15 ส.ค.61 - นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร ได้พบปะสังสรรค์และเตะฟุตบอลกับสื่อมวลชน ที่สนามกรีนฟิลด์ ซอยมัยลาภ โดยมีแกนนำและสมาชิกกลุ่มสามมิตรเดินทางมาร่วมงานและเล่นฟุตบอลอย่างคึกคัก อาทิ นายอนุชา นาคาสัย และนายธนกร วังบุญคงชนะ 

นายสมศักดิ์ กล่าวช่วงหนึ่งวถึงคำถามที่ว่ากลุ่มสามมิตรพยายามเจาะภาคอีสานซึ่งเป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ แกนนำกลุ่มสามมิตร กล่าวว่า การพูดคุยบางครั้งไม่ทราบว่าเป็นพื้นที่ของพรรคการเมืองใด และกลุ่มสามมิตรก็ไม่อยากแตะต้องพื้นที่ของพรรคการเมืองอื่น แต่หลายครั้งเป็นเรื่องตกกระไดพลอยโจน เพราะนัดหมายนักการเมืองของพรรคหนึ่ง ก็จะมีนักการเมืองจากอีกพรรคหนึ่งมาร่วมพูดคุยด้วย ยังไม่ขอเปิดเผยว่าจะมีอดีต ส.ส.เข้าร่วมกี่คน และเป็นใครบ้าง แต่ตอนนี้มีผู้พร้อมลงสมัครรับเลือกตั้งในนามกลุ่มแล้วประมาณ 200 คน 

 "ส่วนจะรวมกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่นั้นยังไม่สามารถยืนยันได้ แต่เราเชื่อว่าแนวทางนโยบายของรัฐบาลสามารถต่อยอดได้ จากการพบปะชาวบ้านนั้น ตอนแรกเขาไม่ได้ยอมรับเรา แต่เมื่อมีเวลาพูดคุยกันก็มีการสื่อสารกันปากต่อปาก และยิ่งสื่อมวลชนนำเสนอข่าวกลุ่มสามมิตร มีหอการค้าหลายแห่งเชิญเราไปพูด เหมือนกับว่าตอนแรกเราอยู่ในป่า อยู่แค่อำเภอด้านนอก แต่ตอนนี้เราเข้าตัวจังหวัดได้แล้ว เราเข้าในเมืองแล้ว แม้ยังเดินไม่ถึงครึ่งทาง แต่เรากลับมีกำลังใจในการทำงานมาก” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า สำหรับคะแนนความนิยมของพรรคการเมืองนั้น หากดูจากโพลตอนนี้พรรคเพื่อไทยนำมาเป็นอันดับหนึ่ง และพรรคพลังประชารัฐตามขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น เพราะพรรคพลังประชารัฐเพิ่งจัดตั้งแต่กลับได้รับความนิยมมาก จากการรับฟังความเห็นประชาชนหลายพื้นที่พบว่า มีความเป็นไปได้ที่พรรคพลังประชารัฐจะได้รับความนิยมเช่นนี้จริง เหมือนกับที่สมาชิกของพรรคอื่นขอมาอยู่กับกลุ่มสามมิตรเพราะเห็นว่ามีนโยบายที่ดี ซึ่งดีกว่าแค่มีเงินทุนจำนวนมาก ดังนั้น โพลของพรรคพลังประชารัฐอาจจะแซงหน้าพรรคเพื่อไทยก็ได้หากมีการเดินสายพูดคุยกับประชาชนทุกพื้นที่ทั่วประเทศ   

"คนที่เป็นดาวเคราะห์จะไม่กล้าออกจากพรรค เพราะไม่มีแสงสว่างในตัวเอง ไม่เหมือนกับคนที่เป็นดาวฤกษ์ ซึ่งมีแสงสว่างในตัวเอง ไม่ว่าจะย้ายไปอยู่ที่ไหนก็ไม่มีปัญหา เช่นที่กลุ่มสามมิตรเปิดตัวนักการเมืองหน้าใหม่ เพราะในพื้นที่นั้นไม่มีดาวฤกษ์อยู่เลย"นายสมศักดิ์ ตอบคำถามที่ว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเตือนส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ให้ย้ายพรรค 

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์จะชัดเจนกับกลุ่มสามมิตรกว่านี้หรือไม่นั้น ยืนยันว่ากลุ่มสามมิตรไม่เคยต่อรองผลประโยชน์ใดๆ กับใคร  ส่วนพล.อ.ประยุทธ์เราไม่สงสัย ท่านอยากอยู่ก็อยู่ไป จะเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ไม่ว่ากัน เราถือว่าได้นำเสนอความต้องการของชาวบ้าน และการเดินสายของกลุ่มสามมิตรก็ไม่ใช่การไปสัญญากับชาวบ้านว่าจะให้สิ่งต่างๆ เพียงแต่ไปรับฟังปัญหาแล้วนำมาสะท้อนถึงรัฐบาล ไปรับทราบความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชนเท่านั้นเอง.