DSIแจงจีที200 ฟ้องศาล16คดี ปปช.โวคืบ80%


เพิ่มเพื่อน    

 “ดีเอสไอ” แจงคดีจีที 200 ฟ้องหมดแล้ว 16 คดี ส่วนราชการเสียหายอื้อ ศาลตัดสินแล้ว 3 กรณี “ป.ป.ช.” ยังมะงุมมะหงาฟันเจ้าหน้าที่ อ้างรอเอกสารจากเมืองผู้ดี คาดปลายปีหรือต้นปีหน้าชัดลงดาบใคร 

เมื่อวันศุกร์ คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีศาลแขวงดอนเมือง พิพากษาจำคุกผู้บริหารบริษัท เอวิเอ แซท คอมฯ ตัวแทนจำหน่ายเครื่องจีที 200 ให้กรมราชองครักษ์ จำนวน 9 ปี โดยไม่รอลงอาญา ว่าเป็นผลสืบเนื่องจากการที่กรมดำเนินคดีอาญากรณีส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐหลายหน่วยงานได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญากับผู้ลวงขายอุปกรณ์ตรวจระเบิด GT200 ให้หน่วยงาน เพราะอุปกรณ์ดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้จริงตามที่โฆษณาขาย ซึ่งกรมได้สืบสวนและรวบรวมหลักฐานแล้ว พบมูลความผิดจึงเสนอ  ต่อมาคณะกรรมการสิทธิพิเศษเพื่อมีมติรับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ ซึ่งมีการดำเนินคดีอาญาทั้งสิ้น 16 คดี มีส่วนราชการเสียหาย ประกอบด้วย สถาบันนิติวิทยาศาสตร์, กรมสรรพาวุธทหารบก, จังหวัดพิษณุโลก, กรมศุลกากร, กรมการปกครอง, กรมราชองครักษ์, จังหวัดเพชรบุรี, จังหวัดภูเก็ต, ตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี, จังหวัดยะลา, ตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท, องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา, ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองทัพเรือ และจังหวัดสุโขทัย
      แถลงการณ์ระบุอีกว่า ทุกคดีการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว และทยอยเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีในศาล ซึ่งผลคดีที่ปรากฏตามข่าวเป็นคดีที่ 3 ที่ได้พิพากษา โดยคดีแรกมีศูนย์รักษาความปลอดภัยกองบัญชาการกองทัพไทยเป็นผู้เสียหาย ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องคดีระหว่างอุทธรณ์ คดีที่ 2 กรมสรรพาวุธทหารบกเป็นผู้เสียหาย ศาลมีคำพิพากษาจำคุก ในความผิดฐานฉ้อโกง กระทงละ 3 ปี 12 กระทง รวม 36 ปี แต่ตามมาตรา 91 (1) แห่งประมวลกฎหมายอาญากำหนดให้จำคุกได้ไม่เกิน 10 ปี และมีโทษปรับ 72,000 บาท ส่วนคดีที่ 3 คือคดีที่กรมราชองครักษ์เสียหาย ศาลพิพากษาจำคุกในความผิดฐานฉ้อโกง กระทงละ 3 ปี รวม 3 กระทง เป็นเวลา 9 ปี และปรับ 18,000 บาท ซึ่งเนื่องจากเป็นคดีที่สาธารณชนให้ความสนใจ หากมีคำพิพากษาศาลเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติม กรมจะนำเสนอข้อมูลต่อสาธารณชนต่อไป
     ขณะที่ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ข้อกล่าวหาที่มีต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งอนุมัติจัดซื้อเครื่องจีที 200 นั้น ดีเอสไอได้รวบรวมหลักฐานและส่งสำนวนไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวนแล้ว เนื่องจากเป็นคดีที่อยู่นอกเหนืออำนาจของดีเอสไอ
    ด้านนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวในเรื่องนี้ว่า ป.ป.ช.มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย 1.กรมสรรพาวุธทหารอากาศ 2.กรมสรรพาวุธทหารบก 3.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ 4.ตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท และ 5.กรมศุลกากร โดยมีนายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร ป.ป.ช. ประธานอนุกรรมการไต่สวนรับผิดชอบ ซึ่งได้ไต่สวนข้อเท็จจริงไปแล้วมากกว่า 80%
     "ล่าสุด ป.ป.ช.เพิ่งได้รับสำเนาคำพิพากษาและเอกสารประกอบจากศาลประเทศอังกฤษ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบคำพิพากษาและเอกสารต่างๆ ว่าจะมีพยานหลักฐานเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่ของรัฐไทยว่ามีส่วนร่วมทุจริตหรือไม่อย่างไร ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม รวมทั้งนายสุรศักดิ์ยังได้สั่งให้ขอคำพิพากษาฉบับสมบูรณ์จากศาลแขวงดอนเมืองมาพิจารณาประกอบการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ป.ป.ช.แล้ว และเร่งรัดเรื่องนี้ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จประมาณปลายปี 2561 หรืออย่างช้าต้นปี 2562" นายวรวิทย์กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"