คิงเพาเวอร์ สานต่ออีกก้าว แจกตั๋วภาพยนตร์ฟรี  720,000 ที่นั่ง ให้คนไทยรับชม "2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว"  สร้างแรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นมาทำดี ช่วยเหลือสังคม พร้อมทั้งชวนร่วมทำบุญบริจาคเงินเพื่อหาซื้ออุปกรณ์การแพทย์ เพื่ออาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา โรงพยาบาลศิริราช

บรรยากาศ และความรู้สึกในช่วง 55 วัน ของโครงการ ”ก้าวคนละก้าว” กำลังจะกลับมาอีกครั้ง ในรูปแบบของภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า  “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว”  โดยสุดยอดฝีมือคุณภาพจากบริษัท จีดีเอช ซึ่งส่งทีมงานคลุกวงในตามเก็บบันทึกภาพตลอดทั้งโครงการ  ทุกช่วงประทับใจ และทุกเบื้องหลังที่ไม่เคยเห็น ของ ตูน บอดี้สแลม นับตั้งแต่จุดสตาร์ท ที่ อ.เบตง จังหวัดยะลา ไปถึงเส้นชัย อ.แม่สาย จังหวัดเชียงราย

ด้าน ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย กล่าวว่า สำหรับโครงการก้าวคนละก้าว ผมคงไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถตอบแทนน้ำใจของพี่น้องคนไทยทั้งประเทศที่ร่วมก้าวไปด้วยกันจนสามารถระดมเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลทั้ง 11 แห่งกว่า 1,400 ล้านบาท ซึ่งผมหวังว่า โครงการนี้จะช่วยสร้างบันดาลใจ ให้ทุกคนลุกขึ้นมาทำดี ช่วยเหลือคนอื่น และสร้างประโยชน์ให้กับสังคม  และเพื่อเป็นการขอบคุณพี่น้องคนไทย ผมและทีมงานก้าวคนละก้าว จึงได้ร่วมกับทาง จีดีเอช จัดทำภาพยนตร์คลุกวงใน เรื่อง “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” ขึ้นมา เพื่อมอบให้เป็นของขวัญแก่พี่น้องชาวไทยทุกคน เพื่อสร้างและสานต่อแรงบันดาลใจในการทำความดีเพื่อผู้อื่น

ตูน กล่าวอีกว่า สำหรับตัวเลข 2,215 ของชื่อภาพยนตร์ คือ ระยะทางวิ่งจริงที่คณะก้าวคนละก้าว บันทึกไว้ตลอดเส้นทาง  ซึ่งเยอะกว่าแผนการเดิมที่วางแผนเอาไว้ที่ 2,190 กิโล เพราะได้มีการนับรวมการวิ่งเข้าไปในสถานที่ราชการ และสถานศึกษา ที่เพิ่มเติมเข้ามา

ส่วนการเลือกชื่อภาพยนตร์ ยอมรับว่า ทีมงานมีการประชุมและพยายามคิดชื่อกันหลายชื่อมาก เพราะผมมองว่าการตั้งชื่อภาพยนตร์มันก็เหมือนกับการตั้งชื่อเพลง ที่นอกจากจะสื่อความหมายแล้ว มันต้องเป็นคำที่มีพลังด้วย  และ ชื่อ “เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” มันก็สะท้อนทุกอย่างของโครงการนี้ออกมา เพราะตอนที่นำเสนอโครงการนี้ขึ้นมา ก็มีแต่คนบอกว่า ผมบ้า แต่เพราะผมเชื่อ มันถึงทำให้เราประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ดี เมื่อจัดสร้างภาพยนตร์ของโครงการนี้ ทางผมและทีมงานก็ไม่อยากจะให้ทำออกมาเผื่อฉายดูเฉยๆ แต่น่าจะนำมาใช้ส่งแรงบันดาลใจใหม่ๆ จึงมีการหารือกับทาง บริษัท คิง เพาเวอร์  ในการทำโครงการต่อเนื่องจากก้าวคนละก้าว มาสู่โครงการ “ก้าวนี้...เพื่อศิริราช”  ด้วยการบริจาคเงินเพื่อหารายได้ซื้ออุปกรณ์การแพทย์ เพื่ออาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล อาคารหลังสุดท้ายที่ในหลวงรัชกาลที่9 พระราชทานนามให้เพื่อผู้ป่วยด้อยโอกาส

