นายกฯทุบโต๊ะ! ยันไม่เห็นด้วย เพิ่มโทษใบขับขี่


เพิ่มเพื่อน    

    สมาพันธ์ปกป้องสิทธิประชาชนยื่นรองประธาน สนช.ขวางการเพิ่มโทษปรับไม่พกใบขับขี่ ชี้แก้ไม่ตรงจุด-เปิดช่อง จนท.ทุจริต "สุริยะใส" ยก 5 ข้อคัดค้าน หวั่นทำให้ศาลเตี้ยขยายใหญ่ขึ้น จี้ชะลอไว้ก่อนรับฟังความเห็นทุกกลุ่ม "ประยุทธ์" ทุบโต๊ะไม่เห็นด้วย อ้างเป็นความคิดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังไม่มีข้อยุติต้องมองหลายมุม
    ที่รัฐสภา วันที่ 28 สิงหาคม นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่หนึ่ง รับหนังสือจากสมาพันธ์ปกป้องสิทธิประชาชน นำโดยนายวรกร พงศ์ธนากุล ประธานสมาพันธ์ฯ เพื่อขอให้ สนช.พิจารณายกเลิกการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจราจรทางบก พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบก่อนเข้าสู่การพิจารณาของ สนช.ต่อไป เนื่องจากมีการเพิ่มโทษปรับสูงเกินกว่าที่ประชาชนจะสามารถปฏิบัติได้ และก่อให้เกิดความเดือดร้อนอย่างมาก
     นายวรกรกล่าวว่า การแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ตรงจุดในการแก้ปัญหาจราจรของบ้านเมือง และจะเป็นการเปิดโอกาสให้เจ้าพนักงานเรียกรับเงินโดยทุจริต และอาจก่อให้เกิดการทุจริตในการสอบใบขับขี่ตามมา รวมถึงการแก้กฎหมาย อาทิ การเพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท สำหรับผู้ไม่มีใบขับขี่ และต้องโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท สำหรับผู้ที่ลืมพกพาใบขับขี่แล้วไม่สามารถแสดงต่อเจ้าพนักงานตำรวจนั้น เป็นการสร้างภาระให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยด้วย
     ขณะที่นายสุรชัยชี้แจงว่า ขั้นตอนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของกรมการขนส่งทางบกส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาตามกระบวนการ ยังไม่ผ่านมติ ครม. หากร่างดังกล่าวผ่าน ครม.แล้ว จะส่งไปยังคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปรัฐบาล) เพื่อพิจารณา หากเห็นด้วยจึงจะส่งมาที่ สนช. จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมวิปสนช.เพื่อพิจารณา และบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม สนช.ต่อไป อย่างไรก็ตาม ทุกความคิดเห็นต่อร่างดังกล่าวถือเป็นประโยชน์ ซึ่งจะได้ส่งให้ สมาชิก สนช.ทราบเพื่อประกอบการพิจารณาร่างดังกล่าวต่อไป
    ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย โพสต์ข้อความ "5 เหตุผล ที่ควรทบทวนและประชาพิจารณ์ ร่าง กม.เพิ่มโทษใบขับขี่ 10,000-50,000 บาท" ว่า แม้จะเข้าใจว่าเป็นความพยายามเพื่อลดอุบัติเหตุหรือแก้ปัญหาจราจรก็ตาม แต่ผมมีข้อสังเกตกับร่างแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ใน 5 ประเด็นดังนี้ 1.ตรรกะของการเพิ่มอัตราโทษให้แรงขึ้นเพื่อแก้ปัญหานั้นเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วหรือ เพราะปัญหาจราจรมีปัจจัยเกี่ยวเนื่องที่ไม่ใช่แค่เรื่องของใบขับขี่เท่านั้น และผลกระทบต่อคนหาเช้ากินค่ำอาจรุนแรงกว่าที่คิด
