ผมสนใจงานการเมือง 'บิ๊กตู่'เปิดไต๋อ้างรักประเทศชาติ-ก๊วนรมต.จ่อซบ'พปชร.'


เพิ่มเพื่อน    

     “ประยุทธ์” ประกาศท่าทีแล้ว สนใจการเมืองเพราะรักประเทศชาติ แต่ไม่ลาออกจากหัวหน้า คสช. รัฐมนตรีอีอีซีดี๊ด๊าใหญ่ร่วมวงถก 2 ชั่วโมง เผย 29 ก.ย.นี้ชัดเจนแน่ “ชวน ชูจันทร์” ชี้ไม่พลิกตามโผ “อุตตมนั่งหัวหน้า-สนธิรัตน์จองเลขาฯ” สปท.-ตท.12-สนช.ที่ไขก๊อกตามเส้นกฎหมายตบเท้าเข้าพลังประชารัฐ นักการเมืองพาเหรดเชียร์ลงสนาม แต่เสื้อแดง-พท.รับน้องใหม่ บี้ลาออกจากเก้าอี้กรรมการ
     เมื่อวันจันทร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงถึงอนาคตทางการเมืองด้วยท่าทีที่สุขุมและน้ำเสียงราบเรียบว่า สิ่งที่หลายๆ คนอยากจะให้ตอบในเรื่องงานการเมือง ก็ตอบได้ว่าในขณะนี้สนใจงานการเมือง แต่การที่จะตัดสินใจอย่างไร จะสนับสนุนใคร มันเป็นเรื่องอีกระยะหนึ่งซึ่งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง 
     “วันนี้ผมสนใจการเมือง เพราะผมสนใจในสิ่งที่ผมทำลงไปว่าไปถึงไหนอย่างไร วันข้างหน้าจะได้รับการสืบสานต่อไปหรือไม่ ผมจะติดตามรับฟังจากบรรดากลุ่มการเมือง พรรคการเมือง นักการเมืองต่างๆ  ที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เพราะฉะนั้นผมขอใช้คำแรกนี้ได้ว่า ผมสนใจงานการเมือง เพราะผมรักประเทศชาติของผม ก็คงเป็นเช่นเดียวกับคนไทยทั้งประเทศ รวมทั้งสื่อมวลชนด้วยก็ต้องรักประเทศไทยของเรา  ก็สุดแล้วแต่ประชาชนจะว่าอย่างไรในอนาคต ขอบคุณครับสวัสดีครับ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
     ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากแสดงท่าทีว่าสนใจงานด้านการเมืองจะลาออกจากหัวหน้า คสช.เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบทันทีว่า "ไม่ออก" และเมื่อถามถึงความชัดเจนในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์กล่าวระหว่างเดินกลับไปยังห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าเช่นกันว่า  "ไม่มี"
     ทั้งนี้ก่อนการแถลงข่าวดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้โอวาทตัวแทนคณะนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่ที่จะเดินทางไปร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่สาธารณรัฐอินโดนีเซียตอนหนึ่งว่า อยากให้ทุกคนช่วยเผยแพร่สิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย หลายอย่างคนอาจไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วันนี้หลายอย่างอยู่ในเกณฑ์สงบเรียบร้อย กระทั่งทุกคนสามารถเข้าถึงการทำงานของรัฐบาล นั่นคือโอกาสของความเท่าเทียม ที่เริ่มมาจากความสงบสุขและความเรียบร้อยของบ้านเมือง อย่าให้วาทกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นทำให้ประเทศชาติสับสนอลหม่านไปอีกเลย เราต้องใช้ความอดทน ใช้การเดินหน้า ก็เหมือนกับการเล่นกีฬาที่เริ่มจากเล่นไม่เป็นจนเล่นเป็น ขอให้ใช้กีฬาสร้างภาพลักษณ์ 
