ว่าด้วยรายการกำจัดจุดอ่อน


เพิ่มเพื่อน    

      ถึงจะจงเกลียด-จงชัง กันเพียงใดก็ตามที...แต่คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้นั่นแหละว่า เท่าที่ผ่านมา 4 ปี 5 ปี รัฐบาล คสช.และตัวของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ นั้น ท่านก็ได้ทำอะไรต่อมิอะไรให้กับชาติบ้านเมืองเอาไว้มิใช่น้อย ส่วนไอ้ที่ไม่น่าจะทำ หรือไม่ควรทำนั้น คงไม่ต้องเสียเวลาพูดถึง เพราะไม่ว่ารัฐบาลไหนต่อรัฐบาลไหนก็เถอะ ย่อมต้องมีได้มั่ง-เสียมั่ง ดีมั่ง-ไม่ดีมั่ง ตามปกติธรรมดาของความเป็นรัฐบาล หรือความเป็นผู้มีอำนาจ ไปตามสภาพ...

                                                              ------------------------------------------------------------

      แต่สิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างจะเป็น ดอกเตอร์อ้อ หรือเป็น วีคเกสท์ลิงค์ เป็นรายการ กำจัดจุดอ่อน ของรัฐบาล คสช.เค้ามาโดยตลอด ก็น่าจะเป็นเรื่องของการ โปรโมต หรือการ โฆษณาประชาสัมพันธ์ นั่นแหละ ที่อาจถือเป็นจุดอ่อนชนิดกำจัดยังไงก็ยังกำจัดไม่ได้หมดกันไปซะที ยังออกไปทางเชยซ์ซ์ซ์แล้ว เชยซ์ซ์ซ์เล่า เชยซ์ซ์ซ์ชนิดไม่แล้วเสร็จ เรียกว่า...ไม่ต้องดูอะไรมาก แค่ดูตัว มาสคอต อย่าง น้องเกี่ยวก้อย ที่บรรดาพวกนักประชาสัมพันธ์ของทหาร เค้าอุตส่าห์ขุดออกมาจากหลุม มาใช้เป็น สัญลักษณ์ ในการปรองดอง ให้พวกเหลือง พวกแดง เลิกโกรธ เลิกทะเลาะกัน อันนี้...ต้องเรียกว่า เล่นเอา หลอนน์น์น์ กันไปทั้งบ้าน ทั้งเมือง เปลี่ยนจากความโกรธ ความเกลียด กลายมาเป็นความเขย่าขวัญ โดยถ้วนหน้าไปด้วยกันทั้งหมด...

                                                               --------------------------------------------------------

      คือไม่ว่าจะมี สื่อ กี่สื่อต่อกี่สื่ออยู่ในมือ มีเวลายืดยาว อีเหลนเป๋น แถมผูกขาดให้ต้องรับฟัง รับชม อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ในทุกๆ วัน ทุกๆ สัปดาห์ ต่อเนื่อง ยาวนาน ไปในระดับ 4 ปี 5 ปี เอาเลยถึงขั้นนั้น แต่ถ้าลองว่า เชยซ์ซ์ซ์ ซะอย่างแล้ว ยิ่งฟัง...ก็ยิ่งมีแต่ง่วงกับง่วง เผลอๆ...อาจถึงขั้นโดนวิญญาณ นางคอนโดฯ เข้าสิง ออกอาการคล้ายประเภทได้ยินเสียง ระฆังวัด เอาเลยก็ไม่แน่!!! ยังไม่ทันได้พูด ไม่ทันได้ขยับปากเอาเลยแม้แต่นิด แต่พอเห็นแวบๆ ไหวๆ ว่ายังไงๆ ต้องมีหน้า บิ๊กตู่ โผล่ออกมาอยู่แล้วแน่ๆ รีหม่ง รีโมต ก็ถูกคว้าออกมาหมุบๆ หมับๆ หนุบๆ หนับๆ โดยฉับพลันทันที...

                                                                   ---------------------------------------------------------

      อะไรที่มันน่าจะดีๆ...ไม่ว่าดีวันจันทร์ วันอื่นอาจจะงั้นๆ หรือไม่ อย่างไร ก็แล้วแต่ มันเลยไม่ได้มีโอกาสเข้าหู เข้าตา สามารถสอดแทรก ซึมซ่าน เข้าไปในประสาทสัมผัสทั้ง 5 ความรู้สึกเบื่อๆ เหนื่อยๆ หน่ายๆ มันเลยค่อยๆ สะสม สั่งสม จนอะไรต่อมิอะไรที่เคย โด่ไม่รู้ล้ม เริ่มออกไปทาง ก๊วยเตี๋ยวเวียดนาม กันจนได้ ยิ่งถ้าหากต้องต่อไปอีก 4 ปี 5 ปี ในอนาคตข้างหน้า หรือต้องต่อจาก โรดแมป ไปยัง โรดหมับ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยทำให้ออกไปทางไม่ค่อยสด ไม่ค่อยเฟรชชี่ หรือออกจะหนืดๆ ชืดๆ ไม่ได้หวือหวา วูบวาบ เหมือนบรรดาพวกพรรคการเมืองทั้งหลาย ที่มีเวลาพักผ่อน เอาแรง ถึง 4 ปี 5 ปี เลยออกอาการคึกๆ คักๆ สามารถสร้าง ความเปรี้ยว ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยเฉพาะในช่วงระหว่างนี้...

