‘หูตง’ หมู่บ้านเหมืองและเมืองแมว


เพิ่มเพื่อน    

แมวเหมียวแห่งหมู่บ้านหูตง เขตรุ่ยฟาง เมืองนิวไทเป ขวัญใจของคนทุกวัย โดยเฉพาะเด็กๆ

  หลังจากสงครามจีน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 1 ระหว่างปี ค.ศ.1894-1895 จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของราชวงศ์ชิง ญี่ปุ่นได้หมู่เกาะเผิงหู คาบสมุทรเหลียวตง และไต้หวัน เป็นอาณานิคม
    แม้จะมีความไม่สงบ นั่นคือการต่อต้านญี่ปุ่นของชาวจีนและชนพื้นเมืองไต้หวันอยู่เป็นระยะ แต่ผู้ยึดครองก็กำราบกลุ่มกองกำลังปลดแอกและมวลชนที่ลุกฮือลงได้ทุกครั้ง อีกทั้งยังพัฒนาไต้หวันควบคู่กันไปหลายๆ ด้าน จนกลายเป็นชาติที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมและระบบสาธารณูปโภค
    คนละฝั่งกับหมู่บ้านแมว ซึ่งมีสถานีรถไฟหูตงและแม่น้ำจี้หลงคั่นกลางคือพื้นที่เหมืองถ่านหินขนาดใหญ่ที่บริษัทญี่ปุ่นเข้ามาขุดเจาะ จนกลายเป็นแหล่งผลิตถ่านหินขนาดใหญ่ที่สุดในไต้หวัน สร้างผลผลิตได้ถึงปีละประมาณ 220,000 ตัน ประชากรในหูตงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนที่รุ่งสุดๆ มีผู้คนเดินทางมาแสวงโชคและอยู่อาศัยในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ถึงราว 6,000 คน หรือประมาณ 900 ครอบครัว
    หลังปี ค.ศ.1545 ญี่ปุ่นผู้ปราชัยในสงครามโลกครั้งที่ 2 ต้องถูกขับไล่ออกจากเกาะไต้หวันทั้งหมดถึงกว่า 300,000 คน แต่อุตสาหกรรมเหมืองก็ยังเดินหน้าต่อไปได้อีกเกือบ 5 ทศวรรษ ก่อนที่จะค่อยๆ ซบเซา ชาวบ้านทยอยย้ายถิ่นออกไปหาทางอยู่รอดใหม่ๆ กระทั่งเหมืองถ่านหินที่นี่ต้องปิดตัวลง เหลือผู้ยืนหยัดอยู่เพียงไม่กี่ร้อยคน
    ชาวบ้านยังมีที่ไป แต่ชาวแมวไม่มีทางเลือก ต้องอยู่อาศัยต่อไปในหูตงตามยถากรรมและการดูแลที่พอถูไถจากผู้คนที่ยังปักหลักในหมู่บ้านกลางหุบเขา  

สะพานขนถ่ายถ่านหิน เชื่อมอาคารคัดแยกถ่านหินกับสถานีรถไฟหูตง สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1920

    แต่โชคก็ยังเข้าข้างพวกเขา เมื่อทางเขตรุ่ยฟาง เมืองนิวไทเป มีโครงการฟื้นฟูหมู่บ้านหูตงขึ้นในปี ค.ศ.2005 เรียกว่า Houtong Coal Mine Ecological Park หรือ “อุทยานเชิงนิเวศเหมืองถ่านหินหูตง” เพื่ออนุรักษ์และชุบชีวิตเขตเหมืองในอดีตให้กลับคืนมาในรูปแบบของสถานที่ท่องเที่ยว
    บรรดาแมวที่เคยตกยากก็พลอยได้อานิสงส์ อาสาสมัครผู้ดูแลแมวเหล่านี้ได้โพสต์ภาพลงในสังคมออนไลน์ ทราบความไปถึงทาสแมวทั้งในและนอกประเทศ เพียงเวลาชั่วพริบตาหมู่บ้านหูตงก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวผู้นิยมเสือเล็กรักความสงบและไร้พิษภัย แถมยังได้มาประจักษ์กับประวัติศาสตร์มีชีวิตของพื้นที่ทำเหมืองในอดีต ธรรมชาติทั้งลำน้ำและขุนเขา นักเดินป่าฝ่าดงก็มีเส้นทางให้ผจญภัยแบบเบาๆ หลายเส้นทาง
    ผมออกจากสถานีรถไฟทางฝั่งซ้ายมือด้วยเข้าใจผิดว่าหมู่บ้านแมวอยู่ทางนี้ แม้ว่าจะมีแมวเดินเล่น พบปะผู้มาเยือนและหลบมุมพักผ่อนอยู่หลายตัวก็ตาม ทว่าฝั่งนี้พี่เหมืองเขาเป็นพระเอก ส่วนน้องแมวนั้นเป็นตัวเด่นอยู่ทางฝั่งขวาติดกับเชิงเขา ขณะที่ “ลิง” สัตว์เจ้าของชื่อ “หูตง” ซึ่งหมายถึง “ถ้ำลิง” นั้น ไม่ปรากฏกายให้เห็น หรือไม่ก็หนีเข้าป่าลึกไปนานแล้ว

