'เพื่อไทย' เลือก 'หัวหน้าพรรค' ภาพยังชัด-ชินวัตรแฟมิลี่โหวต


เพิ่มเพื่อน    

      พรรคการเมืองทั้งพรรคใหม่-พรรคเก่า อาศัยจังหวะช่วงนี้ แม้ คสช.ยังแค่คลายล็อก ไม่ปลดล็อก แต่หลายพรรคการเมืองก็ใช้ช่วงเวลาที่มีอยู่ตอนนี้ก่อนถึงศึกเลือกตั้งทำกิจกรรมการเมืองกันอย่างคึกคัก

      อย่าง "พรรครวมพลังประชาชาติไทย” (รปช.) ทางสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรค รปช. ก็เร่งเดินสายโกยแต้มอย่างหนัก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เดินทางไปยังจังหวัดขอนแก่นเพื่อพบกับแนวร่วมของพรรคในภาคอีสาน

      ส่วน "พรรคพลังประชารัฐ” ก็เช่นกัน แกนนำพรรคทั้ง อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะว่าที่หัวหน้าพรรค, สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ในฐานะว่าที่เลขาธิการพรรค, สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่าที่รองหัวหน้าพรรค ก็ลงพื้นที่แถวๆ เลม่อน มี ฟาร์ม อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมาเช่นกัน

      ขณะเดียวกัน บางพรรคก็อยู่ระหว่างการจัดทัพ เช่น “พรรคประชาธิปัตย์” ที่อยู่ระหว่างการชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค ปชป. ก็จะมีการจัดดีเบตผู้สมัครทั้ง 3 คน คืออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม และอลงกรณ์ พลบุตร ในวันที่ 26 ต.ค. ที่ที่ทำการพรรค ภายใต้หัวข้อ “ดีเบตประชาธิปัตย์ 61 คนไทยจะได้อะไร”  เช่นเดียวกับ "พรรคชาติไทยพัฒนา” ก็จะมีการประชุมใหญ่เลือกกรรมการบริหารพรรค–หัวหน้าพรรคกันในวันที่ 26ต.ค.นี้เช่นกัน

      อย่างไรก็ตาม ไฮไลต์สำคัญของสัปดาห์นี้ หลายคนจับจ้องไปที่การประชุมใหญ่ "พรรคเพื่อไทย” ในวันอาทิตย์ที่ 28 ต.ค. ว่าสุดท้ายแล้ว ใครจะได้เป็นหัวหน้าพรรคกันแน่ หลังกระแสข่าวพลิกไปพลิกมาหลายตลบ

      เพราะมีชื่อปรากฏออกมาหลายชื่อก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น สมชาย วงศ์สวัสดิ์-คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์-ชัชชาติ สิทธิพันธุ์-จาตุรนต์ ฉายแสง-โภคิน พลกุล-พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์-ปานปรีย์ พหิทธานุกร-พิชัย นริพทะพันธุ์ ก่อนที่ต่อมาแคนดิเดต เริ่มเหลือเพียงไม่กี่ชื่อ หลายชื่อเริ่มหายไปในการถูกพูดถึงของคนเพื่อไทย โดยบางชื่อก็มีข่าวว่าจะไปอยู่พรรคสาขาของเพื่อไทยเช่น สมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะไปอยู่พรรคเพื่อธรรม หลังเจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ให้ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ไปปูทางไว้หมดแล้ว

      ทำให้ช่วงโค้งสุดท้าย สัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงวันชี้ขาด 28 ต.ค. แกนนำเพื่อไทยที่คนส่วนใหญ่จับจ้องก็คือ “เจ๊หน่อย-คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" ว่าสุดท้ายแล้ว จะเป็นหัวหน้าพรรคเต็มตัว หรือจะเป็นแคนดิเดตชิงเก้าอี้นายกฯ ของพรรคเพื่อไทย แต่ไม่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อย่างที่มีกระแสข่าวหนาหูในช่วงหลัง แล้วคนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรค คือ "พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์" รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน อันเป็นสูตรคล้ายๆ กับตอนเลือกตั้งปี 2554 ที่หัวหน้าพรรค คือ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ แต่ผู้ที่พรรคเพื่อไทยดันเป็นนายกฯ ตั้งแต่ตอนหาเสียงเลือกตั้ง คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือเป็นคนละคนกัน

