จบแต่เหมือนไม่จบสำหรับกรณี รศ.ดร.ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า มีคำสั่งตอนตีหนึ่งไม่ให้สำนักวิจัยนิด้าโพลเผยแพร่ผลสำรวจความเห็นประชาชน หัวข้อ นาฬิกาหรูของบิ๊กป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ที่ประชาชนส่วนใหญ่ตอบแบบสำรวจว่า ไม่เชื่อว่าบิ๊กป้อมยืมนาฬิกาเพื่อนมาใส่

      เพราะแม้ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ที่เพิ่งมาเป็น ผอ.นิด้าโพลได้แค่สองสัปดาห์ ปัจจุบันจะได้ลาออกจากผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น นิด้าโพล ไปแล้วเมื่อ 29 ม.ค. แต่ดูเหมือนเรื่องยังไม่จบง่ายๆ เพราะยังคงเป็นประเด็นทางการเมืองที่ต้องขยายผลต่อไป

      ขณะเดียวกันพบว่าในรั้ว นิด้า-ย่านหัวหมาก เหล่าคณาจารย์ก็มีความเห็นที่ไม่ตรงกันต่อกรณีที่เกิดขึ้น

      ประเมินได้ว่าเรื่องนี้ย่อมมีอาจารย์นิด้าบางคนเห็นด้วยกับการสั่งเบรกของ ดร.ประดิษฐ์ อธิการบดีนิด้า เพราะมองว่าการตรวจสอบบิ๊กป้อมโดย ป.ป.ช.ยังไม่มีข้อสรุป จึงไม่ควรนำผลโพลมาชี้นำสังคม  และเชื่อว่าท่าทีของ ดร.ประดิษฐ์ที่สั่งเบรกดังกล่าว ไม่ใช่หวังผลการเมืองเพื่อจะไปต่อทางการเมือง จากเก้าอี้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อรอเป็น ส.ว.ชุดใหม่ที่ คสช.จะตั้งขึ้น 

      แต่ก็ย่อมมีอาจารย์นิด้าฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับอธิการบดีแน่นอน ด้วยมองว่าการสำรวจดังกล่าวเป็นเรื่องเสรีภาพทางวิชาการ ไม่ใช่เรื่องการชี้นำ เพราะผลโพลคงไม่สามารถทำให้ ป.ป.ช.มีความเห็นไปในทางใดทางหนึ่งได้

      โดยสิ่งที่ ประชาคมนิด้า ทั้งคณาจารย์-นักศึกษา-เจ้าหน้าที่ของนิด้า จับตามองต่อจากนี้ ก็คือ แล้วใครจะมาเป็น ผอ.นิด้าโพลคนใหม่?

      จะเป็นคนที่อธิการบดีสั่งได้-คุมได้ โดยเฉพาะ ประเด็นที่จะสำรวจความเห็น เพื่อเอาใจผู้มีอำนาจทางการเมืองในแต่ละยุค จนทำให้นิด้าโพลที่ตั้งมาตั้งแต่ปี 2518 ซึ่งนับถึงปัจจุบันเท่ากับตั้งมาแล้ว 43  ปี แล้วหลังจากนี้นิด้าโพลจะขาดเสรีภาพทางวิชาการหรือไม่

      นี่คือสิ่งที่ประชาคมนิด้ากำลังจับตามองอยู่

      อย่างเช่นทัศนะของ พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม  สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ระบุว่า เรื่องที่เกิดขึ้นแม้นายอานนท์จะลาออกไปแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะจบหรือไม่ ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อไปเช่น ท่าทีของสภาคณาจารย์นิด้า จะมีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร

      ประเด็นที่ ดร.พิชาย บอกว่าน่าจับตามองก็คือ การหาตัวคนมาเป็น ผอ.นิด้าโพลคนใหม่ ที่ตามปกติจะอยู่ในตำแหน่ง 3 ปี และเป็นตำแหน่งที่อธิการบดีนิด้าสามารถตั้งคนมาทำหน้าที่ได้เลยตามอำนาจของอธิการบดีโดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากที่ประชุมคณาจารย์หรือที่ประชุมบอร์ดสำนักวิจัยนิด้าโพล

        "หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวรู้สึกกังวล เพราะทำให้ต่อจากนี้คนที่จะเข้าไปเป็น ผอ.นิด้าโพลคนใหม่ ก็คงไม่มีใครอยากไปเป็น เพราะไปเป็น ผอ.นิด้าโพลแล้วต้องมาถูกแทรกแซงการทำงาน ต้องไปอยู่ภายใต้การกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดแบบนี้ คนจะมาเป็น ผอ.นิด้าโพลก็ลำบาก  อาจารย์ที่จะไปเป็น ผอ.นิด้าโพลก็คงไม่อยากไป แต่ก็อาจมีบางคนที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับอธิการฯ ก็อาจจะไปเป็นก็ได้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้อาจารย์ได้รู้แนวคิดของผู้บริหารนิด้าจากที่ไม่เคยรู้มาก่อนด้วย" นายพิชายระบุไว้อย่างน่าสนใจ สำหรับก้าวต่อไปของสำนักนิด้าโพลที่ตั้งมาแล้วถึง 43 ปี

      ขณะที่ก็เป็นไปตามคาดกับการที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องกันตัวเองออกมาจากปัญหาดังกล่าว เพราะรู้ดีว่าหากออกตัวมากเกินไปย่อมไม่เป็นผลดีแก่ตัวนายกฯ และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ แกนนำ คสช. ที่บิ๊กตู่ออกโรงปกป้องเต็มที่กับปมปัญหานาฬิกาหรู

      "เป็นเรื่องของผู้อำนวยการคนดังกล่าว แล้วเกี่ยวอะไรกับผม ซึ่งผมก็เห็นข่าวจากทางโซเชียลมีเดียแล้ว เขาบอกว่าไม่ได้ถูกบังคับ ทั้งนี้ใครจะว่าอะไรก็ว่าไป สื่อก็ขยายความให้เขาไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน บ้านเมืองจะได้ไม่สงบดีไง”

      แม้อีกไม่นานหลังจากนี้ เรื่องการสั่งเบรกผลสำรวจนิด้าโพลคงจะเงียบหายไป แต่มองภาพรวมคนที่ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ ทั้งที่อาจไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องนี้ก็คือ บิ๊กป้อม-พลเอกประวิตร ที่กรณีนิด้าโพลดังกล่าว ยิ่งทำให้ความน่าเชื่อถือของบิ๊กป้อมต่อปมปัญหานาฬิกาหรู ยิ่งทรุดหนักลงไปอีก.