หอแต๋วแตก-แหกต่อไม่รอแล้วนะ


เพิ่มเพื่อน    

      ฮื่ออมม์ม์ม์... ผีทักษิณ กับ ผีรัฐประหาร เนี่ย ต้องถือว่าเป็น ผีเรียกแขก ได้พอๆ กับผีประเภท หอแต๋วแตก-แหกชิมิ หรือแหกอะไรต่อมิอะไรที่ต้องแหกไปถึง ภาค 6 กันแล้วในทุกวันนี้ คือไม่ว่าจะแหกขึ้นมาเมื่อไหร่ ย่อมสามารถเรียกแขก เรียกคนดู ชนิดไม่ว่าสายหนัง นายทุน ผู้กำกับ ต้องหยิบมาปัดฝุ่นสร้างแล้ว สร้างเล่า อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้เลย...

                                                               ---------------------------------------------------

      สำหรับคำว่า ผีทักษิณ กับ ผีรัฐประหาร นั้น...คงต้องขออนุญาตหยิบยืม มาจากคุณน้อง จิตกร บุษบา ที่ได้เขียนเรื่องนี้ ตั้งชื่อทำนองนี้ไว้ในข้อเขียน บทความชิ้นล่าสุดของท่าน ในเว็บไซต์ แนวหน้า ซึ่งต้องถือเป็นบทความที่ให้ข้อคิด แบบน่าคิด น่าสะกิดใจ เอามากๆ ใครที่อยากรู้รายละเอียดคงต้องลองไปอ่านเอาเองก็แล้วกัน แต่โดยสรุปรวมๆ แล้ว...ก็คงประมาณว่า ไม่ว่ากรณีทักษิณ ไปพ่น แมงโม้ เอาไว้ที่ญี่ปุ่น ว่า ฝ่ายประชาธิปไตย จะกวาดเก้าอี้ ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เข้ามาประมาณ 300 ขึ้น หรือกรณี บิ๊กแดง พูดเรื่องการ รัฐประหาร แบบตรงไป-ตรงมา แบบเป็นไปตามหลักการและหลักวิชาการแท้ๆ แต่ทั้งสองกรณีนั้น...ต่างก็ เรียกแขก หรือเรียกบรรดาแฟนหนังประเภท หอแต๋วแตก ทั้งหลาย ออกมาแหกโน่น แหกนี่ กันอุตลุด...

                                                                 -------------------------------------------------------

      คือทั้งๆ ที่บ้านเมืองทุกวันนี้ และในอนาคตข้างหน้า...มันน่าจะไปไกลกว่าเรื่องผีๆ หรือไม่น่าจะเสียเวลา วิ่งหนีผีลงตุ่ม อะไรต่อมิอะไรอีกแล้ว เพราะมันมีเรื่องใหญ่ๆ ที่น่าคิด น่ากลัว น่าหันไปให้ความสนใจอยู่อีกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าเรื่องสังคมไทยที่กำลังหนีไม่พ้นต้องเคลื่อนตัวเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัย อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ เรื่องการเผชิญหน้ากับ เทคโนโลยี ใหม่ๆ ที่โลกมันกำลังยัดเยียดให้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วย แรงถีบ ระดับ ดิสรัปทีฟ เทคโนโลยี ไปด้วยกันทั้งนั้น หรือแม้แต่เรื่อง สงครามระดับโลก ที่หวุดๆ หวิดๆ เฉียดๆ ฉิวๆ ต่อการ จุดไฟนรกสุดขอบฟ้า ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้...ฯลฯ อะไรทำนองนี้นี่แหละ ที่มันน่าคิด น่าสนใจ หรือแม้แต่น่ากลัว ซะยิ่งกว่า ผีทักษิณ หรือ ผีรัฐประหาร ไม่รู้กี่สิบ กี่ร้อยเท่า...

                                                                    -----------------------------------------------------

      แต่ก็อย่างว่า...บรรดาผู้สร้าง ผู้กำกับ ตลอดไปจนถึงสายหนังจำนวนไม่น้อย ท่านก็ยังอาจจะ คุ้นชิน หรือคุ้นเคย เคยชิน อยู่กับการ ทำรายได้ จากมุกเก่าๆ มุกเดิมๆ ประเภท วิ่งหนีผีลงตุ่ม อะไรประมาณนั้น มุกที่ว่า...มันจึงยังคงเป็นมุกคลาสสิก ที่สามารถเรียกแขก หรือเรียกฝ่าย ไม่เอาทักษิณ และฝ่าย ไม่เอารัฐประหาร ให้ออกมาเล่นบทเป็น จตุรงค์ มกจ๊ก กันไปเป็นรายๆ แม้ว่าผู้กำกับหนัง หอแต๋วแตก อย่างคุณ พจน์ อานนท์ ที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล ไปเป็นอะไรต่อมิอะไรก็จำไม่ได้ซะแล้ว ท่านออกจะบ่นๆ เบื่อๆ กับมุกประเภทนี้อยู่พอสมควร แต่ทำไงได้...ในเมื่อมันยัง ขายได้ ก็เลยยังคงต้องเข็นหนัง หอแต๋วแตก-แหกต่อไม่รอแล้วนะ หรือ หอแต๋วแตก-ภาค 6 ออกมาอีกจนได้...

