แจงน้ำปลาไทย4ยี่ห้อ ถูกสหรัฐกักไว้ให้ชี้แจง


เพิ่มเพื่อน    

    “พาณิชย์” สยบดรามาสหรัฐแบนน้ำปลาไทย ยันไม่ได้ถูกห้ามนำเข้าทั้งหมด มีเพียง 4 ยี่ห้อที่ถูกขึ้นบัญชีเตือน เพื่อตรวจสอบกระบวนการผลิตว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ หากชี้แจงได้ก็ไร้ปัญหา ส่วนยี่ห้ออื่นๆ ไม่ได้รับผลกระทบ เผย 8 เดือนสหรัฐนำเข้าน้ำปลาไทยกว่า 6 พันตัน มูลค่า 231 ล้านบาท
    เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมนี้ นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงกรณีมีข่าวสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (USFDA) ห้ามนำเข้าน้ำปลาไทยบางยี่ห้อ ว่า ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และเป็นความเข้าใจผิด เพราะปัจจุบันไทยยังสามารถส่งออกน้ำปลาไปยังตลาดสหรัฐได้ตามปกติ มีเพียงน้ำปลาบางยี่ห้อที่มีปัญหา เพราะถูกสหรัฐใส่รายชื่อไว้ในบัญชีแจ้งเตือนสินค้าที่ถูกกักกันการนำเข้า (IMPORT ALERT) ว่าอาจจะเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ปลอดภัยต่อการบริโภค ตามระเบียบ 21 CFR PART 123 ที่มีผลบังคับใช้เมื่อ 18 ธ.ค.2540 ที่กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ปลาและการประมงทุกอย่าง ทั้งที่มีแหล่งกำเนิดในต่างประเทศหรือในสหรัฐ ต้องได้รับการจัดเตรียม บรรจุ และเก็บรักษาให้เป็นไปตามข้อกำหนด HACCP หากผู้ผลิตรายใดไม่ปฏิบัติตาม อาจถูกกักกันการนำเข้า โดยไม่ต้องมีการตรวจตัวสินค้า จนกว่าจะมีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าได้ดำเนินการตามข้อแนะนำของการแจ้งเตือนดังกล่าวแล้ว
    “ที่ผ่านมามีน้ำปลาไทยถูกขึ้นบัญชีจำนวน 4 รายการ คือ ตราคนแบกกุ้ง ปี 2553 ตราพูนสินและทิพรส ปี 2557 และล่าสุดตราปลาหมึก เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2561 ส่วนตราไซ่ง่อน ที่ถูกขึ้นบัญชีปี 2552 ได้เลิกกิจการไปแล้ว ซึ่งนอกจากน้ำปลาไทย ยังมีน้ำปลาจากเวียดนาม คือ ตันฮา ฟิซซอส ที่ถูกเตือนมาตั้งแต่ 12 ม.ค.2561 โดยน้ำปลาเหล่านี้ที่ถูกแจ้งเตือนจาก FDA ไม่สามารถนำเข้าได้เป็นการชั่วคราว” นายอดุลย์กล่าว และว่า ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมประมง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) อยู่ระหว่างการช่วยเหลือเอกชนและเจรจาผลักดันให้ USFDA ยกเลิกหรือผ่อนผันการกักสินค้าน้ำปลาจากผู้ประกอบการไทย ขณะที่ผู้ประกอบการก็ยินดีให้ตรวจสินค้า เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสารปนเปื้อนตามที่มีการกังวล และจะนำไปชี้แจงต่อ USFDA ต่อไป
    นายอดุลย์เปิดเผยด้วยว่า สหรัฐถือเป็นตลาดส่งออกน้ำปลาใหญ่ที่สุดของไทย มีสัดส่วน 22-24% ของการส่งออกไปทั่วโลก และปัจจุบันพบว่ายังคงส่งออกได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะถูกเตือนในบางยี่ห้อ เพราะยังมีผู้ส่งออกรายอื่นๆ อีกกว่า 10 ยี่ห้อ ที่ยังส่งออกได้ตามปกติ ไม่ถึงขั้นต้องใช้เกลือทดแทนตามที่เป็นข่าว
    ทั้งนี้ การส่งออกน้ำปลาไปสหรัฐล่าสุดในช่วง 8 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ส.ค.) ส่งออกปริมาณ 6,199 ตัน เพิ่มขึ้น 2.38% มูลค่า 231 ล้านบาท ขณะที่ปี 2557 ส่งออกได้ 10,927 ตัน มูลค่า 372 ล้านบาท ปี 2558 ส่งออกได้ 11,166 ตัน มูลค่า 390 ล้านบาท ปี 2559 ส่งออกได้ 12,648 ตัน มูลค่า 479 ล้านบาท และปี 2560 ส่งออก 10,732 ตัน มูลค่า 395 ล้านบาท ซึ่งลดลง เพราะสหรัฐลดการนำเข้าทุกประเทศ
    น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ผลิตน้ำปลาที่สหรัฐกักกัน ได้มีการชี้แจงไปแล้ว กำลังรอคำตอบจากสหรัฐอยู่ ส่วนผลกระทบต่อร้านอาหารไทยในสหรัฐ เท่าที่ตรวจสอบยังไม่มี เพราะมีน้ำปลาอีกหลายสิบยี่ห้อให้ใช้
    ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องสหรัฐอเมริกาห้ามนำเข้าน้ำปลาก็ต้องเข้าใจ ซึ่งตนได้ถามในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและกระทรวงพาณิชย์แล้ว บริษัทที่ถูกแบนไม่ใช่ทั้งหมด มีเพียง 2 บริษัท ซึ่งมีการหารือเรื่องนี้มา 5 ปีแล้ว กระทรวงพาณิชย์ก็เตือนไปหลายครั้ง ทั้งหมดอยู่ที่กระบวนการผลิต ต้องไปต้มหรือไม่ ซึ่งเขาต้องไปปรับแก้วิธีการผลิตให้ตรงกับที่มีการกำหนด คงไม่ใช่เรื่องการแบนน้ำปลาไทยทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำลังประสานงานอยู่.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"