"บิ๊กตู่" ปัดรังแกอดีตเลขาฯ ปปง. ยันปรับเพื่อความเหมาะสม-ทำงานมีประสิทธิภาพ  "วิษณุ" คาดตั้งคนใหม่เดือน ต.ค. ขณะที่ "พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์" ล่องหนหลังคำสั่ง ม.44
    เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงเหตุผลในการใช้มาตรา 44 ให้ พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยให้ไปเป็นผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ”เรื่องนี้ไม่ใช่การปลด อย่าพูดเช่นนั้น มันจะเสียหาย เป็นเรื่องการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน”
    เมื่อถามว่า ไม่ได้มีความผิดอะไรใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ไม่ได้มีความผิดอะไร เรื่องการปรับย้ายไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องมีความผิด การปรับย้ายบางครั้งเพื่อให้งานมีประสิทธิภาพ และเราไม่ได้ไปรังแกเพื่อที่จะเอาคนนั้นคนนี้เข้ามา ไม่ใช่ เคยบอกไปแล้วว่าวันนี้การทำงานที่ผ่านมารัฐบาลพยายามที่จะทำให้ทุกคดีและทุกๆ เรื่องเข้าสู่กระบวนการการตัดสินให้ครบสมบูรณ์ เนื่องจากบางครั้งเกิดความล่าช้าเกินเหตุ จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนให้คนอื่นที่เหมาะสมมาทำหน้าที่บ้าง เช่นเดียวกับการปรับย้ายข้าราชการในทุกกระทรวง 
    อย่างล่าสุดการปรับย้ายในส่วนของกระทรวงมหาดไทย การโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดมีคณะกรรมการในการคัดสรรและพิจารณาเสนอขึ้นมาตามขั้นตอน ไม่ใช่ว่ารัฐมนตรีจะไปชี้ใครได้ ใครที่เข้าเกณฑ์เป็นการปรับย้ายในระนาบเดียวกัน เป็นการปรับข้ามไปข้ามมาเพื่อความเหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมาบางส่วนอาจจะไม่เหมาะสม เพราะมีตำแหน่งว่างเป็นบางที   จำเป็นต้องปรับไปก่อน แต่พอถึงระยะเวลาหนึ่งต้องปรับเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม หลังจากนี้จะมีผู้เกษียณราชการต้องมีการปรับกันอีก
    สำหรับการปรับโยกย้ายในช่วงเดือน ต.ค. จะต้องพิจารณาถึงสถานการณ์บ้านเมืองด้วยหรือไม่นั้น นายกฯ ยอมรับว่า จะมีการปรับย้าย แต่ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองหรือการเลือกตั้ง สื่อมองเป็นการเมืองทุกเรื่องเลย ยืนยันว่าไม่มีการเมืองที่ไหน 
    ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบเหตุผลถึงการย้ายดังกล่าว เพราะเรื่องนี้มีการร้องไปยัง คสช. ไม่ได้ร้องมาที่ตนเอง ส่วนที่มีการระบุว่าสาเหตุมาจากการที่อดีตเลขาธิการ ปปง.ส่งข้อมูลให้กับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลนั้น ไม่เคยได้ยิน ส่วนการสรรหาเลขาธิการ ปปง.คนใหม่นั้น ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ เพราะกฎหมายเขียนไว้ว่า คนที่จะเป็นเลขาธิการ ปปง. จะต้องเป็นข้าราชการซี 10 เป็นรองเลขาฯ หรือผ่านงานระดับอธิบดีมาแล้ว ซึ่งอธิบดีกรมไหนอยากมาเป็นก็ได้ ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าช่วงนี้ใกล้จะถึงฤดูการแต่งตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 ต.ค. หากทำพร้อมกันไปทั้งหมดน่าจะเป็นเรื่องที่สะดวก
    เมื่อถามว่า พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์สามารถร้องขอความเป็นธรรมได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ออกจากตำแหน่งโดยมาตรา 44 ไม่ใช่การโยกย้ายธรรมดาทั่วไป ดังนั้นนึกไม่ออกว่าจะไปร้องอย่างไร ถึงแม้ว่าคำสั่งมาตรา 44 ถือเป็นคำสั่งทางปกครอง แต่ปกติถ้าจะร้องต้องไปร้องที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ก่อน และเมื่อ ก.พ.ค.ชี้มาแล้ว จึงค่อยไปที่ศาลปกครอง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 12/2561 เรื่อง ให้ พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการ ปปง. เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อสอบถามถึงกรณีดังกล่าวจนถึงวันนี้ ปรากฏว่า พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ ไม่รับโทรศัพท์แต่อย่างใด.