เพจ BIOTHAI โพสต์โดนบริษัทสารเคมี กดดันยุติบทบาท "วิฑูรย์" ลั่นไม่กลัว


เพิ่มเพื่อน    

26ก.ย.61-วันนี้(26 ก.ย.)เพจBIOTHAI ได้มีการแชร์ข้อความ ใจความสำคัญระบุว่า ระบุว่า บรรษัทข้ามชาติสารพิษกำจัดศัตรูพืช และสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นโดยสมาคมค้าสารพิษกำจัดศัตรูพืช กำลังดำเนินการเพื่อกดดัน BIOTHAI ให้ยุติบทบาทการเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับเบื้องหลังการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืนเนื่องจาก เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “กลุ่มเครือข่ายเกษตรและอาหารปลอดภัย” ได้ทำหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ใช้อำนาจสั่งการให้ “ยับยั้งการกระทำของ BIOTHAI รวมทั้งให้ BIOTHAI ออกมาแสดงความรับผิดชอบ” ซึ่งเป็นการกระทำแบบเดียวกันกับที่มีการกดดันให้นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยนเรศวรยุติบทบาทและให้ลาออกหลังจากได้เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับการตกค้างของสารพิษพาราควอตในสิ่งแวดล้อม เมื่อต้นปี 2561 ที่ผ่านมา  ซึ่งคาดว่ามาจากโพสต์ของไบโอไทยที่เปิดเผยหนังสือการคัดค้าน ร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน คำชี้แจงของคณะทำงานยกร่างของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อชี้แจงข้อคัดค้านของกลุ่มองค์กรดังกล่าว ตลอดจนการเปิดเผยความจริงที่ระบุว่ากลุ่มที่คัดค้านร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน ว่ามีบุคคลใดบ้าง และบุคคลดังกล่าวเกี่ยวข้องกับบริษัทค้าสารพิษ ซึ่งสำเนาหนังสือดังกล่าวยังได้จัดส่งไปยัง นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธาน “คณะกรรมการแก้ปัญหาสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง”


นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผอ.มูลนิธีชีววิถี กล่าวว่า ขณะนี้ไม่ใช่แค่เรื่องการแบนหรือไม่แบนสารเคมีกำจัดศัตรูพืช 3 ชนิด คือ พาราควอต คอลร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต แต่มีความชัดเจนว่ากลุ่มบริบัทข้ามชาติสารพิษกำจัดศัตรูพืช ที่แต่เดิมเป็นกลุ่มหลักในการขัดขวางไม่ให้มีการแบนสารเคมี ได้มีการขยายแนวร่วมไปยังกลุ่มอื่นเพื่อคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน ซึ่ง เมื่อดูแล้วก็จะเห็นทั้งเรื่องการแบน และ พ.ร.บ.ฯ นั้นมีความเชื่อมโยงกันอยู่ ซึ่งก็เป็นที่น่ากังวลว่าการแบนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชจะไม่สำเร็จ ซึ่งก็จะกระทบกับ พ.ร.บ.ฯ ส่งเสริมฯ ด้วย


นายวิฑูรย์ กล่าวว่า นอกจากนี้อีกเรื่องที่เป็นกังวลคือมีข่าวว่ามีกลุ่มคนบางกลุ่มที่อยู่ในรัฐบาลต้องการเข้าสู่การเลือกตั้ง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุน ภาคประชาชนจึงมีการตั้งคำถามว่าหากมีการแบนอาจจะทำให้กระทบกับกลุ่มผู้สนับสนุนหรือไม่ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดข้อกังขาอย่างที่มีการย้ำกันมาตลอดคือรัฐบาลต้องแสดงจุดยืนในเลือกปกป้องสุขภาพประชาชน ซึ่งเชื่อว่ายังสามารถใช้กระบวนการปกติได้ และกลุ่มที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งก็ต้องเลือกระหว่างบริษัทผู้ค้าสารเคมีกับเกษตรกรจำนวนน้อยที่ยังใช้สารเคมีอยู่ หรือจะเลือกสุขภาพประชาชนส่วนใหญ่ที่เป็นส่วนสำคัญในการเลือกตั้ง


“ในการที่กลุ่มบริษัทมีการยื่นหนังสือนั้น เห็นว่าไม่มีหลักฐานในการคัดค้านการแบน เพียงแต่เป็นการใช้อำนาจ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าอำนาจอะไร ที่จะทำให้รัฐบาลทำตามในการปิดปากการเปิดเผยความจริงของ BIOTHAI และนักวิชาการ  ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นปัญหาและข้อจำกัดของตัวเขาเอง ทาง BIOTHAI ขอยืนยันว่าจะไม่ยอมแพ้และไม่เกรงกลัวอำนาจที่ต้องการลดทอนบทบาทของบริษัทสารเคมีในการต่อสู้เพื่อประชาชน ทั้งในเรื่องการสนับสนุนนโยบายการแบนสารเคมีของกระทรวงสาธารณสุข และการสนับสนุน พ.ร.บ. พ.ร.บ.ฯ ส่งเสริมฯ เพราะเราเชื่อมั่นว่าเราไม่ได้ทำงานต่อสู้เพียงฝ่ายเดียว เรายังมีภาคประชาชนกลุ่มอื่นๆ มีนักวิชาการอิสระ กระทรวงสาธารณสุข รวมทั้ง คณะกรรมการปฏิรูประ 3 คณะ คือ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข ด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม ที่ทำงานร่วมกันและคอยสนับสนุนอยู่ และเชื่อว่าประชาชนให้การสนับสนุนเราอยู่“นายวิฑูรย์ กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"