ข้องใจบัตรคนจน เงินกองร้านธงฟ้า แทนโอนตรงปชช.


เพิ่มเพื่อน    

    "มาร์ค" ข้องใจบัตรคนจน เงินไปกองร้านธงฟ้า แทนโอนตรงถึงชาวบ้านหมุนเวียนในชุมชน แนะอีอีซีเขียนเงื่อนไขให้ชัด สร้างงานประชาชน "พิชัย" เย้ย "บิ๊กตู่" ดี๊ด๊าอันดับแข่งขันไทยขยับที่ 38 เทียบ 10 ปีก่อนไม่ติดฝุ่น
    เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืน ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าไม่เข้าใจแต่แรกว่าทำไมไม่โอนเงินหรือจ่ายเงินสดให้เขา นึกภาพมีคนที่ถือบัตรร่วม 11.4 ล้านคน โดยให้เงินเดือนละตั้งแต่ 200 บาทถึง 500 บาท คิดดูว่าเป็นเงินเดือนละเท่าไหร่ หากให้เขาใช้เงินได้อย่างอิสระ คนในชุมชน หมู่บ้าน จะนำเงินไปใช้ในร้านขายของชำ ตลาดสดจำนวนหนึ่ง พอแม่ค้าร้านขายของในชุมชนได้เงิน เขาก็นำเงินมาใช้ ทำให้เกิดการหมุนเวียน
    "แต่เขาคิดได้อย่างไรให้เงินทั้งหมดไปกองไว้ที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ จ่ายรอบเดียว เงินดูดเข้าไปในร้าน แล้วเจ้าของร้านจะใช้เงินได้สักเท่าไหร่ คนที่เคยค้าขายกับคนยากคนจน เลยจนเองด้วย ถ้าไม่ได้เป็นร้านธงฟ้า เพราะการซื้อของถูกดูดไปอยู่ที่ร้านธงฟ้าหมด" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว และว่า นี่คือตัวอย่าง ไม่ได้บอกว่าจะเลิก แต่ต้องทำให้ดีกว่านี้ ต้องตอบโจทย์คนธรรมดาให้มากกว่านี้ ต้องมีการปรับเพื่อให้ผู้ถือบัตรมีอิสระในการใช้จ่าย ไม่ใช่ให้เอาเงินไปกองไว้
    ส่วนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ดูแล้วไม่ได้มีปัญหา เพียงแต่ว่าต้องมีเงื่อนไขให้ชัดว่า คนที่มาลงทุนในโครงการจะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศ ให้กับคนไทยอย่างไร ไม่ใช่แค่ดูแค่ตัวเลขเข้ามาลงทุน แต่สุดท้ายไม่ได้สร้างงาน ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างชัดเจน
       ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน และทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลดีใจว่าอันดับความสามารถแข่งขันของไทยที่จัดโดยเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัมดีขึ้น 2 อันดับ จาก 40 มาอยู่อันดับที่ 38 นั้น อยากให้ข้อมูลที่ถูกต้องว่าความสามารถแข่งขันของไทยที่ประกาศในปีที่แล้ว ปี 2560 อยู่ที่อันดับที่ 40 ซึ่งเป็นอันดับที่ต่ำสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และในปี 2561 นี้ ดีขึ้นมา 2 อันดับ มาอยู่ที่ 38 จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจนัก เพราะหากมองย้อนหลัง 10 ปี อันดับความสามารถแข่งขันที่ดีที่สุดของไทยเคยอยู่อันดับที่ 28 ในปี 2551 จนมาตกต่ำที่สุดในปี 2560 ที่อันดับ 40 ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และปีนี้ดีขึ้นมาอยู่อันดับที่ 38 ก็ยังห่างจากอันดับ 28 มาก 
    สำหรับสาเหตุหลักของความสามารถแข่งขันของไทยที่ลดต่ำลงมานั้น เกิดจากความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาลและการปฏิวัติรัฐประหาร จึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันแก้ไข และอยากให้เคารพเสียงของประชาชนให้รู้จักแพ้ รู้จักชนะ เหมือนที่ผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ประกาศ พวกที่คิดจะปั่นป่วนประเทศไม่รับฟังเสียงประชาชนส่วนใหญ่ต้องเลิกทำ และเชื่อว่าการปฏิวัติรัฐประหารจะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าการปฏิวัติรัฐประหารได้สร้างความเสียหายต่อประเทศอย่างมหาศาล โดยเฉพาะความเสียหายทางเศรษฐกิจ 
    ทั้งนี้ มีนักวิชาการประเมินกันว่าความเสียหายจากการปฏิวัติรัฐประหารตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน มีถึงประมาณ  10.97 ล้านล้านบาทเลย ซึ่งหากไม่มีการปฏิวัติประชาชน คงมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้มาก โดยถึงแม้เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะโตได้ 4% กว่า แต่ก็เสียโอกาสมา 4 ปีแล้วที่เศรษฐกิจโตต่ำ แทนที่ไทยจะโตได้มากกว่า 4-5% ทุกปีตามศักยภาพ หากไม่เกิดการปฏิวัติ ซึ่งในปีหน้าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยมีโอกาสที่จะกลับไปโตต่ำลงอีกครั้ง ตามคำเตือนของธนาคารโลก ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย และไอเอ็มเอฟ เนื่องจากไทยจะประสบปัญหาการลงทุนในภาคเอกชน โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างประเทศที่ลดลงมากมาตลอด 4 ปี อีกทั้งเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวต่ำลงด้วย ประกอบกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะเพิ่มความรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ การส่งออกของไทยจะขยายตัวลดลงในปีหน้า 
    นายพิชัยกล่าวว่า หากมีการเลื่อนการเลือกตั้ง ความมั่นใจของต่างประเทศจะยิ่งลดลง และยิ่งมีความไม่แน่นอนว่าจะเกิด มีการปฏิวัติรัฐประหารในประเทศไทยขึ้นอีกหรือไม่ จะยิ่งทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ดังนั้นในขณะที่ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้งเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของประเทศกลับมา จึงอยากเรียกร้องขอทุกฝ่ายให้ปฏิบัติตามมาตรฐานสากลในทุกด้าน ระมัดระวังคำพูดที่จะสร้างความเสียหาย อีกทั้งควรจะต้องปลดล็อกทั้งหมด และอนุญาตให้หาเสียงได้อย่างเสรี ทั้งการลงพื้นที่และทางโซเชียลมีเดียในทันที อีกทั้งต้องยกเลิกการกลั่นแกล้งและการดำเนินคดีทางการเมืองทั้งหมด เพื่อให้เห็นว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นจะเป็นไปอย่างบริสุทธิ์และยุติธรรม เป็นที่เชื่อถือได้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประเทศไทยให้กลับมาโดยเร็วที่สุดหลังการเลือกตั้ง เพื่อรัฐบาลใหม่จะได้เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาการกินดีอยู่ดีของประชาชนได้โดยเร็ว หลังจากที่ลำบากกันอย่างมากมากว่า 4 ปีแล้ว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"