      เรื่องดังกล่าว คนในเพื่อไทยอย่าง "ประยุทธ์ ศิริพานิชย์" ประธานภาคอีสานของพรรคเพื่อไทย เปิดเผยไว้ล่าสุดว่า แว่วๆ ได้ยินข่าวมาว่า ในการประชุมพรรคเพื่อไทยวันที่ 28 ต.ค.นี้ ในที่ประชุมจะมีการเสนอชื่อหัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรคและกรรมการบริหารพรรค ชุดรักษาการในปัจจุบันทุกรายชื่อให้ที่ประชุมลงมติเห็นชอบทั้งหมด ส่วนจะมีใครเสนอชื่อคนอื่นมาให้ที่ประชุมโหวตเลือกหรือไม่ ก็ต้องดูว่าจะมีผู้รับรองเห็นด้วยหรือไม่

       “ผมก็เห็นว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ รักษาการหัวหน้าพรรคปัจจุบันก็มีความเหมาะสม เช่นเดียวกับนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ก็เหมาะสมที่จะเป็นเลขาธิการพรรคต่อไป ข่าวล่าสุดผมก็ได้ยินมาว่า เขาจะเสนอรายชื่อกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ชุดเก่าหรือชุดรักษาการตอนนี้เข้ามาหมด ถ้าชุดเก่าเข้ามาก็ไม่น่ามีปัญหา แต่จะมีเสนอชื่อคนอื่นหรือไม่ ยังเดาใจไม่ออก”

      ประธานภาคอีสานเพื่อไทย เปิดเผยความเคลื่อนไหวล่าสุด

      เรื่องทิศทางของพรรคเพื่อไทยต่อจากนี้ "นพดล ปัทมะ" แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีต รมว.การต่างประเทศระบุว่า เรื่องหัวหน้าพรรค พรรคตั้งเป้าให้เป็นคนที่โดดเด่น ถ้าไม่ใช่ก็จะเป็นจุดด้อยของเราที่แข่งขันกับพรรคอื่นไม่ได้ เช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ก็มีตัวตนชัดเจน

       “หัวหน้าพรรคเพื่อไทยต้องมีคุณลักษณะเนื้อเดียวกับพรรค เป็นตัวจริงเสียงจริง มีความรู้ความสามารถ มีจุดยืนประชาธิปไตยชัดเจน เป็นผู้นำสมาชิกพรรคไปสู่การเลือกตั้ง ความเห็นผม ไม่จำกัดอายุ หนุ่มหรือแก่ แต่ต้องมีความรู้เศรษฐกิจทั้งระดับฐานราก มหภาค จะสร้างรายได้อย่างไรให้คนจน คนฐานราก เกษตรกรอย่างไร ต้องรู้เรื่องเศรษฐกิจ ระยะนี้เป็นวาระเศรษฐกิจ นักเศรษฐกิจ ต้องเข้าใจ ไม่จำเป็นต้องนักเศรษฐศาสตร์ และต้องมีจุดยืนประชาธิปไตยชัดเจน มีภาวะผู้นำการนำพรรค”

