เบิกจ่ายภาพรวม-ลงทุนปีงบ 61 วืดเป้าหมาย


เพิ่มเพื่อน    

 

 เบิกจ่ายภาพรวม-ลงทุนปีงบประมาณ 2561 กอดคอกันวืดเป้าหมาย “ขุนคลัง” แจงเหตุตั้งธงไว้สูงจัด ฟุ้งจัดเก็บรายได้แจ่ม เกินเป้าหมาย 2 หมื่นกว่าล้านบาท พร้อมกำชับส่วนราชการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2562 ให้ได้ตามที่ตั้งไว้

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวงการคลัง ว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้รายงานภาวะเศรษฐกิจโลกรวมถึงประเทศไทยว่าสามารถขยายตัวได้ทุกภาคส่วน ขณะที่การเบิกจ่ายภาครัฐปีงบประมาณ 2561 ในส่วนของจำนวนเงินเบิกจ่ายได้มากกว่าปีงบประมาณที่ผ่านมา แต่สัดส่วนต่ำกว่าปีที่ผ่านมาเนื่องจากตั้งเป้าหมายไว้สูง

สำหรับการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2561 ทำได้เกินเป้าหมาย 2 หมื่นกว่าล้านบาท หากไม่รวมการจัดทำงบประมาณกลางปีจะเกินเป้าหมาย 7 หมื่นล้านบาท ในส่วนภาพรวมของการเก็บภาษีก็ทำได้ใกล้เคียงเป้าหมายเช่นกัน มีเพียงกรมศุลกากรที่เก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้าหมาย เพราะไปทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียนไว้กับประเทศต่าง ๆ ไว้มาก ซึ่งเป็นเรื่องปกติ

"ได้เร่งกำชับให้ผู้บริการกระทรวงการคลัง เร่งการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2562 ให้ได้ตามเป้าหมาย และเร่งดำเนินการรับจ่ายเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ให้หมด เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับกระทรวงหรือหน่วยงานอื่นๆ ทำให้ได้ทั้งหมด โดยทุกหน่วยงานของกระทรวงการคลังจะเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แม้ว่าปีหน้าจะมีการเลือกตั้งใหม่ ก็ยังทำงานเต็มที่ไม่มีใครหยุดหรือเกียร์ว่าง" นายอภิศักดิ์ กล่าว

นางญาณี แสงศรีจันทร์ โฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 (1 ต.ค. 2560 - 28 ก.ย. 2561) ว่า มีการเบิกจ่ายงบประมาณภาพรวมได้จำนวน 2.66 ล้านล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 92% ต่ำกว่าปีก่อน 2.6% โดยปีงบประมาณ 2560 เบิกจ่ายได้ 94.6%

สำหรับรายจ่ายลงทุนเบิกจ่ายได้จำนวน 3.73 แสนล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 6.59 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 56.5% ต่ำกว่าปีก่อน 9.4%  โดยปีงบประมาณ 2560 เบิกจ่ายลงทุนได้ 65.9% ในส่วนของเงินงบประมาณที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี เบิกจ่ายแล้วจำนวน 2.15 แสนล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 3.23 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 66.4%

 ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2562 กรมบัญชีกลางได้เร่งทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ เพื่อให้หน่วยงานสามารถปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง และคล่องตัวขึ้น โดยได้มีการซ้อมความเข้าใจและกำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อเร่งรัดจัดการหาพัสดุฯ ไปก่อนหน้านี้ โดยหน่วยงานของรัฐสามารถเริ่มกระบวนการจัดหาพัสดุได้ตั้งแต่ได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้าง

 อย่างไรก็ดี หากหน่วยงานสามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างได้ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ จะช่วยให้การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของหน่วยงานของภาครัฐเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้น ในปีนี้จะให้แต่ละหน่วยงานตั้งคณะทำงานดูแล ติดตามการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงิน และแจ้งปัญหาอุปสรรค เพื่อให้สามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที และส่งผลให้เม็ดเงินในการเบิกจ่ายช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"