ระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่


เพิ่มเพื่อน    

      อืมม์ม์ม์...เห็นว่ากะจะงัดเอา ลูกเขย มาสู้กันเลยเชียวหรือ??? จริง-ไม่จริงก็ยังไม่รู้ เพราะออกไปทาง ข่าวล่า-มาเรือ หาที่มาที่ไป ยังไม่ถึงกับชัดเจนมากมายซักเท่าไหร่ แต่ก็นั่นแหละ...ไม่ว่าจะเป็นญาติข้างลูก ข้างเมีย ข้างพี่ ข้างน้อง ก็แล้วแต่ ถ้าลองผ่านมือ นายใหญ่ หรือ นายใหญ่ ตัดสินใจส่งเข้าประกวดแล้ว ต้องถือว่ามีฤทธิ์ มีเดช อย่างมิอาจประมาทได้ ไปด้วยกันทั้งสิ้น...

                                                                 ----------------------------------------------

      เรียกว่า...ขนาดคุณน้อง ปู ยิ่งลักษณ์ ที่จับเอามาใส่ตะกร้าแกว่งน้ำ ใช้เวลา เทิร์นโปร เพียงแค่ 40 กว่าวัน แวบเดียวยังผงาดขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี แปลงหญ้าแฝกเป็นหญ้าแพรก แปลงเรือดำน้ำเป็นเรือดันน้ำได้สบายๆ ส่วนฝาละมีของคุณหลาน เอม นั้น จะเคยดันอะไรมาก่อนก็ตามแต่ แต่ถ้าคิดในแง่กะจะวางเป้าเอาไว้ที่ คนรุ่นใหม่ แล้ว ก็คงต้องถือเป็นเรื่องน่าคิด น่าสะกิดใจ มิใช่น้อย เผลอๆ...อาจต้องเล่นกันแบบ เกมส์ยาวว์ว์ว์ ไม่ได้แค่เอาแพ้-เอาชนะ กันในระหว่างแลนด์สไลด์ แอฝะลานช์ แต่เพียงเท่านั้น อาจต้องเจอธรณีสูบ เจอหิมะถล่ม ไปถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน โน่นเลย...

                                                               --------------------------------------------------

      คือคงต้องยอมรับนั่นแหละว่า...ถ้าว่ากันตาม มาตรฐานคนแก่ สิ่งที่เรียกว่า คนรุ่นใหม่ นั้น ออกจะเป็นอะไรที่ เข้าถึง-เข้าใจ ยากซ์ซ์ซ์เอามากๆ ยิ่งถ้าหากเป็นคนแก่ประเภท ท่านขุนน้อย ด้วยแล้ว แทบเหมือนจะอยู่ คนละโลก กับบรรดาพวกคนรุ่นใหม่เอาเลยก็ว่าได้ แค่เฉพาะการดูหนัง ฟังเพลง ก็เรียกว่า...เป็นคนละเรื่อง คนละม้วน ต่อยังไงก็ต่อไม่ติดโดยเด็ดขาด ถ้าจับเอาคนแก่ไปขัง ไปทรมาน ด้วยการบังคับให้ต้องนั่งฟังเพลงของคนรุ่นใหม่ กรอกหูตลอด 24 ชั่วโมง ต้องถือเป็นการทรมานที่โหดเหี้ยม อำมหิต เอามากๆ ไม่ต่างไปจากคนรุ่นใหม่เองนั่นแหละ ถ้าถูกบังคับให้ต้องนั่งฟังเพลงคุณน้าสุเทพ คุณป้าสวลี ตลอด 24 ชั่วโมง เผลอๆ...มันอาจ ประสาทหลอน เอาง่ายๆ...

                                                                 -------------------------------------------------

      คล้ายๆ เซลล์สมอง ยีน ดีเอ็นเอ ฯลฯ...มันเป็นคนละเรื่อง คนละชุด ไปแล้วก็ว่าได้ ช่องว่างระหว่างวัย ระหว่างความคิด ความรู้สึก มันออกไปทางคล้ายๆ กับนิยาย วรรณกรรม ของอาจารย์ คึกฤทธิ์ ปราโมช เรื่อง กาเหว่าที่บางเพลง อะไรประมาณนั้น โอกาสที่จะ เข้าถึง-เข้าใจ ระหว่างกันและกัน ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายๆ โดยเฉพาะเมื่อมีสิ่งที่เรียกว่า เทคโนโลยี เข้ามาเป็นองค์ประกอบสำคัญ ในการสร้างความแตกต่างระหว่างรุ่นต่อรุ่น ยิ่งในช่วงหลังๆ...ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีระดับธรรมดาๆ เท่านั้น แต่ยังหนักไปทาง ดิสรัปทีฟ เทคโนโลยี (Disruptive Technology) อีกด้วยต่างหาก ที่พร้อมจะ ถีบ รุ่นใดต่อรุ่นใดก็แล้วแต่ แม้แต่รุ่นราวคราวเดียวกัน ให้ร่วงผล็อยไปเป็นชุดๆ ชนิดใครเร็วกว่า ใครชักปืนไวกว่า ก็เอาไปกิน แบบ วินเนอร์เทกออล อะไรประมาณนั้น...