       “นพดล” ยังกล่าวถึงตัวคนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หลังมีการตั้งคำถามว่า หัวหน้าพรรคต้องเป็นคนที่ต่อสู้กับพรรคมาตลอดหรือไม่ โดยเขาตอบว่า ไม่สามารถพูดแทนคนอื่นได้ เวลาดูใครต้องดูอดีตว่าปัจจุบันจะทำอย่างไร อนาคตจะเดินไปถึงไหน เป็นเรื่องปกติ ยิ่งหัวหน้าพรรคต้องพิจารณา มีทั้งจุดยืน มีภาวะผู้นำ กล้าคิด กล้าทำ เราคงไม่กำหนดสเปกละเอียด ต้องอยู่กับพรรคมาทุกสัปดาห์ ทุกเดือน ทุกปี ไม่ขนาดนั้น และต้องเป็นคนที่ช่วยให้เราได้คะแนนเพิ่มขึ้น ดึงดูดทั้งสมาชิกเรา และคะแนนใหม่ และคะแนนที่ไม่เคยเลือกเรา เป็นเรื่องจำเป็น บางทีไปปรากฏตัวสื่อครั้งหนึ่ง ทำให้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นมา ในยุคโซเชียลมีเดีย คุณลักษณะของผู้นำพรรคมีความจำเป็น ผู้นำพรรคต้องมีเสน่ห์ดึงดูด มีบารมีการเมือง

       “เรื่องหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในพรรคไม่ได้ทะเลาะเบาะแว้งกัน อาจเป็นไปได้ พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ คนจะเป็นหัวหน้าพรรคต้องเป็นคนสำคัญ และถือว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยมีโอกาสเป็นนายกฯ สูงกว่าพรรคอื่น พรรคใหญ่ขับเคลื่อนอะไร ความเห็นหลากหลาย หากผ่านกระบวนการคัดสรร ซาวเสียงตามธรรมชาติ ทุกคนก็พร้อมให้ความสนับสนุน ให้ความร่วมมือ”

      นพดล ระบุไว้ก่อนถึงวันเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในสุดสัปดาห์นี้

      ขณะเดียวกัน ก็มีกระแสข่าวว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ ก่อนถึงวันประชุมใหญ่พรรค 28 ต.ค. จะมีความเคลื่อนไหวของคนเพื่อไทยเกิดขึ้นอย่างคึกคัก เห็นได้จากที่หลายวันที่ผ่านมา มีข่าวว่าอดีต ส.ส.เพื่อไทย แกนนำพรรคเพื่อไทย หลายกลุ่มเดินทางไปคุยกับ ทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกง แม้แต่คนเพื่อไทยที่แยกตัวไปตั้งพรรคการเมืองอื่นอย่าง “ยงยุทธ ติยะไพรัช" แกนนำตั้งพรรคเพื่อชาติ ก็ยังมีข่าวว่าบินไปหาทักษิณ เพื่อหารือการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัว

      อีกทั้งให้จับตาความเคลื่อนไหวของอดีต ส.ส.เพื่อไทยในภาคต่างๆ และกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่จะมีการนัดรวมตัวกันในช่วงสัปดาห์นี้ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด แยกเป็นวงเล็กวงใหญ่ ก่อนจะมีการประชุมใหญ่พรรคในวันอาทิตย์ที่ 28 ต.ค. แต่หลักๆ คาดว่า อดีต ส.ส.เพื่อไทย-แกนนำพรรคเพื่อไทยหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มอดีต ส.ส.ต่างจังหวัด จะมีการหารือกันรอบสุดท้ายในช่วงเย็น-ค่ำ วันเสาร์ที่ 27 ต.ค. เพื่อพูดคุยกันให้ตกผลึกก่อนที่จะไปประชุมพรรคในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 28 ต.ค. ที่เชื่อว่าก่อนเข้าประชุม ทุกคนในเพื่อไทยคงได้สัญญาณมาหมดแล้วว่า สุดท้าย “ทักษิณและคนตระกูลชินวัตร” จะดันใครเป็นหัวหน้าพรรค-แคนดิเดตนายกฯ

       เมื่อสัญญาณชัด การลงมติในห้องประชุมใหญ่ 28 ต.ค. ก็น่าจะเป็นเอกภาพ ไม่มีอะไรแตกแถว ไม่เกิดภาพการงัดข้อ ขวางลำกันเองในที่ประชุม จนทำให้เกิดภาพเพื่อไทยขัดแย้งกันปรากฏออกมาให้เห็นภายนอก อันเป็นสิ่งที่ทักษิณคงไม่ยอมให้เกิดขึ้น.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"