รถไฟขบวนจิ๋วใช้รางสำหรับขนถ่ายถ่านหินในอดีตนำชมบางส่วนของเหมืองโบราณ
    Vision Hall เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก ชั้นล่างแสดงนิทรรศการประวัติของหมู่บ้านและเหมืองถ่านหิน แบบจำลองบางส่วนของเหมือง ภาพถ่ายคนงานเหมือง รวมทั้งภาพเขียนที่เกี่ยวกับเหมือง ส่วนชั้นสองเป็นห้องชมภาพยนตร์ประวัติหมู่บ้านและเหมืองถ่านหิน
    ออกจากพิพิธภัณฑ์ผมก็ข้ามแม่น้ำจี้หลงโดยใช้สะพานชื่อ Ruisan Yunmei ไปยังเขตเหมือง เจอแมวตัวหนึ่งกำลังหาวิธีกินอาหารในถุงที่มีคนนำมาวางบนโต๊ะ แต่ปิดปากถุงไว้ คาดว่าคงลืม  
    เจ้าหน้าที่หนุ่มวัยรุ่นเดินเข้ามาหาผม เขาพิมพ์ข้อความลงในโปรแกรมแปลภาษาของโทรศัพท์มือถือแล้วยื่นให้ผมอ่านเป็นภาษาอังกฤษ ชักชวนให้ขึ้นขบวนรถไฟจิ๋วรางแคบ ลอดอุโมงค์ชมเหมือง เรียกว่า Ride Tub ราคารอบละ 150 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 170 บาท ใช้เวลา 20 นาที ผมขอบคุณแล้วบอกเขาว่าแค่จะมาเดินเล่นเฉยๆ
    เขาเดินตามผมมา พิมพ์ข้อความแล้วยื่นให้อ่านอีก You can go upstairs if you want “คุณสามารถเดินขึ้นไปยังชั้นบนได้ หากคุณต้องการ”
    ผมขอบคุณเขาอีกครั้ง แล้วเดินขึ้นบันไดไปยังเนินเขาเล็กๆ ดังกล่าว มีคาเฟ่เก๋ไก๋ตั้งอยู่บนนี้ด้วย มองลงไปเห็นนักท่องเที่ยวเช่ารถถ่อแล่นมุดอุโมงค์เหมืองเก่าลอดผ่านไปอีกฝั่งของเนิน หันกลับมองด้านสถานีรถไฟ แม่น้ำสีเขียวไหลอยู่ระหว่างหุบเขา เป็นทิวทัศน์ที่งดงามสบายตา

