ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง 'ร.ต.อ.' แจ้งจับ 'พ.ต.ท.' รีดเงินล้าน!


เพิ่มเพื่อน    

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ

1 ต.ค.61 - พ.ต.อ.กฤษณะ  พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่นายสุวิทย์ สุทรวิทย์ อายุ  39 ปี พ่อค้าเห็ด ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรับเงิน ต่อมาได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งความกลับ ในเขตพื้นที่ สภ.บางบาล ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.บางบาล ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2561  นายสุวิทย์ สุทรวิทย์ อายุ  39 ปี มาแจ้งความถูกกรณีวันที่ 30 ส.ค. 61ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุทธยา นำโดย ร.ต.อ.อัฐพร สุขญาณกิจ รอง สว.ภ.จว.พระนครศรีอยุทธยา  พร้อมพวก จำนวน 5 นาย  เข้ามาทำการรื้อค้นบ้านของผู้เสียหาย และต่อมาได้พาตัว นายสุวิทย์ ไปที่ กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา  และบังคับให้ นายสุวิทย์ ให้นำเงินจำนวน 20,000 บาท มาจ่ายเพื่อแลกกับการปล่อยตัว ต่อมาเมื่อกลุ่มตำรวจรับเงินจากนายสุวิทย์ แล้วก็ได้ปล่อยไป  จนกระทั่งนายสุวิทย์ ได้เดินทางมาแจ้งความกับกลุ่มชายดังกล่าวตามวันเวลาข้างต้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2561 เวลา 13.00 น. ร.ต.อ.อัฐพร เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกกล่าวอ้าง ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี กับนายสุวิทย์  พ.ต.ท.อรรถพล วงศ์รเศษฐ์ สว.กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุทธยา  ร.ต.อ.ณัฐพล สุขสะอาด  พร้อมพวกรวม 5คน  ในข้อหา “ร่วมกันแจ้งความเท็จฯ,หมิ่นประมาททางสื่ออิเลคทรอนิคส์ฯ,ร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานหมายกรรโชกทรัพย์,เป็นเจ้าหนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ”  โดยทาง ร.ต.อัฐพร แจ้งความดำเนินกับ พ.ต.ท.อรรถพล นั้น ยืนยัน พ.ต.ท.อรรถพล ได้โทรมาข่มขู่ที่แจ้งความกลับนายสุวิทย์ และยังมีการต่อรองเงินจาก 1 ล้านบาท เหลือ 5 แสน บาท กลับการที่นายสุวิทย์จะไม่แจ้งความกรรโชกทรัพย์ ขณะนี้ทาง สภ.บางบาล นั้น ได้รับคำร้องทุกข์ไว้ตามกฎหมายแล้ว  และอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะได้ดำเนินคดี  และได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว หากได้ข้อสรุปเป็นประการใดก็จะได้ดำเนินการต่อไป

รองโฆษก ตร. กล่าวต่อว่า ยังกล่าวต่ออีกว่า ในกรณีดังกล่าวการกระทำผิดกฎหมายเป็นเรื่องของความประพฤติส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับองค์กรแต่อย่างใด ยืนยันทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไม่มีการปกป้องข้าราชการตำรวจที่กระทำผิดกฎหมายอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งพนักงานสอบสวนและคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง จะดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่ ตามกรอบกฎหมาย และระยะเวลาที่กำหนด 

ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการมาโดยตลอด ห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปยุ่งเกี่ยว เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหน้าที่อันเป็นการเหลื่อมล้ำกับกฎหมาย สร้างความเดือนร้อนแก่พี่น้องประชาชน โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานด้วยความสุจริต เป็นธรรม ให้บริการประชาชนด้วยใจ เสมือนเป็นคนในครอบครัว นึกถึงความเดือดร้อน หรือปัญหาต่างๆที่ประชาชนมาขอความช่วยเหลือเป็นสำคัญ คอยบำบัดทุกข์บำรุงสุกแก่ประชาชน ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบของกฎหมาย พร้อมกำชับผู้บังคับบัญชา คอยสอดส่องดูแล ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิดทั้งในเวลาราชการและนอกเวลาราชการ หากพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความพฤตินอกรีต ไปเรียกรับเงินทอง เรียกรับผลประโยชน์อื่นใด หรือแม้กระทั่งใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ จะดำเนินทางวินัยและอาญา อย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดีอยู่แล้ว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"