อย่าตื่นตระหนก นายกฯชี้กม.ใหม่ สื่อยำจนน่ากลัว


เพิ่มเพื่อน    

  นายกฯ วอนอย่าเพิ่งตื่นตระหนกกับกฎหมายใหม่ที่จะออกมา เผยยังไม่เคยเห็นกฎหมายไซเบอร์ เห็นแต่ที่สื่อมวลชนเอามาเขียนก็รับไม่ได้เช่นเดียวกัน เพราะต้องมีการตรวจสอบ มีการถ่วงดุล  มีมาตรการลงโทษทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ที่ทำผิด

    ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ในการเข้าร่วมประชุมเอเชีย-ยุโรป (Asia-Europe Meeting: ASEM) ครั้งที่ 12 ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ระหว่างวันที่ 18-19 ตุลาคม 2561 โดยเมื่อวันที่ 19 ต.ค. เวลา 17.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น  กรุงบรัสเซลส์ ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป-อาเซียนว่า อียูมีความสำคัญต่ออาเซียน เป็นแหล่งลงทุนอันดับ 1 แหล่งนักท่องเที่ยวอันดับ 2 และคู่ค้าอันดับ 2 ของอาเซียน นอกจากนี้อาเซียนและอียูยังเป็นตัวอย่างของการรวมตัวกันในภูมิภาคที่มีความสำเร็จและก้าวหน้าที่สุดในโลก ซึ่งสนับสนุนภูมิภาคนิยมและพหุภาคีนิยมร่วมกัน ท่ามกลางความท้าทายที่เพิ่มขึ้นของโลก โดยเห็นว่าทั้งสองภูมิภาคควรกระชับความร่วมมือใน 3 ประเด็น
    นายกฯ กล่าวว่า 1.เสริมสร้างความสัมพันธ์เพื่อมุ่งสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในอนาคต  โดยยึดหลักสามเอ็ม (3Ms) คือ การไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน (mutual trust) ความเคารพซึ่งกันและกัน  (mutual respect) และผลประโยชน์ร่วมกัน (mutual benefit) โดยเปิดศักราชใหม่ของความร่วมมือเพื่อนำไปสู่การสร้างดุลยภาพใหม่ทางยุทธศาสตร์ (Strategic New Equilibrium) ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก  และอินโด-แปซิฟิก เพื่อรักษาพลวัต ผนึกกำลังและกระชับความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องและขับเคลื่อนวาระสำคัญของโลกร่วมกัน
    2.อียูและอาเซียนควรเสริมสร้างความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน และขอบคุณที่อียูสนับสนุนศูนย์อาเซียนเพื่อการหารือและการศึกษาวิจัยด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่จะจัดตั้งที่ไทยในปีหน้า
    และ 3.อาเซียนและอียูต้องวางแผนเพื่อรับมือกับพัฒนาการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยคุกคามจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 หรือการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ทั้งสองฝ่ายมีวิทยาการที่ส่งเสริมกันได้
    นายกฯ กล่าวย้ำด้วยว่า ประชาชนสำคัญที่สุด ไม่มีการรวมตัวของกลุ่มใดที่จะยั่งยืนและคงอยู่ตลอดไปหากไม่สามารถตอบสนองผลประโยชน์ของประชาชน ดังนั้นการสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน ถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการรวมตัวกันและรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของประชาคม จึงเป็นพันธกิจที่สำคัญยิ่งสำหรับอาเซียนและอียู ทั้งสองภูมิภาคต้องร่วมกันสร้างประชาคมและสหภาพที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนในภูมิภาค
    พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงการออกกฎหมายเพื่อรองรับเรื่องการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ว่า เขากำลังหารือกันอยู่ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในวงการแพทย์ของเรา และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการใช้แก้ปัญหาในขั้นต้น เช่น บรรเทาอาการเจ็บปวด อาการเครียด ซึ่งเราก็มีตัวยาประเภทนี้อยู่ แต่เราต้องควบคุมให้ได้ ไม่ใช่เรียกร้องไปแบบวันนี้ คือเพื่อใช้ในการพักผ่อนนั้นไม่ได้ ต้องปลูกเพื่อการแพทย์ ต้องมีกฎหมายหมด 
    "ฉะนั้นกฎหมายทุกตัวอย่าเพิ่งไปตื่นตระหนก แล้วนำมาเขียนกันจนน่ากลัวไปหมด เหมือนกฎหมายไซเบอร์ เพราะเขาก็คิดไปถึงข้างล่าง ผมก็ยังไม่เห็นตัวกฎหมาย เห็นแต่ที่สื่อมวลชนเอามาเขียน ซึ่งผมก็รับไม่ได้เช่นเดียวกัน เพราะต้องมีการตรวจสอบ มีการถ่วงดุล มีมาตรการลงโทษ ทั้งเจ้าหน้าที่ ทั้งผู้ที่ปฏิบัติผิด ต้องมีความรับผิดชอบ หากตรวจสอบแล้วเขาไม่ผิดแล้วจะทำอย่างไร ความเสียหายที่เกิดขึ้นต้องดูให้หมด ผมจึงให้รองนายกรัฐมนตรีประชุมและรับผิดชอบในเรื่องกฎหมายกัญชาดังกล่าวนี้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"