สำหรับโครงการนี้ ทางผมและทีมงาน มีความตั้งใจที่จะเปิดให้คนไทย ได้รับชมภาพยนตร์แบบฟรีเพราะหวังส่งต่อพลังบวกให้กับคนไทยคนอื่นๆ ให้มีแรงบันดาลใจในการทำความดี และทางเราก็ได้บริษัท คิง เพาเวอร์  มาร่วมสนับสนุนการฉายภาพยนตร์ “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว”  ให้คนไทยได้ชมฟรีจำนวน 720,000 ที่นั่ง ที่โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และ โรงภาพยนตร์ ในเครือ เอส เอฟ ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย. 2561 เป็นต้นไป

“เราไม่ขายตั๋วให้คนดู เพราะเชื่อว่า คนดูจะร่วมกันทำบุญให้มากกว่าราคาตั๋วหนัง  เพราะจากโครงการก้าวคนละก้าวที่ผ่านมา  ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า คนไทยมีน้ำใจมากแค่ไหน “นายอาทิวราห์ กล่าว

ส่วนสาเหตุที่เลือกทำโครงการกับ โรงพยาบาลศิริราช ก็เพราะก่อนหน้านี้ทางอาจารย์และนักศึกษาแพทย์ของ ร.พ. ศิริราช ได้เคยเข้ามาปรึกษาเพื่อจัดทำโครงการวิ่ง จากเชียงใหม่มาศิริราชเช่นกัน  ซึ่งจากพูดคุยในครั้งนั้นก็ทำให้เราได้รับทราบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ30ปีก่อน ทางศิริราช โดยอาจารย์และนักศึกษาแพทย์ก็เคยวิ่งระดมทุนคล้ายๆโครงการก้าวคนละก้าวมาแล้ว  และทำให้เราได้รับแรงบันดาลใจกลับคืนมาเช่นกัน  เพราะรู้สึกทึ่งมากที่บุคลากรทางการแพทย์ที่มีภารกิจหน้าที่ซึ่งหนักมากอยู่แล้ว ยังต้องลงแรงวิ่งเพื่อที่จะหาเงินสนับสนุนการจัดซื้ออุปกรณ์ และตอนนี้ทางศิริราชก็กำลังจัดสร้างตึกใหม่ สำหรับผู้ป่วยด้อยโอกาสพอดี จึงเห็นว่า มีความเหมาะสมที่จะมีการระดมทุนผ่านภาพยนตร์เรื่องนี้

 

ด้าน นายณฐพล บุญประกอบ ผู้กำกับภาพยนตร์ เปิดเผยว่า ความพิเศษของหนังเรื่องนี้ยังไม่เคยถูกถ่ายทอดที่ไหนมาก่อน จะเป็นการเรียบเรียงภาพเหตุการณ์ต่างๆ บทสนทนาระหว่างเพื่อนๆการพูดคุยกับครอบครัว ความประทับใจตลอดเส้นทางวิ่ง ให้ผู้ชมได้รับรู้ในแง่มุมที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน

ขณะที่ นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ทางศิริราชประสบปัญหามาโดยตลอดในเรื่องของสถานที่และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ไม่เพียงพอกับจำนวนคนไข้ โดยในแต่ละวัน ศิริราช มีผู้ป่วยนอก เข้ามารักษาเฉลี่ย 8,000 -10,000คน ทำให้ยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่ไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงที  โดยในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็ทรงมีรับสั่ง ให้จัดสร้างตึกใหม่รองรับผู้ป่วย และทรงพระราชทานชื่อตึกในนาม อาคารนวมินทรบพิตร๘๔ พรรษาให้อีกด้วย เพื่อหวังให้พสกนิกรคนไทยทุกคนได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพแบบทั่วถึง  ทั้งนี้ทางศิริราช ก็จำเป็นที่จะต้องหาเงินอย่างน้อยอีกไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทในการจัดสร้างอาคารและจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์มาให้บริการประชาชน ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ยากจน หรือด้อยโอกาส

