อส.สารภาพฆ่า-แล่หมีขอ โยน2คนเฝ้าสำนักสงฆ์ยิง


เพิ่มเพื่อน    

    "บิ๊กตู่" สั่งฟันปลัดอำเภอ-แก๊งออฟโรดล่าสัตว์ป่าไม่มีละเว้น "ศรีวราห์" ลงพื้นที่เค้นสอบ "อส.ด่านมะขามเตี้ย" ยอมสารภาพแต่งเรื่องซื้ออุ้งเท้าหมีขอจากชาวบ้าน รับใช้ปืนยิงมาชำแหละ ปัดไม่ได้ลงมือเอง โยน 2 ต่างด้าวเฝ้าสำนักสงฆ์ทำ ตำรวจจับ "ลุงปลัดอำเภอ" เพิ่มอีกราย พร้อมแจ้งข้อหาเด็กช่วยนำปืนของกลางไปซุกซ่อน
    เมื่อวันที่ 10 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ยและอาสาสมัคร (อส.) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปมีส่วนในการล่าหมีขอ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค จ.กาญจนบุรี ว่าเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกันกับคดีเดิม คือคดีเสือดำ ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมยังมีคนประเภทนี้อีก ตอนนี้กำลังสอบสวน และทราบว่าได้ให้ออกจากราชการเอาไว้ก่อนตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อสอบสวนและนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่มีละเว้นให้ใครทั้งสิ้น
    “น่าสงสารสัตว์นะ ไม่รู้จะฆ่ามันทำไม มีอะไรให้กินตั้งเยอะแยะ และตัวเองก็เป็นข้าราชการด้วย ยิ่งไม่เหมาะสมใหญ่” นายกฯ กล่าว
    พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า การดำเนินการทางวินัยเป็นเรื่องของผู้ว่าฯ จังหวัดกาญจนบุรี ที่จะต้องเข้าไปสอบสวน ส่วนทางอาญาเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่ามีการแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งต้องดำเนินการไป ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมายทุกอย่าง
    ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. กล่าวก่อนเดินทางลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจดูสำนวนคดีว่า คดีนี้พนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค แจ้งข้อกล่าวหานายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย กับพวก รวม 11 ข้อหา ซึ่งล่าสุดได้จับนายสมเกียรติ เพ็งนาเรนทร์ ลุงของปลัดวัชรชัยเพิ่มเติมได้ที่ จ.ราชบุรี หลังจากพบหายตัวไประหว่างที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคเข้าจับกุม
    นอกจากนี้ พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ รรท.ผบช.ภ.7 รายงานผลการเข้าเก็บหลักฐานอย่างละเอียด สอบพบวัตถุพยานเพิ่มเติมคือ ชิ้นส่วนกรามล่างของสัตว์ป่าขนสีดํา, เศษชิ้นเนื้อ, กระป๋องเบียร์เปล่า, มีดอีโต้, เขียงไม้ และหม้ออะลูมิเนียม บริเวณเรือนที่พักผู้มาทําบุญ สํานักสงฆ์เหมืองเต่าดํา พบขวดน้ำพลาสติกบรรจุปลอกกระสุนปืนขนาด .45, 9 มม. จํานวนหนึ่งและเศษถุงพลาสติก 
    พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า จากการขยายผลทราบว่า น.ส.ศรีวิจิตร ดิษแช่ม และนายทัศดนัย ขอกระโชก  ผู้ต้องหาร่วมในคดีนี้ ต่างพกพาอาวุธปืนเข้าไปในที่เกิดเหตุ โดยซุกซ่อนไว้ในรถกระบะที่นายทัศดนัยขับ แต่ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นไม่พบอาวุธปืนดังกล่าว โดยเมื่อผู้ต้องหาถูกนําตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ได้ให้ ด.ช.เอ (นามสมมติ) ซึ่งมาเยี่ยมผู้ต้องหา นําอาวุธปืนดังกล่าวกลับไปไว้ที่บ้านพัก จึงแจ้งข้อกล่าวหากับ ด.ช.เอ ว่า “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และไม่มีเหตุเร่งด่วนตาม สมควรแก่พฤติการณ์” พร้อมยึดอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 จํานวน 1 กระบอก และขนาด 11 มม. จํานวน 1 กระบอก ไว้เป็นของกลางในคดีเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีตามกฎหมาย
    ต่อมา พล.ต.อ.ศรีวราห์และคณะเดินทางถึง สภ.ไทรโยค เจ้าหน้าที่นำตัวนายอนุสรณ์ เรือนงาม อส.ด่านมะขามเตี้ย หนึ่งในผู้ต้องหาร่วมคดีนี้ เข้าห้องเพื่อให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์สอบปากคำด้วยตนเอง โดยในครั้งแรกนายอนุสรณ์ให้การว่าทั้งหมดเข้าไปสำนักสงฆ์เพื่อนำสิ่งของไปมอบให้พระ และปฏิเสธว่าไม่ได้ล่าสัตว์ แต่ซื้อขาหมีขอมาจากชาวบ้านที่ขี่รถจักรยานยนต์มาขายให้ในราคา 100 บาท เพื่อนำไปทำยา ส่วนอาวุธปืนยาวขอยืมพี่ชายติดตัวไปเท่านั้น แต่หลังจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์สอบสวนหนักขึ้น จึงยอมเปิดปากสารภาพว่าได้ร่วมกันล่าสัตว์ป่าและยิงหมีขอจริง
    นายอนุสรณ์ระบุว่า เมื่อพักแรมกันที่บริเวณสำนักสงฆ์ นายต้าได้ชักชวนไปล่าสัตว์ และได้ร่วมกันล่าหมีขอจริง แต่ไม่ได้เป็นคนลงมือยิง นายตาต้าที่เป็นคนเฝ้าสำนักสงฆ์เต่าดำเป็นคนลงมือยิง โดยใช้อาวุธปืนยาวไรเฟิลขนาด.22 แอลอาร์ ซึ่งอาวุธปืนตนได้ขอยืมมาจากพี่ชายจะนำเข้าไปยิงแก้บน และนำซากมาทำที่ริมห้วยน้ำข้างที่พัก แต่นายตาต้ากับนายจิระที่เป็นคนดูแลสำนักสงฆ์อีกคนเป็นผู้ลงมือแล่หมีขอ จากนั้นก็นำเนื้อหมีขอไปปรุงทำอาหาร แต่ตนไม่ได้กินด้วย 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทราบในรายละเอียด พล.ต.อ.ศรีวราห์ได้สั่งการให้ไปนำตัวนายตาต้าและนายจิระ 2 ชาวเมียนมา คนดูแลสำนักสงฆ์มาสอบสวน รวมทั้งให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในแต่ละแห่งตามเส้นทางที่เริ่มเดินทางจนเข้าป่า อีกทั้งได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจเข้ามาดำเนินการ
    พล.ต.อ.ศรีวราห์ยอมรับว่า คดีหมีขอยากกว่าคดีเสือดำ เนื่องจากคดีนี้วัตถุพยานที่ชี้ชัดว่ายิงหมียังไม่ชัดเจน ไม่มีหลักฐานแน่ชัดเหมือนอย่างหนังเสือดำที่พบรูกระสุนปืน ก็ต้องหาพยานหลักฐานให้มากขึ้น
    วันเดียวกัน กลุ่มลูกศิษย์สำนักสงฆ์เต่าดำ ป่าเขาพลู ต.วังกระแจ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เป็นพื้นที่ปฏิบัติธรรมที่มีพระอาจารย์สิริปันโน อดีตทายาทมหาเศรษฐีชาวมาเลเซีย ตัวแทนวัดป่านานาชาติ เป็นพระดูแลสำนักสงฆ์ กล่าวถึงกลุ่มออฟโรดของนายวัชรชัย สมีรักษ์ อดีตปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี เข้ามาตั้งเต็นท์พักแรมบริเวณสำนักสงฆ์ว่า กลุ่มดังกล่าวไม่ได้เข้าไปถวายของให้กับสำนักสงฆ์ตามที่มีการอ้าง แต่มาใช้เส้นทางไปสำนักสงฆ์พักแรมเท่านั้น ซึ่งเคยทำมาแล้วประมาณ 2-3 ครั้งด้วยกัน
    กลุ่มลูกศิษย์สำนักสงฆ์เต่าดำกล่าวว่า สำหรับหมีขอที่พบเพียงขา 4 ข้างนั้น คาดว่าน่าจะถูกล่าในช่วงระหว่างทางจากด่านป่าไม้กับหน้าที่เข้าสำนักสงฆ์ ที่มีสัตว์อยู่ตามข้างทางเป็นปกติ และหากเลยที่ตั้งสำนักสงฆ์ไปนั้น ยังมีสัตว์ป่าอีกหลายชนิดด้วยกันที่ชีวิตอย่างสงบสุข
    "อยากให้ตำรวจดำเนินคดีนี้อย่างจริงจัง และให้เร่งรัดทำด่านถาวรระหว่างด่าน ตชด.กับด่านป่าไม้ ที่เนินเขาพลู ซึ่งอยู่ระหว่างกรมป่าไม้พิจารณางบประมาณ เพราะหากมีด่านดังกล่าวจะช่วยตรวจสอยคัดกรองการเข้าพื้นที่ได้อีกชั้นหนึ่งด้วย" กลุ่มลูกศิษย์สำนักสงฆ์เต่าดำกล่าว
    ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  ดร.กณิตา อุ่ยถาวร หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับมอบซากสัตว์ป่าของกลางกรณีล่าหมีขอจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี  
    ดร.กณิตากล่าวว่า สำหรับหลักฐานมีทั้งสิ้น 11 รายการ ทั้งนี้ ขั้นตอนการตรวจ DNA เพื่อเชื่อมโยงกับวัตถุพยานและหลักฐานในที่เกิดเหตุ ต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เนื่องจากวัตถุพยานที่พบมีหลายชิ้น และจุดเกิดเหตุต่างกัน ทั้งอุ้งเท้า กรามล่าง ขนสัตว์ คราบเลือดที่ติดเขียงไม้ และวัตถุพยานอื่นๆ โดยการตรวจก็เพื่อพิสูจน์ว่าหลักฐานแต่ละชิ้นตรงกันหรือไม่ และมาจากสัตว์ชนิดใด มาจากสัตว์ตัวเดียวกันหรือไม่ และเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทใด 
    "ในส่วนของอุ้งเท้าสัตว์ที่กลุ่มผู้ต้องหาได้ย่างลักษณะรมควันเพื่อถนอมสภาพนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นปัญหาต่อการตรวจ เพราะเนื้อด้านในยังคงสภาพ ไม่เน่าเปื่อย" หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่ากล่าว. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"