ต่อพรก.ฉุกเฉิน 3จ.ชายแดนใต้ ดักยิงทหารดับ


เพิ่มเพื่อน    

    นายกฯ ขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ยกเว้น อ.สุไหงโก-ลก เบตง และแม่ลาน ออกไปอีก 3 เดือน เหตุยังเกิดความรุนแรงต่อเนื่อง "ปัตตานี" คนร้ายซุ่มยิงทหารพรานขณะกลับจากตั้งจุดตรวจเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 4 นาย
    เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 135 ตอนพิเศษ 223 ง เผยแพร่ประกาศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส ยกเว้นอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และจังหวัดปัตตานี ยกเว้นอำเภอแม่ลาน 
    เนื้อหาระบุว่า ตามที่ได้มีการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส ยกเว้นอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และจังหวัดปัตตานี
ยกเว้นอำเภอแม่ลาน ตามประกาศลงวันที่ 12 มิ.ย.2561 ทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถขยายผลการปฏิบัติงานเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสามารถจับกุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง รวมทั้งสามารถคุ้มครองความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น แต่ปรากฏว่ายังคงมีการก่อเหตุการณ์ร้ายแรงเพื่อสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากฝ่ายผู้ก่อเหตุรุนแรงยังมีศักยภาพในการปฏิบัติการและยังมีความประสงค์ที่จะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงด้วยการใช้ความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ในพื้นที่เพื่อทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยมุ่งหวังให้เกิดการเกรงกลัวอันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ
และความปลอดภัยของประชาชนจนไม่อาจดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข
    "จึงสมควรขยายระยะเวลาในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของรัฐและของบุคคล ซึ่งจำเป็นต้องใช้มาตรการตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในการแก้ไขปัญหาให้ยุติลงได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 และมาตรา 11 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส ยกเว้นอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และจังหวัดปัตตานี ยกเว้นอำเภอแม่ลานออกไปอีกเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.2561 เป็นต้นไป"
    นอกจากนี้ ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ เรื่องการให้ประกาศและคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับตามที่ได้มีประกาศเรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส ยกเว้นอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และจังหวัดปัตตานี ยกเว้นอำเภอแม่ลาน ลงวันที่ 11 ก.ย.2561 แล้วนั้น 
    เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติการป้องกัน แก้ไข หรือระงับสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 และมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 นายกรัฐมนตรีจึงให้บรรดาประกาศและคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดขึ้นตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา ลงวันที่ 20 ก.ค.2548 คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 1/2550 เรื่อง การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ลงวันที่ 16 ม.ค.2550 และตามประกาศขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ดังกล่าวเท่าที่ยังคงมีผลใช้บังคับอยู่ในวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับให้มีผลใช้บังคับต่อไป จนกว่านายกรัฐมนตรีจะกำหนดเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.2561 เป็นต้นไป
    ราชกิจจานุเบกษายังเผยแพร่ประกาศเรื่องการกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ 2) ระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศเรื่องการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส ยกเว้นอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และจังหวัดปัตตานี ยกเว้นอำเภอแม่ลาน ลงวันที่ 11 ก.ย.2561 และมีประกาศ เรื่องการให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ ลงวันที่ 11 ก.ย.2561แล้วนั้น
    เพื่อให้การสั่งการและการแก้ไขสถานการณ์เป็นไปโดยมีเอกภาพ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 วรรคสอง แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ.2548 คณะรัฐมนตรี จึงมีมติให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น 21. แห่งประกาศ เรื่องการกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 20 ก.ค.2548 “21.พระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546” ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
    วันเดียวกัน สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเกิดเหตุความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเวลา 10.00 น. พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี,  พล.ต.ต.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กก.ภ.จว.ปัตตานี ชุดตำรวจพิสูจน์หลักฐานปัตตานี และกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เดินทางไปตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบยิงเจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 4 นาย บริเวณทางโค้ง พื้นที่บ้านดอนนา ม.5 ต.บางเขา  อ.หนองจิก จ.ปัตตานี 
    เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา  แต่เจ้าหน้าที่เกรงคนร้ายจะดักลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ จึงเดินทางไปตรวจสอบในช่วงเช้า ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นป่าไม้โกงกาง พบปลอกกระสุนปืนสงครามทั้งอาก้า เอ็ม 16และลูกซอง ตกเกลื่อนกลาดประมาณ 50 ปลอก และมีรอยเท้าคนร้ายจำนวนมาก จึงได้เก็บพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อส่งพิสูจน์ต่อไป
    สำหรับผู้ที่เสียชีวิต 2 นาย คือ อส.ทพ.สุชาติ กองสุข และ อส.ทพ.ธนเดช ไชยมุสิก ส่วนผู้บาดเจ็บ 4 นาย คือ 1.ส.ต.อุทัย ประทุมวัลย์ 2.อส.ทพ.อิสรพงศ์ แก้วรักษา 3.อส.ทพ.อนิรุต หวังเอียด และ 4.อส.ทพ.วรากร นิ่มมาก ทั้ง 4 นายมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ขาและมือ บาดเจ็บ ได้นำตัวส่งมารักษาที่ รพ.ปัตตานี.       


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"