                                                                       -------------------------------------------------

      แล้วในขณะที่อะไรต่อมิอะไรมันไหลไปทาง 4.0-5.0 หนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...แต่สำหรับ การเมืองไทย แล้ว คงต้องยอมรับว่ายังหนักไปทาง 1.0 ไม่ก็ 0.4 อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ ตาม ลักษณะพิเศษ ของสังคมไทยที่มีมาแต่เนิ่นนาน ยังต้องดูดๆ ดึงๆ ต้องอุปถัมภ์ ค้ำชู กันไปตามสภาพ แรงเสียดสี เสียดทาน ระหว่าง คนรุ่นเก่า และ คนรุ่นใหม่ มันจึงกลายเป็น โจทย์ ที่ออกจะยากซ์ซ์ซ์เอามากๆ สำหรับสังคมไทยในอนาคตข้างหน้า ในการหาทางประคับประคอง หารอยเชื่อม รอยต่อ เอาไว้ให้ดี ไม่ให้มันเกิดแรงโน้มถ่วง หรือเกิดอาการ สุดโต่ง ไปในด้านใด ด้านหนึ่ง จนเกินไป...

                                                                  ------------------------------------------------------

      อีกทั้ง โจทย์ ที่ว่านี้...เอาเข้าจริงๆ แล้ว มันคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครจะได้เสียง ได้คะแนนนิยม ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ มาซักกี่สิบ กี่ร้อยเก้าอี้ เพราะต่อให้ได้มา 260 ขึ้นไป อย่างที่ สารวัตรเหลิม กะจะให้กลายเป็นตัวเปิดทางให้คนรุ่นใหม่ อย่าง ลูกกู ขึ้นเป็นรัฐมนตรีรวดเดียวแบบเปิดถ้วยแทงไฮโลนั้น คงไม่ต้องเสียเวลาคิดมากซักเท่าไหร่ แค่เจอกับวุฒิสมาชิกยืนตระหง่านอยู่ถึง 250 บวกกับประชารัฐ ประชาชาติ ประชาไทย สามม้ง สามมิตร ฯลฯลฯลฯ หรืออะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ แค่นี้...คนรุ่นใหม่อย่าง ลูกวัน ก็คงต้องเปิด แห้วกระป๋อง รับประทานไปอีกนาน...

                                                                -----------------------------------------------------------

      แต่ก็นั่นแหละ...ภายใต้แรงเสียดสี เสียดทาน ระหว่าง สังคม 4.0 กับ การเมือง 0.4 นั้น ทุกสิ่งทุกอย่าง...มันคงไม่ได้วัดตัดสินกันใน รัฐสภา เพียงอย่างเดียว แต่มันยังสามารถ ดิสรัปทีฟ กันได้ในอีกหลายทิศ หลายทาง หรืออาจแทบทุกทิศ ทุกทาง เอาเลยก็ว่าได้ และภายใต้ความปั่นป่วน รวนเร ในแต่ละเรื่อง แต่ละด้านนั้น ย่อมเกี่ยวพันไปถึงอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ของบรรดาผู้ที่ถูกเรียกขานว่า คนรุ่นใหม่ อย่างมิอาจปฏิเสธได้ อันนี้นี่แหละ...ที่ต้องเตรียมโจทย์ และเตรียมแก้โจทย์ เอาไว้ให้ดี อย่าต้องให้ถูกถีบ หรือถูกจับไปทรมาน ด้วยการบีบบังคับให้ต้องนั่งฟังเพลงของคนรุ่นใหม่ ตลอด 24 ชั่วโมง จนคนแก่ คนชราทั้งประเทศ อาจต้อง บ้าตาย เอาง่ายๆ...

                                                                -------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก H.L. Mencken... The older I grow the more I distrust the familiar doctrine that age brings wisdom.- ยิ่งแก่ตัวลงมากเท่าใด ข้าพเจ้ายิ่งไม่ค่อยศรัทธาต่อความเชื่อที่ว่า ความแก่จะนำมาซึ่งความฉลาด...

                                                                -------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"