พรรคข้าราชการ!!!


เพิ่มเพื่อน    

      แทบไม่น่าเชื่อ-ต้องเชื่อ...ว่า ระบบราชการ หรือ พรรคข้าราชการ อะไรมันจะมีฤทธิ์ มีเดช มีอำนาจ อิทธิพล บารมี ระดับยิ่งใหญ่ เกรียงไกร เหนียวแน่นและซึมลึก ไปได้ถึงเพียงนี้ สามารถยึด สามารถยื้อ ให้ความปรารถนา ความต้องการ ของผู้คนแทบทั้งบ้าน ทั้งเมือง ในเรื่องการยกเลิกสารพิษความเสี่ยงสูง 3 ชนิด ที่เรียกๆ กันว่าพาราควอต-คลอร์ไพริฟอส-ไกลโฟเซต ต้องย้วยไป-ย้วยมา หาบทสรุป หาข้อยุติ ยังไม่เจอ จนตราบเท่าทุกวันนี้...

                                                              ---------------------------------------------------

      เรียกว่า...ขนาดพรรคการเมืองแทบทุกพรรค รัฐมนตรี 3 กระทรวง (เกษตรฯ-อุตสาหกรรม-สาธารณสุข) นายกรัฐมนตรี ผู้ตรวจการแผ่นดิน แพทยสภา องค์กรภาคประชาชนถึง 686 องค์กร แถมด้วยมติสภาผู้แทนราษฎรอีก 393 ต่อ 0 เสียง ฯลฯ ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าควรที่จะเลิกหา เลิกใช้ ให้มันรู้แล้ว รู้แรด ไปซะที แต่เมื่อเจอเข้ากับคณะกรรมการวัตถุอันตราย อันประกอบไปด้วยข้าราชการแค่ 19 คน ผู้ทรงคุณวุฒิอีก 10 คน โดยมีระดับ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เท่านั้นเป็นประธาน ตัดสินใจลงมติ 16 ต่อ 5 เสียง งดออกเสียงซะ 5 เสียง ทุกสิ่งทุกอย่างก็เลยต้องเป็นอันยื้อไป-ยื้อมา ย้วยไป-ย้วยมา แม้จะปาเข้าไป 2 ปีกว่าๆ เข้าไปแล้ว...

                                                              -------------------------------------------------

      พูดง่ายๆ ว่า...แม้แต่ “ยุคเผด็จการ” ที่ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีกระบองขนาดยักษ์ มีมาตราฉี่ฉิบฉี่อยู่ในมือ ยังทำอะไรแทบไม่ได้ ต้องปล่อยให้เรื่องราวยืดเยื้อ คาราคาซัง มาจนถึง “ยุคประชาธิปไตยไฮบริด” ซึ่งจะครึ่งใบ เสี้ยวใบ ก็แล้วแต่ แต่ทั้งๆ ที่บรรดา “นักการเมือง” กว่าค่อนสภาฯ บวกกับรัฐมนตรีนั่น รัฐมนตรีนี่ บวกกับภาคประชาชนกว่าครึ่งพันองค์กร ฯลฯ ก็ยังไม่สามารถงัดง้าง แข็งข้อ ขัดขืน ต่อการยืนหยัด ยืนกราน การยืนกระต่ายขาเดียว หรือสองขา ของปลัดกระทรวงและบรรดาอธิบดี ที่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการวัตถุอันตรายได้เลย...

                                                                ----------------------------------------------

      ใครที่มีโอกาสได้อ่านบทสัมภาษณ์ของ คุณ วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี ใน ไทยโพสต์-แทบลอยด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คงอดไม่ได้ที่จะต้องถอนหายใจยาวๆ หรือต้องหาวเรออ์อ์อ์ ไม่รู้กี่เอิ๊กต่อกี่เอิ๊ก เพราะโดยคำพูด คำอธิบาย ที่ได้สะท้อนให้เห็นถึงฤทธิ์เดช ของสิ่งที่เรียกว่า ระบบราชการไทย อย่างแจ่มแจ้ง ชัดเจนนั้น ย่อมมิอาจปฏิเสธได้ว่าสิ่งที่ว่านี้ คงต้องถือเป็น ปัญหา  ในระดับ วาระแห่งชาติ กันเลยทีเดียว โดยเฉพาะถ้าหากต้องปล่อยให้เป็นไปกันแบบตามเรื่อง ตามราว หรือถ้ายังคงเพิกเฉย ละเลย ไม่หยิบมาเน้น มาให้ความสำคัญซะแต่เนิ่นๆ โอกาสที่ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา จะยกระดับ พัฒนา ไปสู่ ยุคชาววิไล ดังที่ใครต่อใครปรารถนาและต้องการ...คงลำบาก แค่ให้ได้เพียงเสี้ยวส่วนของความหล่อ ความเท่ แบบพระเอก กรุง ศรีวิไล ก็ยังน่าจะยากซ์ซ์ซ์เอามากๆ...