     “อย่าให้การเมืองอย่างเดียวนำพาประเทศชาติไป การเมืองสำคัญแต่ต้องเป็นการที่มีธรรมาภิบาล  ไม่ใช่พูดขัดแย้งไปเสียทั้งหมด แล้วหลายอย่างทำให้ประชาชนสับสนอลหม่านไปหมด ทุกคนต้องการให้มันดีขึ้น แล้วจะดีได้อย่างไรถ้าไม่ช่วยกันทำ นายกฯ ก็ทำไม่ได้ หัวหน้า คสช.ก็ทำไม่ได้ มาตรา 44 ก็ทำไม่ได้ เพราะทั้งหมดคือคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น ต้องมีหิริ โอตตัปปะ ความละอายเกรงกลัวต่อบาป ทำอะไรไม่ดี ได้เงินจากสิ่งที่ไม่ถูกต้อง” นายกฯ กล่าว
รัฐมนตรีทีมสมคิดคึกคัก
     ในช่วงบ่ายบรรยากาศที่ทำเนียบฯ เป็นไปด้วยความคึกคักหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ประกาศท่าทีสนใจงานการเมือง โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่มีข่าวจะไปนั่งในตำแหน่งต่างๆ ในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)  ต่างทยอยเดินทางเข้าทำเนียบฯ อาทิ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์, นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้มารวมตัวที่ห้องทำงานของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ 
     โดยนายสนธิรัตน์กล่าวถึงอนาคตทางการเมืองว่า "เมื่อพร้อมแล้วจะบอก" 
     เมื่อถามว่าที่พรรคพลังประชารัฐจะประชุมพรรคในวันที่ 29 ก.ย.นั้นจะมีความชัดเจนหรือไม่ นายสนธิรัตน์ระบุว่า วันที่ 29 ก.ย.น่าจะมีความชัดเจน แต่ทั้งหมดจะพยายามคุยกันให้จบก่อนซึ่งยังมีเวลาอยู่ 
     ภายหลังหารือกันประมาณ 2 ชั่วโมง เวลา 16.00 น.รัฐมนตรีทั้งหมดได้เดินทางออกจากห้องทำงานนายสมคิด โดยนายสนธิรัตน์กล่าวภายหลังว่า ไม่ได้พูดคุยกับนายสมคิด แต่มาพูดคุยเรื่องการทำงานเฉยๆ พร้อมทั้งปฏิเสธให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการร่วมงานกับ พปชร.ในวันที่ 29 ก.ย. โดยขึ้นรถกลับทันที
     ขณะที่นายอุตตมกล่าวว่า ได้เคยพูดแล้วว่าสนใจที่จะมีโอกาสทำงานเพื่อประเทศชาติ ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะเป็นไปในรูปแบบใด จึงจะมีโอกาสทำงานต่อไป เดี๋ยวถึงเวลาก็รู้ จะประกาศแน่นอน
     ด้านนายสุวิทย์กล่าวว่า ไม่ได้หารือถึงเรื่องการเมือง แต่มาพูดคุยกันถึงการเสนอเรื่องตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ขอทำงานการบ้านก่อน
     นายกอบศักดิ์กล่าวเช่นกันว่า รออีกไม่กี่วัน เคยบอกไปแล้วว่าความชัดเจนจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้ ส่วนการประกาศของนายกฯ นั้นได้ดูคลิปให้สัมภาษณ์แล้ว ซึ่งนายกฯ ระบุว่ารักประเทศชาติ คิดว่าเรื่องนี้คือความรู้สึกของทุกคนที่ตัดสินใจทำเรื่องนี้ เป็นความรู้สึกเดียวกันว่านี่คือประเทศของเรา อยากทำให้ประเทศดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และขณะนี้เราได้ช่วยประชาชนอยู่แล้ว และในอนาคตคงไปดำเนินการทำประโยชน์ให้แก่ประชาชน   
     “ในวันนั้นจะเป็นโอกาสที่ได้ให้ประชาชนได้เห็นถึงทีมงาน ขอให้อดใจรออีกนิดนึง ในวันนั้นจะมีการประกาศและวางจุดยืนต่างๆ เอาไว้ทุกอย่าง ขอให้อดใจรอ ผมมั่นใจว่านโยบายต่างๆ หรือจุดยืนต่างๆ รวมถึงรายละเอียดต่างๆ จะได้ประกาศพร้อมกันทีเดียว แล้วเจอกันนะครับ” นายกอบศักดิ์ตอบถึงการประชุม พปชร.ในวันที่ 29 ก.ย. และความชัดเจนในตำแหน่งกรณีหากเข้าพรรคแล้วจะลาออกจากตำแหน่งในปัจจุบันหรือไม่