นายนิพนธ์ รักศรีอักษร รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า  กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นบริษัทของคนไทยที่เชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย และที่ผ่านมาบริษัท ก็ได้สนับสนุนโครงการดีๆ ทางด้านดนตรี  กีฬา  การศึกษา สุขภาพ และชุมชน มาโดยตลอด  ซึ่งการได้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ "ก้าวคนละก้าว"  ของ ตูน บอดี้สแลม  ก็ถือว่า สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทที่จะส่งเสริมในด้านนี้อยู่แล้ว

" ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องบังเอิญ หรือเป็นเรื่องฟ้าลิขิต ที่ทำให้เราเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนโครงการนี้  เพราะตูน เป็นนักร้องศิลปิน ก็เกี่ยวข้องกับดนตรี และการมาวิ่งมาราธอน เป็นเรื่องของการกีฬา และโครงการ ยังเกี่ยวข้องกับโรงพยาบาล ก็เป็นเรื่องของสุขภาพ และที่สำคัญยังเป็นโครงการที่เกิดการมีส่วนร่วมของสังคมและชุมชน ซึ่งมันไม่น่าจะมีโครงการอะไรที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนของบริษัท เทียบเท่าโครงการของคุณตูนอีกแล้ว "  นายนิพนธ์ กล่าว

 

อย่างไรก็ดี  ภายใต้โครงการ คิงเพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย เราก็จะยังคงมุ่งดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง และล่าสุด ก็ได้ร่วมสนับสนุนโครงการก้าวคนละก้าว  เพื่อขอรับบริจาครายได้ซื้ออุปกรณ์การแพทย์ เพื่ออาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล  เป็นวงเงิน 27 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการฉายภาพยนตร์ “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว”  ให้คนไทยทั่วประเทศได้รับชม กว่า 720,000 ที่นั่ง แบบฟรีๆ  โดยหวังว่า  เมื่อทุกท่านได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว จะได้รับแรงบันดาลใจในการส่งต่อความดีไปสู่คนรอบข้างและสังคมต่อไป 

" การได้ชม ภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้ผมนึกถึง 3 คำ สำคัญ คือ 1. พลังของคนไทย  2. ความสามัคคี และ 3 ความศรัทธา  ซึ่งผมเชื่อว่า ถ้า ตัวเรามีพลังศรัทธา  และพลังสามัคคีเกิดขึ้นแล้ว  เราก็จะได้เห็นพลังของคนไทยที่แท้จริงเกิดขึ้น  เชื่อว่า คนที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ต้องคิดเหมือนผมว่า คำว่า  ศรัทธา นั้นมีตัวตน  และหน้าตาของศรัทธา ก็คงออกมาคล้ายๆคุณตูนนี่แหละ "  นายนิพนธ์ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับภาพยนตร์ “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว”   จะเริ่มลงฉายตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.นี้ เป็นต้นไป จันทร์-ศุกร์ฉายให้ชม 1 รอบ และเสาร์-อาทิตย์ ฉายให้ชม 2 รอบ

ส่วนผู้ชมและผู้มีจิตศรัทธา สามารถร่วมบริจาคได้ที่ กล่องรับบริจาคตรงเคาน์เตอร์โรงภาพยนตร์ และสามารถโอนเงินผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ศิริราช เลขบัญชี 016-3-04556-7 กระแสรายวัน ชื่อบัญชี เพื่อการรักษาพยาบาลผู้ป่วย อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา โรงพยาบาลศิริราช หรือผ่านทาง คิว อาร์ โค๊ด ผ่าน Mobile Banking และ SMS บริจาคครั้งละ 10 บาท  โดยพิมพ์ T แล้วกด 4545099(เริ่มบริจาคได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้)