                                                                  -------------------------------------------------

      และแทบไม่ต้องสงสัยเลยว่า...เหตุใดที่ การปฏิรูป อันเป็นสิ่งซึ่งผู้คนนับจำนวนล้านๆ จะ 4 ล้าน 5 ล้าน 6 ล้านก็แล้วแต่ ออกมากำหมัด ชูกำปั้น ชูธง เรียกร้องให้มีการขับเคลื่อนกระบวนการดังกล่าว ไม่รู้จะกี่รูปต่อรูป ไม่ว่าปฏิรูปศึกษา ปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปพลังงาน ฯลฯ สุดท้าย...มันเลยต้องออกไปในแนว รูดแล้ว-รูดเล่า ซะเป็นหลักใหญ่ ยิ่งโดยเฉพาะ ปฏิรูปตำรวจ อันถือเป็นไฮไลต์ ยอดฮิต ยอดนิยม ด้วยแล้ว ไม่ว่าจะแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาปฏิรูปซักกี่ชุดต่อกี่ชุด ระดับลากเอา พระอาจารย์ ของนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรัฐประหาร มานั่งเป็นประธานก็แล้ว ผลักไสให้เป็นแค่คณะกรรมการก็แล้ว สุดท้าย...ก็แทบไม่ต่างไปจาก คณะกรรมการวัตถุอันตราย นั่นแหละ คือออกอาการย้วยไป-ย้วยมา และยื้อไป-ยื้อมา จนตราบเท่าทุกวันนี้...

                                                                   -------------------------------------------------

      ทั้งนั้น ทั้งนี้...ก็ด้วยเหตุเพราะสิ่งที่เรียกว่า ระบบราชการ หรือ พรรคข้าราชการ นั่นเอง อันเป็นสิ่งที่หัวหน้าคณะรัฐประหาร อย่างท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านอดไม่ได้ที่จะต้องถนอม กล่อมเกลี้ยง เอาไว้แต่แรก ซึ่งจะไปกล่าวโทษท่านคงไม่ถนัดซักเท่าไหร่ เพราะท่านก็คือ อดีตข้าราชการ มาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ก่อนจะเติบโตขึ้นมาเป็นหอยมือเสือ หรือเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ดังนั้น...จะให้ท่านตัดเยื่อ ตัดใย ตัดสินใจผ่าชำแหละ ระบบราชการในแต่ละรูป แต่ละแบบ มันคงหนักซะยิ่งกว่า หยิกเล็บ-เจ็บเนื้อ ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า ท่านเลยหนีไม่พ้นต้องหันมา ปฏิรูด แทน ปฏิรูป หรือหันมาใช้ยาหม่องทา ให้แค่หายบวม หายคัน ไปตามสภาพ...

                                                                      --------------------------------------------------

      ด้วยเหตุนี้...อิทธิฤทธิ์ อิทธิเดช ของบรรดาข้าราชการ อย่าง คณะกรรมการวัตถุอันตราย จึงเป็นอะไรที่แทบไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ อย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละทั่นเอ๋ย สามารถยื้อทุกสิ่งทุกอย่างให้ย้วยไป-ย้วยมา ชนิด 2 ปีกว่าๆ ก็ยังไม่หมดแรงยื้อ หรือกระทั่งผู้คนแทบทั้งประเทศ แทบทุกระดับ สามัคคีรวมพลังทั้งทุบ ทั้งกระแทก ทั้งกด ทั้งบีบ กันในลักษณะไหนก็ตาม ก็ยังเอาไม่อยู่ ยังกินกันไม่ลง สามารถแฉลบออกขวา-ออกซ้าย พร้อมที่จะตีลังกากลับ ซัมเมอร์ซอลท์แบบ 2 รอบ 3 รอบ ได้ทุกเมื่อ แล้วคราวนี้จะเอาไงดีล่ะท่าน!!!...เพราะเอาไป-เอามา คงไม่ใช่แต่เฉพาะ คณะกรรมการวัตถุอันตราย เท่านั้น แต่ยังมีอีกไม่รู้กี่สิบ กี่ร้อยคณะกรรมการ ที่บรรดาข้าราชการ หรือพรรคข้าราชการเข้าไปสอดแทรก ล้วนแล้วแต่สามารถออกฤทธิ์ ออกเดช ในลักษณะเดียวกันได้เสมอ??? ??? ???

                                                                        ---------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก David Gergen... Morality in government begins with officials using words as honestly as possible to describe the truth.- คุณธรรมของรัฐบาลมีจุดเริ่มต้น เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลใช้ถ้อยคำอย่างตรงไปตรงมาที่สุด ในการอธิบายความจริง...

                                                                            ---------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"