ความสะอาดปราศจากเชื้อโรคต้องแลกมาด้วยใบหูแหว่งๆ อย่างนี้
    นอกจากทัวร์รถรางและร้านกาแฟบนเนินแล้ว พื้นที่บริเวณนี้ที่เรียกว่า Houtong Pit Mining Leisure Park ยังมีร้านอาหาร ที่พักแบบ Bed & Breakfast จุดกางเต็นท์ พื้นที่ปิกนิกย่างบาร์บีคิว บริการจักรยานให้เช่า ลานจอดรถ และอื่นๆ อีกที่ผมไม่ได้เดินดูจนทั่ว
    มีโอกาสได้เจอหนุ่มน้อยคนเดิมก่อนโบกมือลาเขาเดินกลับไปยังฝั่งสถานีรถไฟ มีร้านอาหารอยู่ไม่กี่ร้าน ผมแวะกินบะหมี่ใส่ซอสเย็น น่าจะทำจากถั่วหรือไม่ก็งา แล้วเดินข้ามสะพานลอยรูปแมวที่ทั้งแมวและคนใช้ร่วมกันไปอีกฝั่ง รู้ตอนนี้เองว่าหมู่บ้านแมวอยู่ด้านนี้ มีบ้านหลังเล็กๆ ให้แมวนอนติดๆ  กันเหมือนทาวน์เฮาส์
    บ้านที่คนเคยอยู่ร้างไปเป็นส่วนมาก ที่ไม่ร้างก็กลายสภาพเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ตกแต่งให้ออกมาเป็นธีมแมวทั้งหมู่บ้าน น่ารักจิ้มลิ้มจนคนรักแมวยิ้มกริ่มทุกรายไป  
    มีจุดให้อาหารแมวพร้อมภาชนะวางอยู่อย่างเป็นระเบียบ พวกแมวส่วนมากกินกันอย่างเบิกบานใจ แต่ที่ดูเหงาๆ เซื่องซึมก็มีเหมือนกัน
    แมวที่นี่จะได้รับการฉีดวัคซีน และถูกขลิบที่ใบหูข้างหนึ่งเพื่อนับจำนวนและควบคุมประชากร อีกทั้งเพื่อเป็นการแบ่งแยกแมวประจำถิ่นกับแมวที่เข้ามาใหม่ ทำให้แมวที่สะอาดปลอดภัยมีใบหูที่เท่น้อยกว่าแมวที่อาจจะมีเชื้อโรค
    จุดสำคัญๆ ของหมู่บ้านหูตงนี้นอกจากแมวเป็นร้อยๆ ตัวจนสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นได้จัดอันดับให้เป็น 1 ใน 6 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่สุดสำหรับคนรักแมวแล้ว ก็ยังมี Coal Preparation Plant โรงคัดแยกถ่านหินสูง 3 ชั้นที่ถูกทิ้งร้างและอนุรักษ์ไว้ในรูปแบบที่เหลือแต่โครงสร้างเหล็กและปูน

มีทั้งแมวจริงและแมวกราฟฟิกทั่วทั้งหมู่บ้าน
    Coal Transportation Bridge สะพานข้ามแม่น้ำจี้หลงพร้อมรางที่เชื่อมต่อโรงคัดแยกถ่านหินเข้ากับสถานีรถไฟหูตง เมื่อคราวรถไฟสาย Yilan Line เริ่มเปิดใช้ในปี ค.ศ.1920
    บ่อเหมือง Ruisan Mining Main Pit ที่ถ่านหินถูกขุดออกมามากกว่าบ่อใดๆ มีหลุมหนึ่งในบ่อที่ยาวถึง 4,572 เมตรจากปากบ่อซึ่งเป็นจุดชำระล้างทำความสะอาดตัวของคนงานเหมือง ปัจจุบันคือหอนิเวศทางธรณีวิทยาและอนุสรณ์สถานคนงานเหมือง
    บ้านพักคนงานเหมืองขนาด 2 คูณ 2 เมตรแต่นอนอยู่รวมกันเป็นครอบครัว กั้นฝาห้องด้วยแผ่นไม้กระดานและเจาะช่องไว้สำหรับใช้ตะเกียงร่วมกับห้องข้างๆ ส่วนห้องน้ำและห้องครัวใช้ร่วมกันทั้งอาคาร
    นอกจากนี้ก็ยังมีร่องรอยของศาลเจ้าในแบบญี่ปุ่น ทางเดินโบราณบางเส้นทางที่น่าสนใจ โรงเรียนระดับประถมศึกษาที่มีนักเรียนเพียง 50 คน เป็นต้น      
    เหมือนจะยังไม่จุใจ แต่เพราะเดินจนเริ่มปวดฝ่าเท้าจึงซื้อตั๋วรถไฟกลับไทเป ก่อนขึ้นรถก็ได้มีโอกาสเข้าไปใช้ห้องน้ำของสถานีรถไฟที่ตกแต่งด้วยภาพเขียนแมวเหมียวแนวคิกขุโดยฝีมือของศิลปินในท้องถิ่น แล้วทำสัญญาแมวกับตัวเองว่าถ้ามีโอกาสจะกลับมาเยือนอีกครั้ง    