                                                                       ---------------------------------------------------

      การที่บรรดาแขกๆ หรือบรรดาแฟนหนังไทย...ยังเรียกร้องต้องการมุกประเภทนี้ อันที่จริง...คงต้องถือเป็นภาพสะท้อน การเมืองไทย ได้พอสมควร คือมันยังไม่น่าจะไปไหน ยังวนมา-วนไปอยู่กับเรื่องเก่าๆ เดิมๆ ที่เคยสร้างความเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า ให้กับบ้านเมืองมาตลอดนับเป็นทศวรรษๆ แม้ว่าโลกยุคใหม่ สังคมสมัยใหม่ มันจะไปไหนต่อไหนของมันไปนานแล้ว ชนิดที่สิ่งที่เรียกๆ กันว่า ฝ่ายประชาธิปไตย ออกอาการหัวทิ่ม หัวตำ ล้มคว่ำคะมำหงายไปแล้ว แทบจะทั่วทั้งโลก ยิ่งเป็น ประชาธิปไตยแบบทรัมป์ๆ หรือประชาธิปไตยอเมริกาด้วยแล้ว ยิ่งแทบไม่ต่างอะไรไปจาก ประชาธิปไตยแบบฮิตเลอร์  ประชาธิปไตยที่อาศัยอำนาจเผด็จการในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าด้วย กองทัพ หรือด้วย เงินดอลลาร์ บีบบังคับให้ใครต่อใครต้องเป็นไปตาม อำเภอใจ ของตัวเอง ชนิด ตัวกู-ของกู หรือชนิด อเมริกา...ต้องมาก่อน อะไรประมาณนั้น...

                                                                        -------------------------------------------------------

      ขณะพวกที่เชื่อมั่น ศรัทธาในเรื่อง อำนาจรัฐต้องมาจากปากกระบอกปืน ซึ่งไม่ได้ต่างไปจากพวกที่ชอบ รัฐประหาร มากมายซักเท่าไหร่ กลับดันกลายเป็น นักสร้างสันติภาพ กลายเป็นผู้สนับสนุนการค้าเสรี สนับสนุนโลกาภิวัตน์ แถมยังยึดมั่นกับกฎระเบียบ กติกา พร้อมจะให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ช่วยพิทักษ์โลก ปกป้องโลก ไม่ให้เกิดภาวะโลกร้อนอย่างไม่ต้องเสียเวลาไปบีบบังคับใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย จนทำให้เกิด มุก ใหม่ๆ ขึ้นมาอีกเยอะแยะมากมาย ไม่จำเป็นต้องวิ่งหนีผีลงตุ่มต่อไปอีกแล้ว หรืออาจไม่ต้อง กลัวผี เอาเลยก็ยังได้ สู้หันมา กลัวคน หรือกลัวสิ่งที่คนประดิษฐ์ คิดค้น เอาไว้ใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกล่อ หลอกลวงผู้คนด้วยกันเอง ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นระบอบการเมือง การปกครอง หรือระบบเทคโนโลยี ก็แล้วแต่ น่าจะเข้าท่ากว่าเป็นไหนๆ...

                                                                      -----------------------------------------------------------

      อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่แหละ...ที่น่าจะทำให้บรรดาแฟนหนัง หอแต๋วแตก ทั้งหลาย น่าจะคิดๆ ขึ้นมาซักนิดหนึ่ง และนั่นเองที่จะช่วยไม่ให้ผู้กำกับหนัง อย่างคุณ พจน์ อานนท์ ท่านต้องเบื่อๆ อยากๆ ต่อไปอีก หรือช่วยให้บรรดา จตุรงค์ มกจ๊ก ไม่ว่าจะอยู่ในฝ่าย ไม่เอาทักษิณ  หรือ ไม่เอารัฐประหาร ก็แล้วแต่ ไม่ต้องเสียเวลาวิ่งหนีผีลงตุ่มแบบชนิดภาคแล้ว ภาคเล่า หันมาประดิษฐ์ คิดค้น หามุกใหม่ๆ ที่อาจเรียกเสียง ฮา ได้ยิ่งกว่าเดิม และนั่นอาจช่วยให้ มาตรฐานของหนังไทย เกิดการยกระดับ ไปสู่อินเตอร์ สู่เมืองคงส์ เมืองคานส์ อะไรก็แล้วแต่ ไม่ต้องเสียเวลาไปหากินกับหนังประเภทหนังผีๆ อีกต่อไป...

                                                                      -----------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Anon... Anger, like fire, given no vent soon smothers.-ความโกรธเปรียบได้ดังไฟ หากไม่มีช่องให้ลมกระพือพัดแล้ว ไม่ช้าก็จะมอดลงไปเอง...

                                                                       -----------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"