                                                                      ----------------------------------------------------------

      แม้จะเริ่มเปิดตัว เปิดผ้าม่านกั้ง ให้เห็นถึงความเป็น พรรครัฐบาล หรือ พรรคทหาร เหมือนอย่างใครๆ เขามั่ง อย่างเช่นพรรค พลังประชารัฐ เป็นต้น แต่จะด้วยเหตุเพราะติดอยู่ในกรอบ ติดอยู่ในกระบวนทัศน์ แห่งความ เชยซ์ซ์ซ์ มาตั้งแต่ต้น หรือไม่ ประการใด ก็มิอาจสรุปได้ แทนที่จะช่วยให้เกิดความคึกคัก โครมคราม กลับกลายสภาพเป็น ตำบลกระสุนตก ไปซะเฉยเลย บรรดา มือเศรษฐกิจ ที่คัดเอามาจากประเภทเทคโนคร่ง เทคโนแครต เพียบพร้อมไปด้วยอินทิลิจ๊ง อินทิลิเจ๊นซ์ ระดับ 4.0 ไปด้วยกันทั้งสิ้น แวบเดียวกลับต้องกลายสภาพเป็น มือการเมือง ระดับ 0.4 กันเป็นรายๆ คือไม่ว่าเก่งยังไง ฉลาดยังไง เจอเข้ากับข้อหา กรรมการแปลงตัวเป็นผู้เล่น ก็เล่นเอาขยับขาแทบไม่ออก ไปแล้วในทุกวันนี้...

                                                                        -----------------------------------------------------

      คือเรื่องของ ความเชยซ์ซ์ซ์ นั้น...คงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า มันเป็นเรื่องที่ติดตัว หรืออาจติดมากับ สัญชาตญาณ ของบรรดา ข้าราชการประจำ ทั้งหลายมาโดยตลอดก็ว่าได้ ยิ่งเป็น ข้าราชการทหาร ด้วยแล้ว ถ้าหากไม่เชยซ์ซ์ซ์ก็อาจเป็นทหารได้ไม่ถึงกับถนัดถนี่ซักเท่าไหร่ หรืออาจ ไม่ถึงกับรุ่ง อะไรมากมาย บรรดาทหารที่ก้าวหน้า ทันสมัย และพัฒนา ในแต่ละรุ่นๆ ไม่ว่าตั้งแต่รุ่น พลเอกทวิช เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา, พลเอกสัณห์ จิตรปฏิมา, พลเอกหาญ พงศ์สิฏานนท์ หรือแม้แต่ไล่ลงมาถึงรุ่น พลเอกหาญ ลีนานนท์, พลเอกกิตติ รัตนฉายา ฯลฯ ส่วนใหญ่แล้ว...แม้พออยู่ๆ กันไปได้ แต่คง ไม่ถึงกับรุ่ง อะไรมากมายนัก...

                                                                           -----------------------------------------------------------

      และด้วยเหตุที่ ความเชยซ์ซ์ซ์ นั้น...มันเป็นสิ่งคุ้นเคย เป็นสิ่งที่อยู่คู่เคียงกับบรรดาข้าราชการประจำ ข้าราชการทหาร มาโดยตลอด ในจังหวะที่บรรดาทหาร หรืออดีตทหารทั้งหลาย จำต้อง เปลี่ยนไลน์ หรือเปลี่ยนเส้นทาง หันมา สนใจการเมือง นี่เอง มันเลยต้องหาทาง กำจัดจุดอ่อน กันอีกเยอะ ซึ่งถ้ากำจัดไม่ได้ หรือไม่ให้ลดน้อยถอยลงอย่างเท่าที่ควรจะเป็น ด๊อกเตอร์อ้อ ท่านอาจปรับให้ ตกรอบ รายการ วีคเกสต์ลิงค์ เอาง่ายๆ ส่วนถ้าเป็น ด๊อกเตอร์อ้อ โดยลำพัง คงไม่ถึงกับหนักหนา สาหัส ซักเท่าไหร่ เพราะเป็นเรื่องที่ผู้นำทหารปัจจุบัน อย่าง บิ๊กแดง สามารถไปตกลงกันเองภายในครอบครัวได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ แต่ถ้าหากวันหนึ่ง วันใด ในอนาคตข้างหน้า ที่ผู้คนในระดับสังคมทั้งสังคม เกิดรับไม่ได้กับ ความเชยซ์ซ์ซ์ ในบางเรื่อง บางราว ขึ้นมา อันนี้นี่แหละ...ย่อมส่งผลให้แม้แต่ บิ๊กแดง ย่อมหนีไม่พ้นต้องพลอยปวดหัว เวียนเฮด ตามไปด้วย อย่างมิอาจปฏิเสธได้...

                                                                            --------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Thomas Hardy... You can do anything with bayonets except sit on them.- ท่านจะใช้ดาบทำอะไรก็ได้ เว้นแต่ใช้นั่ง...

                                                                            --------------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"