คกก.ปฎิรูปฯด้านสธ.เตรียมชงคกก.ยุทธศาสตร์ชาติตัดสิน3สารเคมีอันตรายได้ไปต่อหรือไม่


เพิ่มเพื่อน    


 
14 ส.ค.61- ในการประชุมคณะกรรมการปฏิรูประบบด้านสาธารณสุข  นพ.เสรี ตู้จินดา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข กล่าวถึงการหาทางออกภายหลังคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติให้ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช 3 ชนิด คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ทั้งที่มีอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนนั้น ว่า ภารกิจของกระทรวงสาธารณสุข หลักๆคือเรื่องอาหารปลอดภัยซึ่งแบ่งเป็น 2 เรื่อง คือ 1.เรื่องอาหารปลอดสารพิษ และ2.การดูแลสารพิษ ซึ่งก็มีการทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นที่ทราบกันว่ามีมติแบนสารพิษ 2 ชนิด คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และจำกัดการใช้ 1 ชนิด คือไกลโฟเซต อย่างไรก็ตาม แต่ข้อมูล ณ ปัจจุบันพบว่าไกลโฟเซตก็มีความเสี่ยงต่อสุขภาพด้วยเช่นกัน จึงจำเป็นต้องอิงตามข้อมูลทางวิชาการที่เป็นจริงด้วย เพราะครั้งก่อนยังไม่ได้ข้อมูลใหม่ จึงให้จำกัดการใช้ ทั้งนี้สำหรับบทบาทของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศทางด้านสาธารณสุขนั้น มีความชัดเจนใน 2 เรื่องเพื่อสนับสนุนนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข คือ 1.สนับสนุน นโยบายและทิศทางการใช้เกษตรปลอดภัย และ 2.ไม่เห็นด้วยกับการใช้สารพิษ เพราะในการปฏิรูปประเทศด้านสุขภาพ คณะกรรมการฯต้องดูแลประชาชนไม่ให้สัมผัสกับสารพิษ

ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีการตัดสินให้มีการใช้สารทั้ง 3 ชนิด โดยมีการจำกัดการใช้ ทางคณะกรรมการปฎิรูปฯ จะมีการทำหนังสือถึง รมว.สธ.เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร นพ.เสรี กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในแผนปฏิรูปประเทศ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ก็มีความชัดเจนเรื่องนี้  ซึ่งจริงๆคณะกรรมการคิดแนวทางหลายรูปแบบ โดยมีอนุกรรมการติดตามการดำเนินผล โดยจะมีการประสานกับกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งรับผิดชอบในเรื่องนี้ ว่าทำเรื่องนี้ถึงไหนแล้ว และจะมีการดำเนินการต่อไปอย่างไรบ้าง หากมีการใช้ต่อ ก็ขัดต่อนโยบายของคณะกรรมการปฏิรูปฯ และจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไร  นอกจากนี้ เราจะประสานกับคณะกรรมการปฏิรูปอีก 2 คณะ คือ ด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยจะเชิญหารือเพื่อขอความคิดเห็นเรื่องนี้ประมาณสัปดาห์หน้า

 เมื่อถามว่าหากสุดท้ายยังมีการอนุญาตให้ใช้สารเคมี 3 ชนิดนี้ต่อไป ถือว่าจะขัดต่อการทำงานของคณะกรรมการปฏิรูปฯ หรือขัดต่อกฎหมายหรือไม่นพ.เสรี กล่าวว่า  ต้องหารือก่อน ทุกอย่างต้องมีเหตุผล หากเหตุผลรับได้ก็ไม่มีปัญหา และหาก มีความเห็นต่างโดยอำนาจก็ต้องให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเป็นคนตัดสิน ซึ่งต้องรอหารือกันก่อน ตอนนี้ยังไม่คุยก็ยังไม่อยากให้ตัดสินหรือคิดไปเอง

นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ในฐานะกรรมการปฏิรูปด้านสาธารณสุข กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีสมุดปกขาวรวบรวมผลกระทบทั้งในและต่างประเทศ มอบให้ทางคณะกรรมการวัตถุอันตรายก่อนมีมติวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยพบว่ามีการปนเปื้อนของสารพิษทั้ง 3 ชนิดทั้งในพืชผักผลไม้ และเนื้อปลา ทั้งหมดมีการปนเปื้อน และส่งผลต่อสุขภาพ โดยข้อมูล ณ ขณะนี้ไกลโฟเซตมีการนำเข้ามา 60 ล้านกิโลกรัม เทียบได้เท่ากับร้อยละ 30ของสารเคมีพิษเข้าในประเทศไทย ส่วนพาราควอตนำเข้า 45.5 ล้านกิโลกรัม หรือร้อยละ 22.5 ส่วนคลอร์ไพริฟอส ซึ่งเป็นยาฆ่าแมลงเข้ามา 3.3 ล้านกิโลกรัม ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เยอะมากหากเทียบกับยาฆ่าแมลงตัวอื่นๆ แต่ขณะที่หลากหลายประเทศสั่งห้ามใช้แล้ว ล่าสุดสหรัฐก็สั่งห้ามเช่นกัน

นายพานิชย์ เจริญเผ่า กรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข กล่าวว่า เมื่อเหตุผลทางด้านสุขภาพชัดเจนไม่ควรมีเหตุผลด้านไหนมาค้านเรื่องความปลอดภัยด้านอาหารได้ ในเรื่องนี้ต้องหาทางยุติให้ได้ ซึ่งอดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตร สามารถยกเลิกได้หากมีข้อมูลวิชาการยืนยันชัดเจน อย่างจีน ลาว เวียดนาม ทั้งหมดยกเลิกหมดแล้ว ซึ่งการปล่อยให้คนในประเทศป่วย ก็จะยิ่งเพิ่มภาระค่ารักษาพยาบาล งบประมาณที่ใช้ในด้านรักษาพยาบาลของกระทรวงการคลัง สปสช.ไม่เพียงพอเห็นได้จากทุกปีก็ต้องของบประมาณด้านสุขภาพเพิ่มตลอด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"