23 ส.ค.61 - นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษานปช. ได้กล่าวในการทำ Facebook Live  ตั้งคำถามว่ารู้เรื่อง ‘ปู’ หรือเปล่าเมื่อท่านนายกฯ อยากจะเป็น ‘พ่อปู’

ในความคิดของอ.ธิดาก็คือท่านพูดเยอะ (8 ล้านคำ) ก็มีโอกาสที่ผิดพลาด แต่การพูดเรื่อง ‘ปู’ ของท่านทำให้เข้าใจได้ว่าท่านเป็นคนที่คุยไปเรื่อย ท่านชอบพูด แต่ในที่นี้ท่านอาจจะเหน็บอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์นั่นแหละ เพราะอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ก็ทวิตมาว่า “ท่านอดีตผบ.ทบ.ยังจำชื่อนี้ได้อยู่เหรอคะ” พอดีกับที่ท่านนายกฯ ไปธนาคารปู มันก็ประจวบเหมาะกัน ท่านเลยใช้โอกาสนี้เหน็บกลับไป ไม่ว่าจะเป็น “กินปูกันหรือไม่ เบื่อปูกันหรือยัง กินกันบ่อยแล้วซิ แสดงว่าเบื่อปูกันแล้วใช่มั้ย” และ “ผมก็เปรียบเหมือนพ่อปู ขอให้เดินตามพ่อปูต่อไป เพราะการเดินตามแม่ปูมันจะเลี้ยวไปเลี้ยวมานะ” เป็นต้น อ.ธิดาจึงตั้งคำถามว่าจะเป็นพ่อปูแล้วรู้เรื่องปูหรือเปล่า?

เวลาท่านพูดถึงการเดินของแม่ปูว่าเดินเลี้ยวไปเลี้ยวมา แล้วพ่อปูเดินตรง อ.ธิดาบอกว่า “อันนี้มันผิดธรรมชาติและชีววิทยา คือปกติแล้วปูจะเดินขวาง แต่สิ่งสำคัญที่อ.ธิดาไม่เข้าใจว่าท่านนายกฯ ไม่ทราบหรือว่าปูตัวผู้และปูตัวเมียมันต้องเดินเหมือนกัน ท่านอาจจะพูดเล่นก็ได้ เดี๋ยวเด็กนักเรียนอาจจะเชื่อจริง ๆ ก็ได้...หรือเปล่า?

อ.ธิดาแสดงความคิดเห็นว่ามันไม่น่าจะเหมาะกับการเป็นผู้นำที่พูดเช่นนี้ โดยเฉพาะเรื่องการเมือง ถ้าท่านพูดไปเรื่อย เช่น เพลงแรกที่ท่านแต่ง, ปฏิญญาโตเกียว, ปฏิญญานิวยอร์ค, ปฏิญญาวอชิงตัน หรือปฏิญญาลอนดอน ท่านก็เปลี่ยนมาตลอด นี่จะเรียกว่าเป็นการเดินไปเฉียง ๆ เอียง ๆ แบบปูหรือเปล่า?

ท่านอย่านึกว่าพ่อปูจะเดินหน้า-ถอยหลังได้นะ มันก็เดินเอียงเหมือนกัน

ธรรมชาติการเดินของปูนั้น วัตถุแม่เหล็กภายในหูของปูที่มีความสามารถในการกำหนดทิศทางหายไปเนื่องจากขั้วแม่เหล็กเหนือและใต้ของโลกพลิกกลับไปกลับมาหลายครั้ง เพื่อดำรงชีวิตในสนามแม่เหล็กที่กลับไปกลับมาได้ ปูจึงไม่เดินไปข้างหน้าหรือถอยหลัง แต่เลือกจะเดินแนวขวางแทน

อ.ธิดากล่าวต่อไปว่าเมื่อท่านจะเป็นพ่อปูท่านก็จะเดินขวาง และตอนนี้คนอาจจะเข้าใจแล้วว่าโรดแมปมันไปไม่ได้เพราะมันเดินหน้าไม่ได้ ก็ได้แต่เดินขวางไป ขวางมาเพราะหาทิศทางไม่เจอ ขณะนี้ท่านบอกว่ามีแต่คนเชียร์ให้เป็นนายกฯ แต่ไม่รู้ว่าจะไปลงอย่างไร?

