กทม.เก้าอี้หด41จว.เพิ่ม


เพิ่มเพื่อน    

      กกต.ขยับรับเลือกตั้ง คำนวณจำนวนเก้าอี้ ส.ส.แบบแบ่งเขตทั่วประเทศ หลัง รธน.ลดจาก 375 เหลือ 350 เขต รอบนี้ใช้ฐานประชากร 189,110 รายต่อ ส.ส. 1 คน 41 จังหวัดเก้าอี้ ส.ส.เพิ่มขึ้น 1 ที่นั่ง  กรุงเทพฯ ลดจาก 34 ที่นั่งเหลือ 30 เก้าอี้ รองเลขาฯ กกต.ร่อนหนังสือเวียนถึง ผอ.สำนักงาน กกต.ทั่วประเทศ เร่งตรวจสอบจำนวนประชากร
     มีความคืบหน้าการเตรียมการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ ที่จะมีขึ้นในต้นปี 2562 ตามโรดแมปของ คสช.โดยเมื่อวันที่ 2 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปฏิบัติหน้าที่แทนเลขาธิการ กกต.ได้ลงนามหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 30 ส.ค. แจ้งไปยังผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทุกจังหวัด และกรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมความพร้อมในการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 
    โดยมีเนื้อหาระบุว่า ตามที่ได้แจ้งให้สำนักงาน กกต.จังหวัดทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ที่มีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่จะพึงมีเกิน 1 คน จัดส่งร่างการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. พร้อมแผนที่และรายละเอียดพื้นที่ที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้งให้สำนักงานฯ นั้น เนื่องจากสำนักทะเบียนกลางได้ประกาศจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธ.ค.2560 ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 23 ก.พ.2561และสำนักงานได้ดำเนินการคำนวณจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่จังหวัดจะพึงมีตามหลักเกณฑ์ มาตรา 83 มาตรา 85 และมาตรา 86 ของรัฐธรรมนูญ 
    หนังสือดังกล่าวระบุว่า เพื่อเป็นการเตรียมการเลือกตั้ง ส.ส. ขอให้ตรวจสอบจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้งที่เคยส่งให้สำนักงาน ให้เป็นไปตามประกาศสำนักทะเบียนกลาง และถ้ามีจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้งไม่ใกล้เคียงกัน ให้ปรับพื้นที่เขตเลือกตั้งให้มีจำนวนราษฎรของแต่ละเขตเลือกตั้งใกล้เคียงกัน แต่ต้องมีพื้นที่ของแต่ละเขตเลือกตั้งติดต่อกันด้วย ในกรณีจำเป็นต้องใช้จำนวนราษฎรเป็นรายตำบล ให้ประสานขอข้อมูลจากสำนักงานทะเบียนอำเภอและสำนักทะเบียนท้องถิ่น
    ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ทางสำนักงานได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อเตรียมพร้อมในการแบ่งเขตเลือกตั้งไปเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา เพราะจำเป็นต้องแจ้งให้ทางจังหวัดเตรียมไว้ เพราะกระบวนการนี้ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ทั้งนี้ เมื่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือประกอบกับมีประกาศจาก คสช.ให้ กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งได้ เราก็จะต้องมีระเบียบว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งเนื้อหาของระเบียบก็จะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของผู้สมัคร พรรคการเมือง และประชาชน เพื่อนำความเห็นที่ได้จากการรับฟังไปเสนอที่ประชุมกรรมการ กกต.ชี้ขาดว่าจะเลือกรูปแบบใดเป็นเขตเลือกตั้ง
    "เราต้องเตรียมความพร้อม ต้องมีการอัพเดตจำนวนประชากร ประกอบกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ปรับเขตเลือกตั้งจาก 375 เขต เหลือ 350 เขต ซึ่งจำนวนเขตที่ลดลง 25 เขต เวลารับฟังความคิดเห็นน่าจะเข้มข้นพอสมควร" เลขาธิการ กกต.กล่าว
    ด้านเว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา รายงานข้อมูลเบื้องต้นถึงการคำนวณสัดส่วน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง  โดยระบุในรายงานไว้ว่า กกต.ได้มีการกำหนดจำนวน ส.ส. 1 ราย เท่ากับประชากร 189,110 ราย ยกตัวอย่าง กทม. มีประชากร 5,682,415 ราย คำนวณแล้วควรมี ส.ส. 30 ราย โดยในการคำนวณ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ของ กกต. พบว่ามี 41 จังหวัดที่มีจำนวน ส.ส. มากขึ้น 1 ราย เช่น จ.กาญจนบุรี จากเดิม 4 ราย เพิ่มเป็น 5 ราย, จ.ขอนแก่น จากเดิม 9 ราย เพิ่มเป็น 10 ราย, จ.เชียงราย จากเดิม 6 ราย เพิ่มเป็น 7 ราย, จ.นครราชสีมา จากเดิม 13 ราย เพิ่มเป็น 14 ราย, จ.สุราษฎร์ธานี จากเดิม 5 ราย เพิ่มเป็น 6 ราย 
    ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากเอกสารที่สำนักข่าวอิศราเผยแพร่ไว้ พบว่ามีหลายจังหวัดจำนวน ส.ส.ลดน้อยลง   เช่น เดิมเคยมี 2 เขต ก็เหลือ 1 เขต ทำให้การเลือกตั้งคาดว่าจะมีการแข่งขันอย่างเข้มข้น เช่น จังหวัดอ่างทอง ที่เป็นการแข่งขันกันของพรรคชาติไทยพัฒนา คือกลุ่มตระกูลปริศนานันทกุล ที่แข่งกับพรรคเพื่อไทย ของตระกูลเปาอินทร์ ที่นำโดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขณะที่กรุงเทพมหานคร ในการเลือกตั้งปี 2554 มีเขตเลือกตั้งด้วยกัน 34 เขต แต่ข้อมูลของ กกต.ล่าสุด เหลือเขตเลือกตั้งเพียง 30 เขต.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"