     มีรายงานแจ้งว่า นอกจากนายอุตตม, นายสนธิรัตน์ และนายกอบศักดิ์จะมาร่วมกับ พปชร.ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 29 ก.ย.นี้แล้ว ยังมีข่าวว่านายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และข้าราชการในระดับผู้อำนวยการของดีอีบางคนก็จะมาร่วมด้วย ทั้งนี้ รัฐมนตรีที่ตกเป็นข่าวนี้ส่วนใหญ่เป็นทีมงานสานพลังประชารัฐ และอยู่ในทีมที่ผลักดันเรื่องโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก  (อีอีซี) กันมา
     'ชวน' ลั่นเป็นไปตามโผ
     ขณะที่นายชวน ชูจันทร์ ผู้ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทำให้การเมืองบางอย่างชัดเจนขึ้น แต่การตัดสินใจว่าจะมาลงในบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของ พปชร.หรือไม่ต้องรอการตัดสินใจ ถึงอย่างไรเรื่องนี้ผู้ใหญ่เขาคงคุยกันอยู่  
"เรื่องตำแหน่งต่างๆ ในพรรคเป็นเรื่องเชิงสัญลักษณ์ พรรคเน้นการเมืองไปที่ฐานราก โดยต้องรอดูการประชุมพรรควันเสาร์นี้ แต่ถึงขณะนี้เท่าที่ทราบก็เป็นไปตามข่าว คือนายอุตตมเป็นหัวหน้าพรรค  นายสนธิรัตน์เป็นเลขาธิการพรรค และคงมีนายสุวิทย์มาช่วยงานด้วย แต่ทั้งหมดต้องรอการประชุมพรรค" นายชวนระบุ
     รายงานข่าวจาก พปชร.แจ้งว่า เมื่อต้นเดือน ก.ย.แกนนำผู้จัดตั้งพรรคได้ร่วมหารือกัน ณ ที่ทำการพรรคบริเวณสี่แยกประชานุกูล โดยมีนายสนธิรัตน์, นายอุตตม และนายสุวิทย์ ที่เป็นทีมเศรษฐกิจของนายสมคิดเข้าร่วมประชุมทั้งหมด ยกเว้นนายกอบศักดิ์  โดยใช้เวลาหารือกันเรื่องต่างๆ แต่ยังไม่มีความชัดเจนในกรณีรับตำแหน่งในพรรคแล้วจะลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีในช่วงหาเสียงหรือไม่ 
     ด้าน พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น 12 (ตท.12) กับ พล.อ.ประยุทธ์ที่รับผิดชอบหาเสียงในภาคใต้ให้ พปชร. กล่าวถึงเพื่อนร่วมรุ่น ตท.12 คนอื่นๆ จะมาอยู่กับ พปชร.หรือไม่ว่า ได้โทรศัพท์กันอยู่ ซึ่งถึงเวลาใกล้ๆ พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 หรือบิ๊กเยิ้มก็จะมาช่วยงานแน่นอน 
     มีรายงานว่าตามรัฐธรรมนูญ บทเฉพาะกาลบัญญัติว่า สมาชิก สปท.-สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หากจะลงสมัครรับเลือกตั้งต้องลาออกภายในไม่เกิน 90 วันนับแต่รัฐธรรมนูญบังคับใช้ ซึ่งรัฐธรรมนูญประกาศใช้เมื่อ 6 เม.ย.59 โดยพบว่าในส่วนของ สปท.ที่ลาออกก่อนครบวาระ หลายคนมีข่าวจะไปทำงานกับพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นนายสนธิรัตน์, นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานบอร์ดธนาคารอาคารสงเคราะห์ หนึ่งในทีมเศรษฐกิจของนายสมคิด, พล.อ.ธวัชชัย, พ.อ.สุชาติ,  นายกอบศักดิ์, นายวิเชียร ชวลิต อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ที่ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษานายสนธิรัตน์