    2.แม้ว่าค่าปรับและโทษจำคุกจะเป็นดุลยพินิจของศาลคล้ายๆ โทษเมาแล้วปรับ จึงไม่ต้องห่วงว่าตำรวจจะมาหาประโยชน์นั้นไม่น่าจะเป็นความจริง เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้วไม่มีใครอยากขึ้นโรงขึ้นศาล การใช้วิธียัดเงินเคลียร์ปัญหาในขั้นตำรวจก็จะเกิดขึ้นตามมาแล้ว ยิ่งจะทำให้ระบบศาลเตี้ยขยายใหญ่ขึ้นจากอัตราโทษที่เพิ่มขึ้นหรือไม่
    3.การอ้างว่าหลายประเทศก็ใช้อัตราโทษปรับสูงและรุนแรงแบบเป็นข้ออ้างที่มองข้ามบริบทของแต่ละสังคม โดยเฉพาะประเทศเหล่านั้น มีอัตราค่าครองชีพที่สูงกว่าประเทศไทยค่อนข้างมาก จึงไม่เป็นปัญหาในการกำหนดอัตราโทษในลักษณะที่สูงเช่นนั้น
    4.ร่างแก้ไขกฎหมายฉบับนี้หารือกันเฉพาะในองค์กรที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ได้สอบถามหรือรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนอย่างจริงจัง จึงอาจซ้ำรอยของพระราชกำหนดแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวหรือร่างกฎหมายที่ห้ามนั่งท้ายรถกระบะ ซึ่งในที่สุดก็ถูกต่อต้านและไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาอย่างแท้จริง
    5.ร่างกฎหมายฉบับนี้มีประเด็นที่ควรทำประชาพิจารณ์หรือรับฟังความเห็นสาธารณะหลายประเด็นด้วยกัน เช่น กรณีมีใบขับขี่ แต่ลืมจะมีความผิดด้วยหรือไม่ ปัญหาอุบัติเหตุกับเยาวชนที่ไม่มีใบขับขี่เกี่ยวเนื่องกับปัญหาครอบครัวและปัญหาเยาวชนในมิติอื่นหรือไม่ หรือโทษที่เพิ่มขึ้นถ้าต้องเพิ่มควรอยู่ในอัตราเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม หรืออาจเป็นการเปิดช่องให้ตำรวจบางนายรีดไถประชาชนเพิ่มขึ้นหรือไม่ จึงเห็นควรชะลอร่างกฎหมายฉบับนี้ไว้ก่อน แล้วรับฟังความคิดเห็นประชาชนทุกกลุ่มอย่างกว้างขวาง
    ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.ถึงการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับข้อเสนอให้เพิ่มโทษสำหรับผู้ที่ไม่พกใบขับขี่ว่า เรื่องนี้เป็นความคิดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรัฐบาลต้องมาศึกษารายละเอียดดูว่าเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ต้องไปหาประเด็นอื่นๆ มาด้วย อย่ามองกันแค่ว่าเป็นการเพิ่มความรับผิดชอบให้กับคนที่จะต้องพกใบขับขี่หรือไม่ก็ต้องต่อทะเบียนรถ
    “วัตถุประสงค์มีหลายอย่างด้วยกัน แต่ไม่ใช่หลายอย่างที่ในโซเชียลฯ เอามาโพสต์กันอย่าสร้างความเข้าใจผิดๆ แบบนี้ให้ประชาชน เพราะไม่เช่นนั้นในวันข้างหน้าการแก้ปัญหาจะไปไม่ได้ ทุกอย่างต้องอาศัยกฎหมาย ความเหมาะสม ควรจะเป็นอย่างไร สำหรับผมยังไม่เห็นด้วยในประเด็นนี้ ก็ต้องหารือกันต่อไป ต้องมองกันในหลายๆ มุม อย่าไปขัดแย้งอะไรกัน ขอให้เข้าใจว่าวันนี้ผมยังไม่อนุมัติอะไรทั้งสิ้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"