แมวใช้เวลา 70 เปอร์เซ็นต์ของทั้งชีวิตไปกับการนอน
    ผู้โดยสารในรถไฟเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนสถานีที่ผ่านไป อีกทั้งต้องจอดรอให้ขบวนรถด่วนผ่านไปก่อนอยู่หลายครั้ง  กว่าจะถึงกรุงไทเปก็เป็นเวลา 1 ทุ่มกว่าโดยที่ยืนมาตลอดเส้นทาง
    ผมลงที่สถานี Nangang แล้วต่อรถใต้ดินสายสีน้ำเงินไปลงสถานี Zhongxiao Dunhua เดินตัดเข้าถนนเส้นด้านในซึ่งขนานไปกับเส้นหลัก น้องทอมรีเซพชั่นโรงแรมแนะนำไว้ว่าย่านนี้มีร้านกาแฟน่านั่งหลายร้าน ซึ่งก็สวยเก๋จริงตามที่เธอพูด แต่ก็เลยเวลากาแฟไปหลายชั่วโมงแล้ว ส่วนผับบาร์นั้นแทบไม่เจอ
    ถึงซอยที่เชื่อมกับถนนใหญ่อีกครั้ง ผมก็เดินตามออกไป จากนั้นก็ข้ามไปอีกฝั่ง เข้ามินิมาร์ท ฉวยได้เบียร์พิลสเนอร์อูเควล กระป๋องใหญ่ ราคา 69 ดอลลาร์ไต้หวัน พร้อมกับแอปเปิลและสลัดที่ตั้งใจซื้อไว้กินก่อนนอน แล้วไปนั่งดื่มเบียร์แก้กระหายที่หน้าอาคารหลังหนึ่ง บริษัทนี้ปิดประตูไปแล้วและไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน ดื่มอยู่อย่างสงบจนหมดกระป๋องผมก็นั่งเมโทรกลับย่านซิเหมิน เข้าที่พักแล้วกินสลัดก่อนจะนอนหลับไปพักใหญ่ แต่ตื่นมาอาบน้ำแล้วก็ออกไปเดินเล่นอีกจนได้  

แมวที่หมู่บ้านหูตงส่วนใหญ่จะอ้วนพีเพราะได้รับการปฏิบัติดูแลเยี่ยงเจ้าเมือง
    ร้านรวงในย่านซีเหมินปิดใกล้จะหมดแล้วตอนเวลาเลยเที่ยงคืนไปไม่นาน เจอบาร์เล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่นั่งอยู่ชั้นสอง และมีระเบียงสำหรับมองความเป็นไปของผู้คนบนถนน ในร้านมีเบียร์ให้เลือกไม่มาก สั่งฮูกาเทนขวดเล็กมา 1 ขวด ราคา 150 ดอลลาร์ไต้หวัน ถูกกว่าเมืองไทยประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ หมดขวดผมก็เดินไปย่านบาร์หลักตึกแดง วันนี้แทบไม่มีคนจึงเดินกลับที่พัก เจอน้องรีเซพชั่นคนสวยแต่หน้าบึ้งคนเก่า เธอนั่งเอาหน้าชิดจอคอมพิวเตอร์เหมือนเมื่อคืนวาน
    เช้าวันต่อมาผมก็เจอเหตุการณ์เสียงก๊อกน้ำพลังช้างรบกวนให้ต้องตื่นเหมือนเดิม พยายามจะนอนต่อก็ได้ท่อนละไม่กี่นาที จึงอาบน้ำแต่งตัวแล้วเช็กเอาต์ แต่ขอฝากกระเป๋าไว้ก่อน เมื่อคืนนี้ผมได้ใช้ Wi-fi ของโรงแรมจองที่พักแห่งใหม่ไว้แล้ว
    ไทเปนั้นเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทั้งปริมาณและความหลากหลาย แต่ผมกลับไปฝากท้องกับโอเด้งในมินิมาร์ทข้างที่พักอีกจนได้อย่างกับคนสิ้นหวัง นั่งกินในสวนสาธารณะเล็กๆ ริมถนนแล้วเดินไปยังแม่น้ำตั้นสุ่ย

ชีวิตของพี่เขาในหมู่บ้านแห่งนี้คงไม่ง่ายนัก

    ก่อนนี้รีเซพชั่นหนุ่มที่ทำงานกะเช้าเตือนว่า “ไม่มีอะไรน่าสนใจ จะเดินไปทำไม” ผมตอบเขาว่า “อยากจะลองดูให้หายข้องใจ”    แม่น้ำตั้นสุ่ยมีความยาวประมาณ 160 กิโลเมตร ไหลในทิศทางใต้ขึ้นเหนือ ออกทะเลที่ช่องแคบไต้หวัน หรืออีกไม่กี่กิโลเมตรจากจุดที่ผมไปยืนมอง บริเวณนี้มีสวนสาธารณะ พื้นที่ออกกำลังกาย ลานจอดรถริมแม่น้ำ สะพานรถข้าม เกาะเล็กๆ กลางแม่น้ำ และตึกรามบ้านช่องฝั่งตรงข้ามที่พูดได้ว่าการเดินไป-กลับราว 3 กิโลเมตร ไม่ได้เป็นการเสียเวลา
    อย่างน้อยก็ได้เห็น และไม่ติดค้างในใจ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"