หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พรรคหนุน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้เป็น "นายกฯ" อีกสมัย อย่างพรรค “พลังประชารัฐ” หรือ "พปชร." ที่เลือกวางตัว 4 รัฐมนตรี เปิดหน้าสู้สังเวียนการเมือง ทั้ง "อุตตม สาวนายน" รมว.อุตสาหกรรม ว่าที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ "สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" รมว.พาณิชย์ ว่าที่เลขาธิการพรรค "สุวิทย์ เมษินทรีย์" รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่าที่รองหัวหน้าพรรค และ "กอบศักดิ์ ภูตระกูล" รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าที่โฆษกพรรค

     โดยยก “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เป็นที่ปรึกษาทางใจ!!!!

     ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากฝ่ายการเมืองว่า 4 รมต.สวมหมวก 2 ใบ เอาเปรียบประชาชน ไร้ธรรมาภิบาล และส่งผลให้พรรคที่มีคนของรัฐบาลได้เปรียบทุกประตู

ขณะที่ “บิ๊กตู่” ที่คุมเชิง สงวนท่าทีอยู่ข้างบน ล่าสุดเริ่มขยับเดินสายลงพื้นที่พบประชาชนอีกครั้ง และถือเป็นครั้งแรกหลังประกาศท่าทีสนใจการเมือง และมีการเปิดตัวพรรค พปชร.อย่างเป็นทางการเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

     ในวันที่ 3 ต.ค. "บิ๊กตู่" จะเดินทางไปตรวจราชการ จ.ลำพูน มีกำหนดการคร่าวๆ เยี่ยมชมเส้นทางท่องเที่ยวเมืองรอง ตามโครงการ "ไทยเที่ยวไทย ไทยยั่งยืน" พร้อมนั่งขบวนรถรางชมวิถีชีวิตชาวเหนือ และสักการะอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ร่วมกิจกรรมถวายโคมบูชาแด่พระนางจามเทวี

     จากนั้นจะสักการะพระรอดลำพูน ร่วมกิจกรรมกดพิมพ์พระรอด สักการะกู่ช้าง-กู่ม้า ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวลำพูน ชมการแสดงตีกลองสะบัดชัยและฟ้องเจิง และสักการะพระประธานในวิหารหลวง วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในภาคเหนือ พร้อมทำพิธีสวดเรียกขวัญ โดยพระเทพรัตนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน

     ก่อนเยี่ยมชมลานวัฒนธรรม หมู่บ้านโอท็อปนวัตวิถี การแสดงของเยาวชนกลุ่มชาติพันธุ์ของ จ.ลำพูน การแสดงหมู่บ้านคนมอญ และกิจกรรมคุณธรรม เยี่ยมชมตลาดขัวมุงท่าสิงห์ และผลิตภัณฑ์โอท็อป แล้วไปยังชุมชนท่องเที่ยวบ้านหนองเงือก เพื่อร่วมประกาศ "ลำพูนเมืองสะอาด ปราศจากโฟม" และจะพบปะกับประชาชนชาวลำพูนด้วย

     สำหรับการแอ่วเหนือครั้งนี้ ไม่ปรากฏชื่อ 4 รัฐมนตรี ที่ประกาศทำงานการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐร่วมทีมไปด้วย จากเดิมทั้งหมดซึ่งเป็นรัฐมนตรีในกระทรวง ที่มีความเกี่ยวข้องกับแผนงานการลงพื้นที่ จะต้องไปรับฟังความคิดเห็น และติดตามงานด้านต่างๆ ในความรับผิดชอบด้วยทุกครั้ง

     นั่นน่าจะเป็นการรักษาที่ป้องกันข้อครหา ใช้เวลาราชการเอาเปรียบทางการเมือง ตามที่ "บิ๊กตู่" เน้นย้ำ 4 รัฐมนตรีให้ระมัดระวัง ทำทุกอย่างให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสม อย่าใช้อำนาจในทางการเมือง

     แต่ถึงแม้จะกัน 4 รัฐมนตรี ไม่ให้ถูกฝ่ายการเมืองพาดพิง ยกเหตุผลการลงพื้นที่มารุมทึ้ง ว่าได้เปรียบเสียเปรียบในสนามแข่งขันได้ แต่ทว่าทุกแรงเสียดทานและแรงกดดันทั้งหมด จะกลับมาตกที่ "บิ๊กตู่" เสียเอง เพราะถูกมองเกี้ยเซี้ยกับพรรค พปชร.มาตั้งแต่ต้น

     การลงพื้นที่ครั้งนี้จึงไม่แปลกที่ทุกฝ่ายจะจับจ้องหรือจับผิดท่าทีของ “บิ๊กตู่” ว่าอาจสวมบทนักการเมืองที่เด่นชัดขึ้น และอาจใช้จังหวะนี้หยั่งเชิงคะแนนเสียงชาวลำพูน แทน 4 รมต.แห่ง “พลังประชารัฐ” ไปด้วย!!!.