเดินตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา แต่ถูกปิดกั้นและขัดขวางการใช้เสรีภาพการชุมนุม ทางเครือข่ายจึงดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง โดยผู้ถูกฟ้องทั้งหมดเป็นผู้ดูแลการชุมนุมในข้อหาละเมิดเสรีภาพการชุมนุมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย มีพฤติการณ์คือ ในวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา มีการปิดกั้นการเดินเท้าของเครือข่ายตามแผนการที่มีการแจ้งไว้ตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และมีพฤติการณ์กดดันข่มขู่ ทำให้ผู้ชุมนุมเกิดความหวาดกลัวในการใช้สิทธิเสรีภาพการชุมนุม ซึ่งเราเห็นว่าสิทธิเสรีภาพการชุมนุมเป็นเรื่องสำคัญในระบอบประชาธิปไตย การดำเนินการขัดขวางการชุมนุมที่ผ่านมา เป็นการละเมิดเสรีภาพการชุมนุมอย่างร้ายแรง 

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าการเดินครั้งนี้ไม่ได้เป็นการกระทำผิดตามคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 แต่อย่างใด  การที่ตำรวจมองว่าการขายเสื้อ i-law และการรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอให้ยกเลิกคำสั่งคสช.ที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพว่าเป็นการชุมนุมทางการเมืองนั้น ซึ่งตนเห็นว่าถ้าตีความอย่างนั้น การรวบรวมลายมือชื่อเพื่อเสนอกฎหมายตามรัฐธรรมนูญจะทำไม่ได้ การตีความอย่างนี้สะท้อนว่าคำสั่งคสช.ดังกล่าวมีปัญหาในการบังคับใช้

ด้านนายนิมิตร์ กล่าวว่า ก่อนการทำกิจกรรมครั้งนี้เราได้มีหนังสือยื่นแจ้งการชุมนุมแล้ว เป็นการดำเนินการตามกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.การชุมนุมฯ และมีการสื่อสารกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตลอด ซึ่งเราก็เชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่าเราอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้แล้ว มีสิทธิและเสรีภาพที่เราจะแสดงออก มีสิทธิที่เราจะเห็นด้วยหรือเห็นต่างกับรัฐบาล ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของประชาชนส่วนใหญ่ แต่มีการกักและบอกว่าจะผิดคำสั่ง คสช. ซึ่งเราไม่เข้าใจว่าก่อนการชุมนุมเราได้ยื่นเอกสารแจ้งการชุมนุมที่ชัดเจน และมีการชี้แจงรายละเอียดการทำกิจกรรมว่าจะมีการเดินไปที่ไหนอย่างไรแล้ว

นายนิมิตร์ กล่าวต่อไปว่า เรื่องนี้จึงเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพที่ประชาชนในการมีส่วนร่วมทางการเมือง การปิดกั้นการใช้เสรีภาพแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นเราจะต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงจึงต้องมาพึ่งอำนาจศาลปกครอง และหลังจากที่เริ่มเดินแล้ว มีการประสานงานกับทางวัดตามเส้นทางเดินเพื่อขอพักนอน ซึ่งตอนแรกทุกวัดก็ยินดีที่จะให้ไปพักค้างคืน แต่หลังจากนั้นกลับมีทหารและตำรวจเข้าไปภายในวัด แล้วมีการข่มขู่เจ้าอาวาสวัดว่าอย่ามายุ่งในเรื่องนี้ เดี๋ยวจะมีปัญหา ถือเป็นการคุกคามการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ระหว่างวัดกับประชาชนให้ถูกทำลาย

เขา กล่าวด้วยว่า เดิมที่ตั้งใจตามแผนจะเดิน 50-100 คน แต่ไม่สามารถทำได้ ขณะนี้จึงปรับเป็นการเดินเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คนแทน ซึ่งเราจะพยายามเดินให้ถึง จ.ขอนแก่นให้ได้ จะอุ้มก็อุ้ม แต่ถ้าตอนนี้จะมีวัดไหนที่ช่วยเหลือให้ที่พักอาศัยได้ก็อาจจะมีการจัดเวทีพูดคุยกับชาวบ้าน ขณะนี้คณะเดินเท้าถึง จ.สระบุรีแล้ว อย่างไรก็ตาม คืนนี้ยังไม่รู้ว่าจะนอนไหน และถ้าเข้าไปนอนแล้วก็ยังไม่รู้ว่าตอนเช้าจะได้ออกมาไหม.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"