การที่ท่านนายกฯ ไปโจมตีรัฐบาลเก่า ผู้นำเก่า เปรียบเหมือนแม่ปูเดินเลี้ยวไปเลี้ยวมา และตัวเองเป็นรัฐบาลที่ดีกว่า มีความสามารถมากกว่า ความเปรียบตัวนี้พื้นฐานจริง ๆ และเนื้อหาธาตุแท้จริง ๆ อยู่ตรงนี้ ก็คือท่านต้องการบอกว่ารัฐบาลนี้ดีกว่า ท่านเป็นผู้นำที่ดีกว่ารัฐบาลที่แล้ว (รัฐบาลยิ่งลักษณ์) แต่เผอิญไปเปรียบเรื่องพ่อปูแม่ปู มันจึงเป็นเรื่องตลกไปเพราะว่าอย่างไรเสียปูตัวผู้ตัวเมียมันก็เดินขวางเหมือนกัน

ท่านอาจจะมีสิทธิภาคภูมิใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบอบแบบนี้ซึ่งอ.ธิดาเห็นมามาก ก็คือคนที่อยู่รอบข้างก็มีแต่ยกยอ ชื่นชม ขณะนี้ทีมเศรษฐกิจบอกจีดีพี 4.8 ขึ้นสูงขนาดนี้แล้วถามว่าเงินไปอยู่ที่ไหน? หรือจะเป็นอย่างที่คุณบรรยงว่าเงินไปอยู่ที่ 1% ของคนหรือเปล่า? ทำไมคนรากหญ้าไม่มีเงิน?

การที่ท่านพูดว่าเดินตามพ่อปูดีกว่าแม่ปู อ.ธิดาไม่คิดว่าคนอื่นเขาจะเห็นด้วย

ท่านอาจจะขยันและตั้งใจทำ มีหลายเรื่องที่ท่านได้มาเรียนรู้ใหม่และท่านอาจจะเชื่อเอาว่ารัฐบาลก่อน ๆ นั้นไม่เคยทำ ไม่เคยคิด ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะมาจากคำพูดของคนที่มาบอกท่านผิด ๆ หรือเปล่า? ว่ายุทธศาสตร์ไม่มีใครเคยวาง การทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นอย่างนี้เป็นการทำใหม่ เป็นต้น ซึ่งที่จริงแล้ววิธีแก้ปัญหาของท่านก็ยังเดินตามรอยอยู่จำนวนหนึ่ง คือเดินตามรอยข้าราชการ ซึ่งบางอย่างข้าราชการเขาก็ไม่ได้คิดขึ้นเอง มันก็มาจากการที่รัฐบาลเก่าเขาวางเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่น โครงการคมนาคม รถไฟ โครงการน้ำ ถามว่าที่เขาสุมหัวกันคิดมาตั้งแต่รัฐบาลก่อน ๆ มาอยู่ในมือข้าราชการ ข้าราชการก็ชงเรื่องต่อ แล้วท่านก็คิดเอาว่าท่านคือชุดแรกที่ทำ

ถ้าจะบอกว่าดีกว่า เก่งกว่า ท่านก็รีบตัดสินใจว่าจะไปอยู่พรรคไหน? แล้วก็ลองพิสูจน์ ถึงแม้พรรคนั้นอาจจะดูไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ อาจจะมีส.ส.น้อย แต่ใครจะรู้ ท่านเป็นนายกฯ ที่เก่งกาจ อาจจะทำให้พรรคนั้นได้คะแนนเสียงมีส.ส.เยอะก็ได้ ในโลกนี้ในที่สุดมันต้องตัดสินใจ แต่ถ้าท่านคิดเป็นปู ท่านจะตัดสินใจไปหน้า-ไปหลังไม่ได้ ไปได้แต่ทางซ้ายหรือทางขวา

อ.ธิดาแนะว่ารีบตัดสินใจดีกว่าเพราะเวลาไม่รอท่า มันไม่ได้เป็นผลดีกับประเทศชาติ กับคสช. และกับประชาชนไทยเลย แล้วยอมรับความเป็นจริง

เพราะว่าถ้าจะรอให้มีเฉพาะพรรคการเมืองของตัวเองชนะเลือกตั้งพรรคเก่า...มันรอนานนะ ลูกปูหรือว่าประชาชนจะตายกันหมดซะก่อน