     ขณะเดียวกัน นักการเมืองก็ตอบรับการแถลงท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์อย่างคึกคัก โดยนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า นายกฯ ต้องทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งจะต้องเป็นไปอย่างยุติธรรม ไม่ว่านายกฯ จะตัดสินใจอย่างไรก็ต้องทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด และในฐานะที่ พล.อ.ประยุทธ์คุมอำนาจรัฐอยู่ต้องไม่ใช้อำนาจนั้นเอื้อประโยชน์แก่ใคร
     นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า หลายคนอาจตื่นเต้นกับคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ว่าสนใจงานการเมือง แต่จะไม่ลาออกจากหัวหน้า คสช. แต่ตนเองไม่แปลกใจเพราะพฤติกรรมตั้งแต่ต้นแสดงให้แล้วว่า เป็นพวกอยากมีอำนาจแต่ไม่กล้าเข้าสู่การเลือกตั้ง
     “การที่ พล.อ.ประยุทธ์ห้ามนักการเมืองหาเสียง แถมจะเล่นการเมืองโดยไม่ลาออกจากหัวหน้า คสช. คือการเอาเปรียบนักการเมืองอื่น ผู้ใดก็ตามที่ใช้อำนาจหรืออาวุธเพื่อให้ผู้อื่นมอบสิ่งใดให้คือการปล้นอันเป็นพฤติกรรมของโจร ยิ่งถ้าทำกับประชาชนมือเปล่าแถวบ้านผมเรียกโจรกระจอก” นายวัฒนาโพสต์
     'แดง-พท.' พาเหรดขย้ำ
    นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พท.กล่าวว่า การพูดเช่นนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ถือเป็นการเข้าใจผิด เพราะตั้งแต่ยึดอำนาจเข้ามาถือว่าเข้ามาสู่เส้นทางการเมืองแล้ว ที่บอกว่าสนใจการเมือง น่าจะตีความได้ว่าต้องการสืบทอดอำนาจต่อ เป็น 1 ใน 3 รายชื่อที่พรรคการเมืองจะเสนอเป็นนายกฯ 
      “มีข่าวว่าผู้มีอำนาจเตรียมยุบพรรคเพื่อไทยภายในเวลา 90 วันก่อนการเลือกตั้ง เพื่อให้สมาชิกไปสมัครพรรคอื่นไม่ได้ เปิดทางให้ท่านได้เป็นนายกฯ ใช่หรือไม่ เพราะผลสำรวจล่าสุด พท.ยังเป็นพรรคอันดับ 1 ที่ประชาชนจะเลือก หากเป็นเช่นนั้น พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯ ไม่ได้ เมื่อวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะเล่นการเมืองต่อไม่ควรถืออำนาจรัฏฐาธิปัตย์ต่อไป ควรให้คนเป็นกลางมาทำหน้าที่แทนจะดีกว่า” นายวรชัยกล่าว
     นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า คงเป็นเรื่องแปลกถ้าเราจะเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์เพิ่งมาสนใจการเมืองเอาวันนี้ ถ้ามองจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา คิดว่าท่านกับคณะสนใจการเมืองไม่ต่ำกว่า 10 ปีมาแล้ว รวมทั้งมีแนวโน้มจะสืบทอดอำนาจต่อไปอีกหลายปี แต่นอกจากสนใจการเมืองแล้ว อยากให้นายกฯ สนใจเรื่องความชอบธรรมด้วย 
     “การเมืองที่ไม่คำนึงถึงความชอบธรรมถึงที่สุดจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ เรียกร้องให้ปลดล็อกไปเลย ท่านก็แค่คลาย ถามว่าจะลาออกจากหัวหน้า คสช.หรือไม่ ท่านก็ไม่ออก รัฐมนตรีที่มีข่าวจะไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งที่จริงควรช่วยกันออกไปบ้างเพื่อไม่ให้ภาพพรรคกับรัฐบาลและ คสช.ทับซ้อนกันเกินไป ท่านก็ยืนยันไม่ปรับ ครม. ขณะที่ กกต.ก็ทำหน้าที่องค์กรอิสระที่ยืนบนจุดเกรงใจ ไม่รู้ว่าคำอธิบายเรื่องการเลือกตั้งที่โปร่งใสและเป็นธรรมจะมาจากมุมไหน” นายณัฐวุฒิกล่าว
      นายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อและแกนนำ นปช.กล่าวว่า ขอสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ให้ลงการเมือง แต่ต้องมาตามระบบจะสง่างาม ไม่มีใครจะสามารถคัดค้านต่อต้าน 
นายพายัพ ปั้นเกตุ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และหนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า  พล.อ.ประยุทธ์คงประเมินแล้วว่า จากโพลและการเดินสายที่มีแต่คนแซ่ซ้องเรียกร้องให้นายกฯ ตู่สู้ๆ ประกอบกับรัฐบาล คสช.จัดสรรงบประมาณลงช่วยเหลือประชาชนไว้มากทั้งงบปกติ งบกลาง และยิ่ง  พล.อ.ประยุทธ์ออกทีวีทุกอาทิตย์ทุกช่อง รวมทั้งกฎหมายที่เอื้ออีก ไม่มีใครสู้ท่านได้อยู่แล้ว จึงควรเดินออกมาสังกัดพรรคการเมืองด้วย สง่างามจะตายไป 
      นายภราดร ปริศนานันทกุล อดีต ส.ส.อ่างทอง แกนนำกลุ่มเลือดใหม่ พรรคชาติไทยพัฒนา  (ชทพ.) กล่าวว่า ไม่รังเกียจและเชื่อว่าท่านเป็นคนดี มีความตั้งใจทำงานให้ประเทศชาติจริงๆ แต่จะสง่างามหรือไม่กับการที่เคยประกาศตัวเป็นกรรมการมาโดยตลอด แต่วันนี้กลับผันตัวมาเป็นผู้เล่น เพราะเห็นผู้เล่นเขาเล่นแล้วอยากเล่นบ้าง ซึ่งการตัดสินใจเช่นนี้ก็ถือว่าเป็นสิทธิ แต่คำถามคือเมื่อประกาศตัวแล้ว ท่านพร้อมหรือยังที่จะเป็นผู้เล่นที่ดีและยอมรับกติกา เพราะเป็นการเล่นที่ไม่ปกตินัก โดยเฉพาะพร้อมรับการตัดสินใจของคนทั้งประเทศหากตัดสินไม่ตรงกับใจ
“ผมยังเชื่อว่าชายชาติทหารคงจะสามารถแยกหมวกของตัวเองได้ดี และเมื่อผิดหรือทำไม่ถูกกติกาก็คงจะลงโทษตัวเอง แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าท่านทำได้หรือไม่” นายภราดรระบุ
    นายภราดรยังได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื้องนี้ว่า เมื่อกรรมการผันตัวมาเป็นผู้เล่น ไม่มีใครรังเกียจหากอยากอยู่ต่อ แต่คงมีคำถามเกิดขึ้นไม่น้อยว่าสงครามแย่งคนในไม่ช้านี้จะยุติธรรมและอิสระหรือไม่  ท่านพร้อมจะเป็นนักกีฬาที่ดีแล้วหรือยัง ท่านพร้อมที่ทำตามกติกาที่ท่านเขียนไว้เองหรือยัง ท่านพร้อมจะน้อมรับการตัดสินใจของประชาชนหากผลการตัดสินใจออกมาไม่ตรงใจท่านหรือยัง Free & Fair  Election Please
     นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ยินดีที่จะมีนักการเมืองหน้าใหม่  ถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ยอมรับการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ส่วนจะต้องลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ ก็ขึ้นกับดุลยพินิจความเหมาะสม ซึ่งท่านคงพิจารณาเอง
    นายสุระ เตชะทัต โฆษกพรรคพลังชล กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ดีงามในการประกาศเดินตามวิถีประชาธิปไตยตามครรลอง ส่วนนายกฯ จะตัดสินใจหรือมีแนวทางอย่างไรคงไม่ก้าวล่วง พร้อมเคารพการตัดสินใจ
    นายสุระยังกล่าวถึงการประชุมใหญ่พรรคว่า น่าจะเป็นวันที่ 20 ต.ค. และขอยืนยันว่าพรรคยังอยู่ ไม่มีการยุบพรรคตามที่มีกระแสข่าวว่าจะไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคอื่นใด ส่วนทิศทางการเมืองของพรรคจะดำเนินการอย่างไรต้องรอผลการหารือของที่ประชุมพรรค และเป็นไปตามกรอบที่กฎหมายกำหนด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"